เกาะกระแสธุรกิจแฟชั่น! ที่ร้อนสุดเพราะการกลับมาของ BLACKPINK

TEXT : พิมพ์ใจ พิมพิลา





Main Idea
 
 
  • ในวงการธุรกิจเสื้อผ้า สิ่งที่จะทำให้แบรนด์ยังคงอยู่ในกระแสได้นอกเหนือจากการดีไซน์หรือคุณภาพของเสื้อผ้าแล้ว สิ่งสำคัญที่จะช่วยผลักดันแบรนด์ให้เกิดการพูดถึงหรือกลายเป็นที่รู้จักทั่วโลก จำเป็นต้องพึ่งพาพรีเซนเตอร์ในการสะกดใจผู้คนให้มาสนใจแบรนด์ 
 
  • วันนี้เราจึงอยากพูดถึงการกลับมาของเหล่าสาวๆ วง BLACKPINKพร้อมกับเสื้อผ้าแฟชั่น 4 แบรนด์ดัง ที่พวกเธอเป็นพรีเซนเตอร์อยู่ ซึ่งไม่ว่าจะเสื้อผ้าหรือเครื่องประดับต่างก็แฝงอยู่ในเอ็มวี และการแถลงข่าวในการกลับมาของพวกเธอทั้งสิ้น และแน่นอนว่าสิ่งเหล่านี้ล้วนสร้างโอกาสธุรกิจให้กับแบรนด์อย่างมหาศาล ชนิดที่คาดไม่ถึงกันเลยทีเดียว




      ถ้าพูดถึงเกาหลีแล้ว นอกจากอาหารและวัฒนธรรมที่สวยงามของประเทศนี้ วงการบันเทิงหรือวงการไอดอลก็ถือว่าโดดเด่นเป็นอันดับต้นๆ ของโลกเลยก็ว่าได้ ซึ่งความน่าสนใจสำหรับไอดอลเกาหลี ที่นอกจากจะมีเพลงรูปแบบใหม่ๆ มานำเสนออยู่ตลอดเวลา สิ่งที่มาพร้อมกับการคัมแบคของพวกเขาอย่างการเปิดตัวเพลงใหม่ล่าสุด ก็มักจะแฝงแบรนด์แฟชั่นสุดทันสมัยมาด้วยเสมอ


       ในวันนี้เราจะมาพูดถึงเหล่าสาวๆ BLACKPINK กับบทบาทการเป็นพรีเซนเตอร์ ว่าแบรนด์ได้อะไรจากการกลับมาในครั้งนี้ของพวกเธอกันบ้าง
 



 
  • BLACKPINK กลับมา แบรนด์แฟชั่นก็ได้เวลา Sold out!


      ในวันที่ 26 มิถุนายนที่ผ่านมา BLACKPINK ไอดอลสาวจากประเทศเกาหลีที่ถูกจับตามองของคนทั้งโลกก็ได้กลับมาอีกครั้งหลังจากห่างหายไปนานถึง 1 ปี พร้อมเพลงใหม่ล่าสุด How you like that ซึ่งได้รับคำชื่นชมอย่างมากมาย และแน่นอนว่าการกลับมาครั้งนี้ย่อมเป็นเรื่องน่ายินดีสำหรับชาว “บลิงค์” หรือเหล่าแฟนคลับของ BLACKPINK ที่รอคอยผลงานศิลปินอันเป็นที่รักมาอย่างยาวนาน


      โดยนอกจากวงการธุรกิจเพลงจะได้รับความสนใจเป็นอย่างมากแล้ว สิ่งที่มาพร้อมกับสาวๆ คือการหยิบจับเสื้อผ้าชุดไหนมาใส่ก็เป็นอันต้อง Sold out! ขายหมด ซึ่งก่อนจะมีการปล่อยเพลงออกมาธุรกิจแฟชั่นหลายแบรนด์ดังก็ได้มีการเลือกสาวๆ มาเป็นพรีเซนเตอร์ จนถูกพูดถึงเป็นอย่างมาก นั่นเป็นเพราะการเป็น “ผู้ทรงอิทธิพลด้านแฟชั่น” ของพวกเธอทั้ง 4 นั่นเอง


      ด้วยสไตล์ที่โดดเด่น และต่างมีคาแรคเตอร์ที่ชัดเจน ทำให้เสื้อผ้าแบรนด์ดังซึ่งมีคุณภาพแถมพร้อมด้วยความสวยงามและแปลกใหม่ เมื่อสาวๆ ได้สวมใส่ก็ยิ่งส่งเสริมให้ความดูดีมีเสน่ห์แผ่พุ่งออกมากว่าเดิมหลายเท่า จึงไม่แปลกที่พวกเธอจะมีความสำคัญและทรงอิทธิพลกับวงการธุรกิจแฟชั่นในปัจจุบันเป็นอย่างมาก
 



