ทำออนไลน์อยากขายได้ขายดี ต้องรู้วิธี ‘สร้างกลุ่มเป้าหมาย’ ที่ใช่!

TEXT : ประสิทธิ์ วรฉัตราวณิช






Main Idea
 
 
  • ต่อให้สินค้าหรือบริการของคุณจะเจ๋งแค่ไหน แต่ถ้านำเสนอไปยังกลุ่มเป้าหมายที่ไม่ใช่ ก็ไม่ต่างกับสุภาษิต ยื่นแก้วให้วานร ของดีแค่ไหนก็ไร้ค่าเมื่ออยู่ในมือคนที่ไม่ใช่ การเลือกกลุ่มเป้าหมายที่แม่นยำ จึงมีโอกาสขายสินค้าได้มากกว่า
 
  • มาลองสร้างกลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเองได้ เพื่อนำเสนอสินค้าหรือบริการไปยังกลุ่มที่มีโอกาสบริโภคสินค้าหรือบริการของเรามากกว่า จะมีอะไรบ้างนั้น ไปดูกันเลย!




     ต่อให้ผลิตภัณฑ์หรือบริการของคุณดีแค่ไหน หากได้รับการนำเสนอไปยังกลุ่มเป้าหมายที่ไม่ใช่ ก็ไม่ต่างกับสุภาษิตที่ว่า ยื่นแก้วให้วานร จริงอยู่ที่กลุ่มเป้าหมายไม่ได้เป็นปัจจัยเดียวที่ทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า การเลือกกลุ่มเป้าหมายที่แม่นยำกว่า ย่อมมีโอกาสขายสินค้าได้มากกว่า


     สำหรับเจ้าของธุรกิจที่ใช้โฆษณาเฟซบุ๊ก โดยใช้วิธีกำหนดกลุ่มเป้าหมายหลัก (Core Audience) ด้วยการนึกมโน ประกอบกับข้อมูลเกี่ยวข้องกับความสนใจในสินค้า หรือบริการของคุณที่เฟซบุ๊กเพียงอย่างเดียว อาจจะเหนื่อยหน่อยที่ต้องคอยอ่านผลลัพธ์ และปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ตลอดเวลา ในขณะที่กลุ่มเป้าหมายที่น่าสนใจกว่าและเฟซบุ๊กเองพยายามแนะนำให้ใช้กัน เนื่องจากมีโอกาสทำตลาดได้ดีกว่า นั่นก็คือ กลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเองได้ (Custom Audience) เนื่องจากอาจมีการรับรู้ หรือได้เคยให้ความสนใจ ตลอดจนมีประสบการณ์กับสินค้าหรือบริการของเรา หรือของคู่แข่งมาบ้างแล้ว ซึ่งย่อมดีกว่าไม่เคยรู้จักกันมาก่อนเลย


     จึงอยากจะแนะนำคุณผู้อ่านให้ลองสร้างกลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเองได้ เพื่อนำเสนอสินค้าหรือบริการไปยังกลุ่มที่มีโอกาสบริโภคสินค้าหรือบริการของเรามากกว่า ถ้าพร้อมแล้วไปดูวิธีสร้างกลุ่มเป้าหมายเหล่านี้กันเลย




 
1.การสร้างกลุ่มเป้าหมายจากกลุ่มผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์ของทุกคน


