อีคอมเมิร์ชยังแรง JWD ลุยธุรกิจโลจิสติกส์ทุกมิติ ตั้งเป้ารายได้ 4 พันล้านบาท

     ด้วยไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคยุคใหม่ที่ชอบซื้อของออนไลน์ ทำให้ตลาดอีคอมเมิร์ชเติบโตและแข่งขันรุนแรงขึ้น บริษัท เจดับเบิ้ลยูดีอินโฟโลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ JWD ซึ่งดำเนินธุรกิจมาครบรอบ 4 ทศวรรษประกาศทรานฟอร์มธุรกิจ ชูกลยุทธ์ผนึกพันธมิตรข้ามชาติต่อยอดธุรกิจครบวงจรทั้งแนวกว้างและแนวลึกภายใต้ 4 กลุ่มธุรกิจเน้นการใช้เทคโนโลยีเป็นแกนหลักในการพัฒนาและดำเนินธุรกิจ พร้อมขยายแนวรบบริการ "ฟู้ดซัพพลายเชน" บุกตลาดอาเซียนและจีน–ไต้หวัน




     ชวนินทร์ บัณฑิตกฤษดา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เปิดเผยว่า ถึงแม้เศรษฐกิจในประเทศจะยังติดลบ แต่ธุรกิจโลจิสติกส์กลับขยายตัว รวมทั้งบริษัท JWD ที่มีการขยายตลาดไปในภูมิภาคอาเซียน ได้ผนึกพันธมิตรข้ามชาติต่อยอดธุรกิจครบวงจรจากผู้ให้บริการโลจิสติกส์ขั้นปลายน้ำ (บริการคลังและขนส่งสินค้า) ที่มีการแข่งขันราคารุนแรงรุกไปสู่ “ผู้ให้บริการซัพพลายเชนแบบครบวงจร” ตั้งแต่การจัดซื้อจัดหาวัตถุดิบ ผลิตและแปรรูปสินค้า การมีแบรนด์สินค้าอาหารในมือ รวมถึงการขยายโครงสร้างพื้นฐานด้านโลจิสติกส์อื่นๆ


     ทั้งนี้บริษัทจึงได้ปรับโครงสร้างใหม่ประกอบด้วย 4 แกนหลักคือ กลุ่ม 1 ธุรกิจโลจิสติกส์ จะเพิ่มบริการที่หลากหลายให้ครอบคลุมบริการครบวงจรรองรับลูกค้าทั้งแบบ B2B และ B2C โดยร่วมทุนกับบริษัท ซีเจ โลจิสติกส์จากเกาหลีใต้ มีการใช้ AI การนำหุ่นยนต์ มาช่วยอำนวยความสะดวกในการทำงาน หรือแม้แต่ธุรกิจบริการ Self-Storage (ห้องเก็บของส่วนตัวให้เช่า) ที่รองรับกลุ่มแม่ค้าออนไลน์ที่พยายามตัดพ่อค้าคนกลางออกจึงต้องการพื้นที่เก็บสินค้าของตัวเอง และธุรกิจ JWD Art Space บริการจัดเก็บและแสดงงานศิลปะครบวงจรที่สยามสแควร์ นอกจากนี้ มีแผนขยายโครงสร้างพื้นฐานโลจิสติกส์อื่นๆ เช่น การให้บริการท่าเทียบเรือ ปัจจุบันบริษัทเริ่มให้บริการการยกขนตู้รถไฟบริเวณท่าเรือแหลมฉบัง คาดว่าปีนี้บริหารตู้สินค้าประมาณ 1 แสนตู้ต่อปี สามารถสร้างรายได้เพิ่ม JWD 60-80 ล้านบาทต่อปี





     “การให้บริการด้านอีคอมเมิรช์ต้องพัฒนาให้เร็วขึ้นกว่าอดีตเยอะมาก ปัจจุบันบริษัทต้อง sourcing สินค้าทางด้านอีคอมเมิร์ซ วันหนึ่ง 4 แสนกว่าชิ้น ต้องทำให้เสร็จภายใน 12 ชั่วโมง ถ้าเราไม่มีเทคโนโลยีมาช่วย ทำให้ไม่สามารถส่งมอบสินค้าได้ทัน”