 
  • ธุรกิจได้อะไรจากการกลับมาของ BLACKPINK
           

       ถ้าถามว่าแบรนด์เสื้อผ้าหรือธุรกิจได้อะไรจากการคัมแบคของ BLACKPINK สิ่งแรกคือ แบรนด์สามารถเพิ่มยอดขายได้มากขึ้นทันตาเห็น ดูได้จากสินค้าที่เมื่อเหล่าสาวๆ นำมาสวมใส่ตั้งแต่ในชีวิตประจำวัน ออกงานหรือแม้กระทั่งในเอ็มวีเพลงใหม่ล่าสุด ก็เป็นอันต้องถูกสั่งจองจนหมด 





      ต่อมาสื่อต่างๆ ที่จับตาดูพวกเธออยู่ก็สนใจเสื้อผ้าที่สวมใส่ไปด้วย อีกทั้งการพูดถึงไม่ว่าจะในสื่อหรือเหล่าแฟนคลับแม้กระทั่งบุคคลทั่วไปต่างก็ให้ความสำคัญกับการแต่งตัวของพวกเธอ ในการสนทนาที่นอกจากจะพูดถึงเรื่องความสวยงาม ลุคใหม่ที่มาพร้อมสไตล์สุดเก๋ ความสามารถ เพลงที่ร้อง ก็ยังจะคุยกันเรื่องเสื้อผ้าแฟชั่นที่พวกเธอสวมใส่ ไล่มาจนบทบาทการเป็นพรีเซนเตอร์ ซึ่งส่งอานิงสงส์ให้กับแบรนด์ต่างๆ ที่นอกจากจะเป็นที่กล่าวถึงในวงกว้างแล้ว ยังจะได้ลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ เพิ่มขึ้นมาจากฐานแฟนคลับและผู้ชื่นชมใน 4 สาว BLACKPINK อีกด้วย


       ในยุคที่ธุรกิจเต็มไปด้วยการแข่งขัน หากแบรนด์สามารถขยายฐานลูกค้าให้เพิ่มขึ้นได้ ก็นับเป็นโอกาสที่จะทำให้ธุรกิจได้ไปต่อ และถึงแม้ว่าเพลงจะถูกปล่อยออกไปนาน แต่เสื้อผ้าและความเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ก็จะยังติดตาผู้บริโภค และการออกเพลงในครั้งต่อๆ ไป เหล่าแฟนคลับหรือสื่อต่างก็ย่อมมองหาแบรนด์เสื้อผ้าที่พวกเธอสวมใส่อีกครั้ง และนั่นคือโอกาสทางธุรกิจที่แฝงตัวอยู่
 



 
  • BLACKPINK กับ 4 แบรนด์เสื้อผ้าระดับโลก


      BLACKPINK มีสมาชิกทั้งหมด 4 คน ซึ่งทุกคนล้วนเป็นพรีเซนเตอร์ของแบรนด์เสื้อผ้าระดับโลกทั้งสิ้น ยกตัวอย่าง แบรนด์ที่เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของเพลงใหม่นี้ 


       “ลิซ่า” พรีเซนเตอร์ (Muse)ของ CELINE (เซลีน) แบรนด์สุดเท่จากฝรั่งเศส  ที่มีเสื้อผ้าในสไตล์คลาสสิก หรูหรา ดูแพง น้อยแต่มีความมากในตัวเอง และเมื่อนำมาบวกกับสไตล์ของลิซ่าแล้วก็ยิ่งส่งเสริมให้เสื้อนั้นดูดียิ่งกว่าเดิมอีกหลายเท่า 


       “เจนนี่” กับแบรนด์ CHANEL ที่ดูจะเข้ากันเสียเหลือเกิน ไม่ว่าจะบุคลิกของตัวเธอที่ดูเหมือนคุณหนูผู้ร่ำรวยเต็มไปด้วยเสน่ห์บวกกับเสื้อผ้าของแบรนด์นี้ที่ให้ความรู้สึกหรูหรา ราคาแพง จึงไม่แปลกที่เธอจะได้รับเลือกให้เป็น House Ambassador CHANEL ที่ไม่ใช่แค่พรีเซนเตอร์หากแต่เป็นเหมือนตัวแทนของแบรนด์นั้นๆ เลยทีเดียว 


      “จีซู” แบรนด์ Dior โดยเธอได้ถูกเลือกให้เป็น Dior Beauty Ambassador ซึ่งเหมาะสมกับความงามของเธอมากๆ เพราะไม่ว่าจะแต่งแบบไหน ความสวย ความหวาน เธอก็เอาอยู่ 