     กลุ่มเป้าหมายนี้ หมายถึง การนำส่งโฆษณาสินค้าหรือบริการของคุณไปยังกลุ่มผู้ที่เคยเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ภายในช่วงเวลาสูงสุดไม่เกิน 180 วัน อย่างไรก็ดี การจะเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายนี้ได้ เว็บไซต์ต้องได้รับการติดตั้ง Facebook Pixel เสียก่อน (โค้ดโปรแกรมของเฟซบุ๊กที่จะต้องนำไปติดตั้งในเว็บไซต์ เพื่อเชื่อมการทำงานเข้าด้วยกัน แนะนำให้ปรึกษาผู้มีประสบการณ์ บริษัทที่ให้บริการดูแลเว็บไซต์ของคุณ) เนื่องจากระบบโฆษณาจะติดตาม และรวบรวมข้อมูลกลุ่มผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์ของคุณ เพื่อสร้างเป็นกลุ่มเป้าหมายที่เคยเยี่ยมชมเว็บไซต์นั่นเอง หากเว็บไซต์ได้รับการติดตั้งพิกเซลเรียบร้อยแล้ว ในขั้นตอนของการสร้างกลุ่มเป้าหมายให้เข้าไปที่ Ads Manager เลือกเมนูกลุ่มเป้าหมาย คลิกปุ่มสร้างกลุ่มเป้าหมาย เลือก กลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเอง แล้วเลือก สร้างกลุ่มเป้าหมายด้วยวิธี จำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์ (Website Traffic) แล้วเลือก ผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์ทั้งหมด (All Website Visitors) ด้วยการเลือกกลุ่มเป้าหมายลักษณะนี้ เจ้าของธุรกิจจะสามารถนำเสนอสินค้าหรือบริการไปยังกลุ่มที่มีความสนใจได้แม่นยำกว่าการกำหนดกลุ่มเป้าหมายหลัก (Core Audience) อีกทั้งยังเป็นการใช้เม็ดเงินโฆษณาที่คุ้มค่ากว่าอีกด้วย


     นอกจากการเลือกกลุ่มเป้าหมายจากผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์ทั้งหมด คุณผู้อ่านยังสามารถเฉพาะเจาะจงกลุ่มที่มีความสนใจให้แคบลงได้อีกเป็น กลุ่มเป้าหมายที่เยี่ยมชมเฉพาะเว็บเพจที่เฉพาะเจาะจง หรือกลุ่มผู้เยี่ยมชมตามเวลาที่ใช้ไป ซึ่งจะช่วยให้เข้าถึงกลุ่มที่มีโอกาสได้ลึกลงไปอีก โดยคุณผู้อ่านสามารถสร้างกลุ่มเป้าหมายได้ด้วยการคลิกปุ่ม ผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์ทั้งหมด แล้วเลือกกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการสร้าง
 




2.สร้างกลุ่มเป้าหมายจากผู้ชมโพสต์วิดีโอของธุรกิจนานกว่า 10 วินาที


     หรือกลุ่มผู้รับชมที่ให้ความสนใจ 25 เปอร์เซ็นต์ หรือ 50 เปอร์เซ็นต์ของความยาวคลิป ในขณะที่ความสนใจต่อเนื่องของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตวันนี้สั้นมากคือ อยู่ที่ประมาณ 3 วินาทีเท่านั้น ดังนั้น การให้ความสนใจรับชมคลิปในโพสต์ธุรกิจนานกว่า 10 วินาที นั่นย่อมแสดงว่ามีความสนใจ และยิ่งหากรับชมยาวถึงครึ่งเรื่องยิ่งแสดงว่าเนื้อหาคลิปของธุรกิจน่าสนใจมาก ซึ่งหมายความว่า หากประเด็นของเรื่องเล่าในคลิปสอดคล้องกับสินค้าหรือบริการ ยิ่งมีโอกาสที่จะทำโฆษณา Retargeting เพื่อกลับไปขายสินค้าหรือบริการกลุ่มนี้ได้มากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังมีอีกกลุ่มที่น่าสนใจไม่แพ้กันก็คือ กลุ่มผู้ใช้ที่มีการโต้ตอบกับเพจเฟซบุ๊ก เนื่องจากกลุ่มเป้าหมายนี้หมายรวมตั้งแต่ทุกคนที่เคยเข้าเพจคุณ หรือแยกย่อยไปจนถึงคลิกไลค์ คอมเมนต์ หรือแชร์โพสต์ ตลอดจนคลิกปุ่มต่างๆ การที่ผู้ใช้มีปฏิสัมพันธ์กับเพจ หรือโพสต์ลักษณะนี้ ย่อมแสดงว่าเขาเกิดความสนใจในสินค้า หรือบริการที่ปรากฏในโพสต์ ซึ่งย่อมแม่นยำกว่า การยิงโฆษณาไปยังกลุ่มเป้าหมายที่ไม่เคยรู้จักคุณมาก่อน การสร้างกลุ่มเป้าหมายนี้ จะเลือกได้จากการสร้างกลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเองเช่นเดียวกัน แต่เปลี่ยนจากจำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์ เป็น การมีส่วนร่วม (Engagement)
 




