หมดยุค 'ตัวกูของกู' มาพลิกธุรกิจให้ปังด้วยวิธีที่ไม่ต้องเป็นกูรูก็ทำได้

TEXT : Xiong Wan Fen ขายของ




Main Idea
 
 
  • SME ส่วนหนึ่งมักเริ่มต้นทำธุรกิจจากแนวคิดและความเชื่อมั่นของตัวเอง ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดีในความมุ่งมั่นทำธุรกิจ แต่บางครั้งหลักการคิดแบบ ‘ตัวกูของกู’ ที่ออกจะมากเกินไป จนไม่ฟังเสียงที่แท้จริงของตลาดหรือลูกค้า ก็อาจทำให้ธุรกิจเดินมาถึงทางตันได้
 
  • ลองหยุดวางความเป็นตัวกูของกูแบบไร้ทิศทางลงสักครู่ และพิจารณาใช้อย่างรอบคอบ นำทั้งศาสตร์และศิลป์มาผสมรวมกัน ตัวตนความเป็นตัวกูของกู อาจส่งผลให้ธุรกิจคุณไปได้รุ่งกว่าเดิมก็เป็นได้




     จากประสบการณ์ที่มีโอกาสทำงานกับ SME มา ทำให้มองเห็นทฤษฎีการตลาดแนว ‘ตัวกูของกู’ ในธุรกิจ SME หลายๆ เจ้า คงเพราะเกิดจากความมั่นใจ และแน่วแน่ในการทำการค้า ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีในการทำธุรกิจ
แต่ว่าความมั่นใจเกินไปของตัวเราเอง  และการจมอยู่ในอ่าวข้อมูลมากเกินไป  ก็เป็นดาบสองคม ที่สามารถทำให้ธุรกิจของเราล่มสลายได้ จึงขอแชร์ทฤษฎีหรือวิธีที่ทำให้เราไม่ยึดถือตัวตนจนมากเกินไป ไม่ยึดคลื่นข้อมูลมากไปที่อาจทำให้เราไม่รู้จะไปซ้ายหรือขวา





     มาลองคิด ลองทำการค้าโดยการนำศาสตร์และศิลป์มาผสมผสานกัน เหมือนตอนเราเรียนวิทยาศาสตร์ตอนเด็กๆ เราสามารถใช้จินตนาการของเราในการตั้งคำถาม และออกไปสังเกตทดลองจนได้ความจริง
 
  1. การตั้งสมมุติฐานเป็นสิ่งสำคัญ ตั้งโจทย์ ตั้งคำถาม แล้วออกไปค้นหา ซึ่งสามารถใช้ได้กับทั้งการเคลื่อนไหวทางการตลาด การแข่งขันของคู่แข่ง การวิเคราะห์ผู้บริโภค หรือหากลุ่มเป้าหมายที่เราต้องการจับ  หรือแม้กระทั่งสำหรับตัวบริษัทหรือแบรนด์เราเอง  โครงสร้างง่ายๆ  ผลนี้เกิดขึ้นเพราะเหตุนี้ตัวอย่างง่ายๆ  เช่น คุณอยากจะขายเสื้อผ้าแฟชั่นเกาหลี คุณคิดว่าใคร คือ กลุ่มเป้าหมาย คนที่ชอบใส่เสื้อผ้าแฟชั่นเกาหลี คือคนที่ชอบดูซีรี่เกาหลี หรือเป็นติ่งเกาหลีคอยตามดารานักร้องสักคน หรือคนที่ชอบใส่เสื้อผ้าแฟชั่นเกาหลี เพราะชอบสไตล์ตัวร้ายสุดเปรี้ยวในละคร เพราะมันโดดเด่นมีคาแรคเตอร์
 
  1. สำรวจหาข้อมูล หาข้อมูลจากการอ่านหนังสือ หรือถามอากู๋ สังเกตุมองดูพฤติกรรมผู้คน ถามใจกลุ่มเป้าหมายของเราจริงๆ  ว่าเขาเหล่านั้นต้องการอะไร?  ฯลฯ หาคำตอบที่ไปช่วยคลายปมสมมติฐานที่ตั้งไว้ เพื่อช่วยกลั่นกรองความคิดให้สิ่งในหัวไม่ฟุ้งซ่าน ด้วยการศึกษา และยอมรับความจริง
 
  1. กลับมาวิเคราะห์ว่าโจทย์ที่เราตั้งสมมุติฐานไว้ ถูกต้อง ตอบโจทย์ครบทุกสิ่งที่เราได้ตั้งสมมุติฐานแล้วหรือยัง ซึ่งผลที่ออกมา อาจจะผิด หรือถูก หรืออาจจะไม่ตรงใจเรา ไม่ตรงสมมติฐาน ซึ่งเราต้องยอมรับว่ามันคือความจริง และนี่คือสิ่งที่จะทำให้เราหยุดหลอกตัวเองได้ บางทีมันคือสิ่งที่ทำให้เราเห็นโอกาสใหม่ๆ ได้ดีอีกด้วย