      และสุดท้าย “โรเซ่” แบรนด์ Yves Saint Laurent ที่เต็มไปด้วยความหรูหราและมีเสน่ห์ โดยเธอได้ถูกเลือกเป็น Global Ambassador ผู้หญิงคนแรกของแบรนด์นี้อีกด้วย 
 



 
  • โอกาสและประโยชน์จากการมีพรีเซนเตอร์ที่เป็นเหมือนผู้นำทางแฟชั่นระดับโลก

       ผู้ประกอบการบางคนอาจมองเรื่องพรีเซนเตอร์เป็นเรื่องที่สิ้นเปลือง หากแต่ความจริงแล้วการพึ่งเหล่าคนดังเหล่านี้จะทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จักมากขึ้น และไม่ใช่รู้จักธรรมดา หรือกลุ่มเล็กๆ แต่ยังเป็นพลังของการรับรู้ในระดับโลกอีกด้วย สิ่งที่ตามมาคือ กลุ่มลูกค้าย่อมเพิ่มมากขึ้นทั้งยังหลากหลายกว่าเดิมด้วย ที่สำคัญแม้สถานการณ์เศรษฐกิจโลกจะย่ำแย่ แต่เรื่องแฟชั่นและความชอบมันห้ามกันไม่ได้ ปรากฎการณ์ของ “มันต้องมี” ที่ทำให้สินค้าหลายแบรนด์หลายคอลเล็กชั่นสามารถ Sold out! ได้ในสถานการณ์แบบนี้ก็คงพอสะท้อนความจริงข้อนั้นได้แล้ว ที่สำคัญยังเป็นโอกาสให้แบรนด์ก็ยังอยู่ในกระแส และไม่ได้ถูกกลืนหายไป แถมยังสามารถเพิ่มคอลเล็กชั่นอื่นๆ ตามออกมาได้อีกด้วย





       นอกจากนี้ความเป็น “ผู้ทรงอิทธิพลในเรื่องแฟชั่น” นับว่ามีส่วนสำคัญที่ทำให้แบรนด์เหล่านี้เลือก BLACKPINK มาเป็นตัวแทนของแบรนด์ นั่นเพราะพวกเธอคือผู้นำแฟชั่น ที่ไม่ว่าสวมใส่อะไรก็ดูดี ดูสวยงามไปหมด และแน่นอนว่าเมื่อใครได้เห็นต่างก็อยากแต่งตัวตามไปด้วย และนั่นแหล่ะคือโอกาสทางธุรกิจของแบรนด์
 


      สำหรับ SME คงไม่จำเป็นต้องมีพรีเซนเตอร์ระดับ BLACKPINK ขอแค่ตั้งใจผลิตสินค้าที่ดี แล้วใช้พลังบอกต่อของลูกค้าสร้างความสำเร็จทางการตลาดขึ้นมาก็พอ ปล่อยให้แบรนด์ใหญ่ๆ ใช้กลยุทธ์นี้ไป เพราะค่าตัวพรีเซนเตอร์ระดับนี้ก็ไม่น้อยไปกว่าความทรงอิทธิพลของพวกเธออย่างแน่นอน แต่ผลลัพธ์กลับมาก็สะท้อนให้เห็นแล้วว่ามันคุ้มยิ่งกว่าคุ้ม
 
 
 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี
 

RECCOMMEND: MARKETING

วิกฤตสูงวัย เด็กเกิดใหม่น้อย กรณีศึกษาธุรกิจญี่ปุ่น ปรับตัวผลิตสินค้าผู้ใหญ่แทนสินค้าเด็ก

Oji Holdings ผู้ผลิตผ้าอ้อมในญี่ปุ่นประกาศยุติผลิตผ้าอ้อมเด็ก หันไปเพิ่มปริมาณการผลิตผ้าอ้อมผู้ใหญ่แทน สาเหตุมาจากอัตราการเกิดที่ลดลงและจำนวนประชากรสูงวัยของญี่ปุ่นที่เพิ่มสูงขึ้น

โอกาสโกอินเตอร์ของแบรนด์ไทย ทำงานกับนักธุรกิจระดับโลก งาน Gifts & Premium Fair ฮ่องกง

ฮ่องกงขึ้นชื่อว่าเป็นดินแดนที่มีการจัดงานแสดงสินค้าที่ยิ่งใหญ่ของโลกแห่งหนึ่ง และหนึ่งในนั้นคืองานแสดงสินค้าของขวัญและของพรีเมียมภายใต้ชื่อ Hong Kong Gifts & Premium Fair ซึ่งกำลังจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 27-30 เมษายน 2024