เมื่อพ่อค้าจีนรุกหนัก ศึกใหญ่ที่คนขายออนไลน์ต้องปรับตัว!



Main Idea

 
  • ยุคแรกที่การค้าขายออนไลน์บูม นอกจากจะมีแบรนด์ไทยเกิดใหม่มากมาย ก็ยังมีผู้ประกอบการหัวใสจับสินค้าจีนราคาถูกเข้ามาขายบนโลกออนไลน์ สร้างเม็ดเงินจำนวนมาก
 
  • แต่ยุคนี้ที่ตลาดออนไลน์เฟื่องฟู ไม่ได้เป็นโอกาสแค่ผู้ประกอบการไทยเท่านั้น แต่มีผู้ประกอบการจีนเข้ามาตีตลาดอย่างชัดเจน พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์หลายคนที่นำเข้าสินค้าก็ก่ายหน้าผากกันเป็นแถว
 
  • แล้วแบบนี้พ่อค้าแม่ค้าคนไทย ไม่ว่าจะนำเข้าสินค้าจากจีนก็ดี หรือทำแบรนด์สินค้าเองจะต้องปรับตัวสู้อย่างไร นี่คือความท้าทายใหม่ที่ผู้ประกอบการจะต้องเปลี่ยนตัวเองให้ทัน!
 


 
 
     ใครๆ ก็รู้ว่า E-commerce ในไทยกำลังเติบโตอย่างต่อเนื่องแบบฉุดไม่อยู่ พฤติกรรมของคนยุคใหม่ มีอะไรก็สั่งออนไลน์ไว้ก่อน ตั้งแต่ข้าวของเครื่องใช้ยันอาหารและเครื่องดื่ม เรียกได้ว่ากำลังซื้อบนโลกออนไลน์นั้นเพิ่มทวีคูณจากเมื่อก่อนมากทีเดียว ในยุคแรกที่การค้าขายออนไลน์บูม นอกจากจะมีแบรนด์ไทยเกิดใหม่มากมาย ก็ยังมีผู้ประกอบการหัวใสจับสินค้าจีนราคาถูกเข้ามาขายบนโลกออนไลน์ ซึ่งสร้างเม็ดเงินจำนวนมาก แต่เวลาผ่านไปพร้อมกับพี่จีนเริ่มขยับเข้ามาตีตลาดบ้านเราทีละนิด ทีละนิด จนในที่สุดตอนนี้บนโลกออนไลน์ก็เต็มไปด้วยสินค้าจีนที่ขายโดยคนจีนเอง ทำให้พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์หลายคนที่นำเข้าสินค้าก็ก่ายหน้าผากกันเป็นแถว
               




     หนึ่งในผู้อยู่เบื้องหลังการค้าขายของพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์อย่าง ณัฐวิทย์ ผลวัฒนสุข Managing Director และ Co-founder ของ LnwShop ได้พูดถึงความท้าทายของผู้ประกอบการออนไลน์ในตอนนี้ว่าสินค้าที่มาจากต่างประเทศกำลังเข้ามาตีตลาดไทย ทำให้ผู้ประกอบการออนไลน์ต้องปรับตัวอย่างเร่งด่วน


     “ความท้าทายของผู้ประกอบการชัดมากในตอนนี้ คือสินค้าที่มาจากต่างประเทศ โดยเฉพาะจีน ทุกคนต้องหาเอกลักษณ์ของตัวเองให้เจอ ดูว่าเราถนัดเรื่องอะไร ถ้าถนัดเรื่องขายก็ต้องสร้างกลุ่มลูกค้าของเราให้ได้ที่สุด ทำให้เขาซื้อสินค้าจากเราได้เร็วที่สุด หากว่าคุณขายแบบไม่มีสินค้าเป็นของตัวเอง ต้องรู้ว่าลูกค้าชอบอะไร พยายามสร้างฐานลูกค้าและเน้นเรื่องของการบริการ แต่ถ้าคุณมีสินค้าเอง ต้องตีโจทย์ว่าควรทำอย่างไรในการสู้สินค้าราคาถูกและคุณภาพดีขึ้นจากจีน นี่คือความท้าทายใหม่และเป็นปัญหาระดับชาติาน”
 



 
ปรับตัวอย่างไรเมื่อพ่อค้าจีนบุกไทย


[1]