     กลุ่ม 2 ธุรกิจอาหาร ให้บริการฟู้ดซัพพลายเชนโซลูชั่นส์ ตั้งแต่กระบวนการจัดซื้อจัดหาวัตถุดิบสำหรับลูกค้า กระบวนการแปรรูปและจัดเตรียมวัตถุดิบพร้อมปรุง ล่าสุดบริษัทได้เป็นตัวแทนจัดหาผักให้กับ แม็คโดนัลด์ที่ไต้หวันทั้งประเทศ


     กลุ่ม 3 ธุรกิจไอที ใช้เทคโนโลยี มุ่งพัฒนาด้านการเก็บรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติที่สำคัญ เพื่อใช้ข้อมูลเป็นศูนย์กลางช่วยให้สามารถตัดสินใจในการทำงานได้รวดเร็ว ถูกต้อง แม่นยำ สามารถพยากรณ์ความต้องการของลูกค้าได้ล่วงหน้า


     กลุ่ม 4 ธุรกิจอินเวสต์เม้นต์ เน้นการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์หรือกองทุนที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจโลจิสติกส์ รวมทั้งการลงทุนใหม่ๆ ในธุรกิจที่มีศักยภาพเติบโตในอนาคต อาทิ การทำนิคมอุตสาหกรรมในเวียดนามตอนใต้และในกัมพูชา การเข้าถือหุ้น 23.66% มูลค่า 527 ล้านบาทในบริษัท ทรานซีเม็กซ์ บริษัท โลจิสติกส์อันดับ 3 ของเวียดนาม เป็นต้น


     “ปีที่ผ่านมา ทั้งกลุ่ม JWD มีรายได้ 3,200 ล้านบาท คาดว่าปีนี้จะเติบโตอีกไม่ต่ำกว่า 20% หรือมีรายได้ประมาณ 3,800-4,000 ล้านบาท โดยจะมีรายได้จากหลากหลายธุรกิจเข้ามา เช่น ธุรกิจอาหาร คลังสินค้าอัตโนมัติ ห้องเย็นระบบอัตโนมัติที่สมุทรสาคร และในปี 2022 คาดว่าจะมีรายได้ 7,000-9,000 ล้านบาท จากการขยายงานในต่างประเทศ ที่เวียดนามจะร่วมกับพันธมิตรขยายงานด้านท่าเรือ นำเข้า-ส่งออกรถยนต์ คลังสินค้าฯ ที่บริษัทเชี่ยวชาญในไทยไปดำเนินการที่เวียดนามเพิ่มเติม”  ชวนินทร์ กล่าวทิ้งท้าย
 
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี
 

RECCOMMEND: MARKETING

วิกฤตสูงวัย เด็กเกิดใหม่น้อย กรณีศึกษาธุรกิจญี่ปุ่น ปรับตัวผลิตสินค้าผู้ใหญ่แทนสินค้าเด็ก

Oji Holdings ผู้ผลิตผ้าอ้อมในญี่ปุ่นประกาศยุติผลิตผ้าอ้อมเด็ก หันไปเพิ่มปริมาณการผลิตผ้าอ้อมผู้ใหญ่แทน สาเหตุมาจากอัตราการเกิดที่ลดลงและจำนวนประชากรสูงวัยของญี่ปุ่นที่เพิ่มสูงขึ้น

โอกาสโกอินเตอร์ของแบรนด์ไทย ทำงานกับนักธุรกิจระดับโลก งาน Gifts & Premium Fair ฮ่องกง

ฮ่องกงขึ้นชื่อว่าเป็นดินแดนที่มีการจัดงานแสดงสินค้าที่ยิ่งใหญ่ของโลกแห่งหนึ่ง และหนึ่งในนั้นคืองานแสดงสินค้าของขวัญและของพรีเมียมภายใต้ชื่อ Hong Kong Gifts & Premium Fair ซึ่งกำลังจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 27-30 เมษายน 2024