 


     “กูเป็นคนแบบนี้” “คนอื่นก็น่าจะเป็นเหมือนกูนี่แหละ”


     นี่คือ หายนะ หรือสิ่งเร้าที่จะทำให้ธุรกิจเราพินาศ เพราะพฤติกรรมมนุษย์ นั้นมีความแตกต่างกัน และยิ่งในสมัยนี้ด้วยแล้ว มนุษย์ไมโครโมเมนต์ (Micro moment)  ตัดสินใจกันปุ๊บปั๊บใจไวกว่าแสง มีปัญหาชีวิต ล้วนมีผลกับการตัดสินใจทั้งสิ้น เราจะมาคิดเหมาเอาว่าทุกคนคิดเหมือนเรา หรือคล้ายเราไม่ได้!


    ทีนี้ลองมาวิเคราะห์ตลาดสมัยใหม่ หรือหันมามอง 4Pมุมใหม่ กับหย่งว่านฝุ่นกัน โดยลองเอาความเป็นคนมาเป็นตัวตั้งในการที่จะออกไปวิเคราะห์ค้นหาจุดยืนของสินค้าเรา หรือจะเรียกว่าวิธีการเข้าหากลุ่มเป้าหมายแบบไม่หลอกตัวเองก็ได้





     เป็นวิธีคิดของ นักการตลาดท่านหนึ่งชื่อ Forrester เขาให้วิธีคิดว่า หากเราคิดแบบ 4P เดิมๆ แบบว่า เราคิดว่าจะทำสินค้า ราคา ขาย โปรโมทแบบนี้  อ้าวแต่หากเราคิดว่าเดี๋ยวนี้ คน สำคัญทำไมไม่คิดอีกแบบ  ยกตัวอย่างง่ายๆ
 

Problem :


     คนมีปัญหาอะไรในชีวิต ?

     เขาต้องการอะไร ?


     จิตใจช่วงนี้เขาเป็นอย่างไร ?

 
Pattern :


     มีวิธีการบริโภคอย่างไร และใช้สิ่งไหนมาแก้ปัญหาชีวิต ?
 

Path :

     
     วิธีการนำมาซึ่งการแก้ปัญหาของเขานั้นจนสำเร็จ เขาทำอย่างไร ?


Proof :


     สิ่งไหนที่เขาใช้แล้วประสบผลสำเร็จ ?
               

     ตอนนี้จะเห็นชัดเลยว่า วิธีการทำธุรกิจแนวใหม่ต่างจากแนวเดิมๆที่เราเคยใช้กันอยู่ อย่างน้อยมันจะทำให้เราพบสัจธรรมทางการตลาดที่ล้วนมาจากความเป็นจริง โดยใช้กึ๋นทั้งศาสตร์และศิลป์ในตัวเรา คิดตั้งคำถาม วิเคราะห์ จนได้บทสรุปที่แท้จริง




     อย่าเบื่อที่จะนำสิ่งเหล่านี้มาใช้ ทดลอง ทดสอบ ซ้ำๆ เพราะมันจะเป็นอาวุธที่จะนำพาให้ธุรกิจ SME ของเราเติบโตไปสู้กับคู่แข่งทั้งรายเล็กรายใหญ่ในตลาดหินๆ โหดๆ ได้


     ทิ้งคำว่าตัวกูของกู แล้วออกไปล้มยักษ์กัน!
 
 
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

 

RECCOMMEND: MARKETING

วิกฤตสูงวัย เด็กเกิดใหม่น้อย กรณีศึกษาธุรกิจญี่ปุ่น ปรับตัวผลิตสินค้าผู้ใหญ่แทนสินค้าเด็ก

Oji Holdings ผู้ผลิตผ้าอ้อมในญี่ปุ่นประกาศยุติผลิตผ้าอ้อมเด็ก หันไปเพิ่มปริมาณการผลิตผ้าอ้อมผู้ใหญ่แทน สาเหตุมาจากอัตราการเกิดที่ลดลงและจำนวนประชากรสูงวัยของญี่ปุ่นที่เพิ่มสูงขึ้น

โอกาสโกอินเตอร์ของแบรนด์ไทย ทำงานกับนักธุรกิจระดับโลก งาน Gifts & Premium Fair ฮ่องกง

ฮ่องกงขึ้นชื่อว่าเป็นดินแดนที่มีการจัดงานแสดงสินค้าที่ยิ่งใหญ่ของโลกแห่งหนึ่ง และหนึ่งในนั้นคืองานแสดงสินค้าของขวัญและของพรีเมียมภายใต้ชื่อ Hong Kong Gifts & Premium Fair ซึ่งกำลังจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 27-30 เมษายน 2024