 
-- ถ้าคุณมีสินค้า เป็นเจ้าของแบรนด์เอง--


     หากคุณเป็นผู้ประกอบการที่มีสินค้าอยู่ในมือ หมายถึงไม่ได้นำเข้าสินค้าจากจีน มีแบรนด์ของตัวเอง ผลิตสินค้าของตัวเอง ขายเอง แต่กังวลเรื่องสินค้าจีนเข้ามาตีตลาด คุณอาจต้องเน้นเรื่องของการสร้างแบรนด์และความสัมพันธ์กับลูกค้าให้มากขึ้น ข้อได้เปรียบของแบรนด์ไทยคือคุณภาพ ความประณีต ความละเอียดลออไปจนถึงเรื่องของงานดีไซน์ต่างๆ ลองใช้ภูมิปัญญาของไทยหรืออะไรที่ชาวต่างชาติไม่มีมาผสมผสานกับธุรกิจจะช่วยสร้างความแตกต่างให้คุณได้


     นอกจากนี้คุณต้องมีเอกลักษณ์ ชูจุดเด่นของตนเองออกมา สื่อสารผ่านการเล่าเรื่อง ทำ Brand Storytelling ทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าซื้อสินค้าจากคุณแล้วเขาได้รับคุณค่าอะไรบางอย่างมากกว่าการซื้อแล้วจบไป นอกจากนี้ยังต้องปรับตัวอยู่เสมอ
 



 
[2]
 
--ถ้าคุณไม่มีสินค้าเป็นของตัวเอง-- 


     สำหรับผู้ประกอบการออนไลน์ที่นำเข้าสินค้าจากจีน ในตอนนี้มีผู้ประกอบการจีนเข้ามาตีตลาดไทยด้วยตนเอง ทำให้คุณอาจจะไม่สามารถสู้พวกเขาได้ในด้านราคารวมถึงความเร็วของสินค้า แต่สิ่งที่คุณทำได้มากกว่าคือการเข้าใจลูกค้าชาวไทย ความรวดเร็วและที่สำคัญที่สุดคือเรื่องของเซอร์วิส ลูกค้าส่วนใหญ่อาจจะไม่มั่นใจในการสั่งสินค้าจากชาวจีนโดยตรง กลัวสินค้าไม่ตรงปก ดังนั้นคุณต้องใช้จุดอ่อนตรงนี้เพื่อสร้างฐานลูกค้า ทำให้พวกเขามั่นใจในตัวสินค้า จัดส่งอย่างรวดเร็ว มีการบริการที่ดี สามารถตอบคำถามที่พวกเขาต้องการได้ตลอดเวลา





      นอกจากนี้ยังต้องรู้ว่ากลุ่มลูกค้าของคุณชอบสินค้าอะไร สไตล์ไหน เพื่อจะได้หาสินค้าใหม่ๆ มาตอบโจทย์พวกเขาตลอดเวลา เพราะสินค้าเหล่านี้ส่วนใหญ่ราคาไม่แพง มักจะมีการซื้อซ้ำตลอดเวลา คุณจำเป็นที่จะต้องมองหาสินค้าใหม่ๆ ทันแฟชั่น นอกจากนี้ลองมองช่องทางออฟไลน์ไว้บ้างก็จะช่วยให้คุณมีช่องทางการขายที่หลากหลายมากขึ้น
 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: MARKETING

วิกฤตสูงวัย เด็กเกิดใหม่น้อย กรณีศึกษาธุรกิจญี่ปุ่น ปรับตัวผลิตสินค้าผู้ใหญ่แทนสินค้าเด็ก

Oji Holdings ผู้ผลิตผ้าอ้อมในญี่ปุ่นประกาศยุติผลิตผ้าอ้อมเด็ก หันไปเพิ่มปริมาณการผลิตผ้าอ้อมผู้ใหญ่แทน สาเหตุมาจากอัตราการเกิดที่ลดลงและจำนวนประชากรสูงวัยของญี่ปุ่นที่เพิ่มสูงขึ้น

โอกาสโกอินเตอร์ของแบรนด์ไทย ทำงานกับนักธุรกิจระดับโลก งาน Gifts & Premium Fair ฮ่องกง

ฮ่องกงขึ้นชื่อว่าเป็นดินแดนที่มีการจัดงานแสดงสินค้าที่ยิ่งใหญ่ของโลกแห่งหนึ่ง และหนึ่งในนั้นคืองานแสดงสินค้าของขวัญและของพรีเมียมภายใต้ชื่อ Hong Kong Gifts & Premium Fair ซึ่งกำลังจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 27-30 เมษายน 2024