3.การสร้างกลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเองจากไฟล์ลูกค้า (Customer File)


     กลุ่มเป้าหมายนี้ น่าจะมีโอกาสขายได้มากที่สุด เพราะเป็นกลุ่มที่ได้เคยให้ข้อมูล (อีเมล เบอร์โทรศัพท์ ชื่อ-นามสกุล ฯลฯ) กับธุรกิจ หรือเป็นกลุ่มที่ยินดีให้ธุรกิจติดต่อกลับ เพื่อการซื้อ-ขายที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งปัจจุบันถือว่าการมีข้อมูลลูกค้าสำคัญมาก โดยคุณผู้อ่านสามารถนำข้อมูลลูกค้าที่ได้มาอย่างถูกต้อง (ลูกค้าให้ข้อมูลกับธุรกิจโดยตรง เช่น กรอกข้อมูลในงานอีเวนต์ ลงทะเบียนออนไลน์ หรือให้นามบัตร ฯลฯ) อัพโหลดให้ระบบจัดการนำส่งโฆษณาได้โดยตรง โดยในขั้นตอนการสร้างกลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเองให้เลือกรายการแรกคือ ไฟล์ลูกค้า แล้วอัพโหลดไฟล์รายการข้อมูลลูกค้าในฟอร์แมต .csv (ที่ประกอบด้วยคอลัมน์ อีเมล เบอร์โทร. อย่างใดอย่างหนึ่ง หรือทั้งสองอย่างก็เพียงพอแล้ว) เมื่อเฟซบุ๊กได้รับข้อมูลดังกล่าว ระบบจะนำไปใช้ในการค้นหาบัญชีผู้ใช้เฟซบุ๊กที่ตรงกัน เพื่อนำส่งโฆษณานั่นเอง ข้อควรระวังสำหรับการสร้างกลุ่มเป้าหมายด้วยวิธีนี้ก็คือ ข้อมูลลูกค้าที่อัพโหลดเข้าไปต้องได้รับมาอย่างถูกต้อง นอกจากนี้ การจะสร้างกลุ่มนี้ได้ต้องอัพเกรดระบบจัดการโฆษณาเป็นตัวจัดการธุรกิจ หรือ Business Manager เท่านั้น


     ถึงตรงนี้เชื่อว่าทุกท่านน่าจะได้เห็นโอกาสในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่แม่นยำกว่าการใช้ Core Audience ที่คุ้นเคยกันแล้ว แต่สิ่งที่ผู้เขียนต้องการมากกว่าก็คือ การทดลองนำเทคนิคเหล่านี้ไปใช้กับธุรกิจของคุณเอง ขอให้ประสบความสำเร็จกันทุกท่านครับ
 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี
 
 

 

RECCOMMEND: MARKETING

วิกฤตสูงวัย เด็กเกิดใหม่น้อย กรณีศึกษาธุรกิจญี่ปุ่น ปรับตัวผลิตสินค้าผู้ใหญ่แทนสินค้าเด็ก

Oji Holdings ผู้ผลิตผ้าอ้อมในญี่ปุ่นประกาศยุติผลิตผ้าอ้อมเด็ก หันไปเพิ่มปริมาณการผลิตผ้าอ้อมผู้ใหญ่แทน สาเหตุมาจากอัตราการเกิดที่ลดลงและจำนวนประชากรสูงวัยของญี่ปุ่นที่เพิ่มสูงขึ้น

โอกาสโกอินเตอร์ของแบรนด์ไทย ทำงานกับนักธุรกิจระดับโลก งาน Gifts & Premium Fair ฮ่องกง

ฮ่องกงขึ้นชื่อว่าเป็นดินแดนที่มีการจัดงานแสดงสินค้าที่ยิ่งใหญ่ของโลกแห่งหนึ่ง และหนึ่งในนั้นคืองานแสดงสินค้าของขวัญและของพรีเมียมภายใต้ชื่อ Hong Kong Gifts & Premium Fair ซึ่งกำลังจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 27-30 เมษายน 2024