ความต้องการพื้นที่ทำงานเปลี่ยน! สำนักงานให้เช่าต้องปรับตัวเองสู่ “Flexible Space”

TEXT : กองบรรณาธิการ





     สถานการณ์โควิด-19 ทั้งระลอกเก่าและระลอกใหม่ ส่งผลกระทบต่อตลาด “พื้นที่สำนักงานให้เช่า” (Occupied Area) ในปี 2021 ที่คาดว่าจะชะลอตัวลง จากการปิดกิจการลงของบริษัทต่างๆ ที่เพิ่มมากขึ้นทำให้จำนวนบริษัทลดลง ขณะที่ธุรกิจเปิดกิจการใหม่ก็มีแนวโน้มลดลงด้วย บวกกับเทรนด์การทำงานแบบ Work From Home ที่ถูกนำมาใช้กันมากขึ้นจนผู้คนเริ่มคุ้นชิน และบางบริษัทก็มีแนวโน้มจะใช้ต่อเนื่องในระยะยาวแม้จะคลายล็อกดาวน์ลงแล้ว


      ส่งผลให้ความต้องการ “พื้นที่สำนักงาน” ในยุคต่อจากนี้อาจแตกต่างจากยุคที่ผ่านมา และคงไม่สามารถเติบโตได้มากเท่ากับในอดีตอีกแล้ว ขณะที่พื้นที่สำนักงานใหม่ๆ ยังมีแนวโน้มเข้าสู่ตลาดมากขึ้น ซึ่ง EIC คาดการณ์ว่าจะเติบโตถึงกว่า 2 เท่า ในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า สะท้อนถึงอุปทานที่เริ่มมากไปกว่าความต้องการ และบีบเค้นให้ผู้ประกอบการที่ให้บริการพื้นที่สำนักงานให้เช่าต้องปรับตัวครั้งใหญ่



 
               
ปรับรูปแบบสำนักงาน สู่ Flexible Space


     แม้สัญญานต่างๆ จะชี้ให้เห็นถึงความต้องการพื้นที่ทำงานที่เปลี่ยนไปและมีแนวโน้มลดลง แต่พื้นที่สำนักงานก็ยังคงจำเป็นต่อการทำงาน ทว่าคงไม่ใช่รูปแบบเดิมๆ อีกต่อไป แต่รูปแบบของสำนักงานอาจต้องปรับเปลี่ยนไปสู่ Flexible Space หนึ่งในรูปแบบที่ตอบสนองเทรนด์การทำงานในอนาคต


      จากผลสำรวจของ CBRE เกี่ยวกับรูปแบบสำนักงานในอนาคต (The Future of the Office Survey) ที่ทำการสำรวจพนักงานออฟฟิศ 10,000 คน จากหลายประเทศทั่วโลก ทั้งในสหรัฐอเมริกา ยุโรป อินเดีย และเอเชียตะวันออก ซึ่งรวมถึงประเทศไทยด้วย พบว่า หลังจากสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายลง  28 เปอร์เซ็นต์ ของพนักงานออฟฟิศต้องการทำงานจากที่บ้านแบบเต็มเวลา ขณะที่ 67 เปอร์เซ็นต์ ของพนักงานต้องการใช้เวลาทำงานจากทั้งออฟฟิศและบ้าน ส่งผลให้พื้นที่สำนักงานยังคงมีความจำเป็นอยู่บางส่วน แต่รูปแบบของพื้นที่จะต้องปรับเปลี่ยนไป เพื่อตอบสนองต่อรูปแบบการทำงานในอนาคตมากขึ้น โดยต้องตอบโจทย์องค์กรยุคใหม่และยืดหยุ่นมากขึ้น



 

ทำพื้นที่ให้ตอบโจทย์องค์กรยุคใหม่


      โลกการทำงานยุคใหม่ บริษัทส่วนใหญ่ยังคงให้ความสำคัญกับพื้นที่สำนักงานเพื่อตอบโจทย์องค์กรใน 3 ด้าน นั่นคือ 1.การสร้างความร่วมมือ นวัตกรรม และประสิทธิภาพในการทำงาน 2.ความสามารถในการสะท้อนภาพลักษณ์และวัฒนธรรมขององค์กร 3.สถานที่สำหรับพบปะและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ดังนั้น รูปแบบการใช้งานของพื้นที่สำนักงานอาจเปลี่ยนไป โดยพนักงานทุกคนอาจไม่ต้องการโต๊ะทำงานประจำอีกต่อไป แต่อาจต้องการเพียงพื้นที่นั่งทำงานร่วมกันเป็นทีมหรือมุมทำงานส่วนตัว ห้องประชุมอาจต้องมีเทคโนโลยีที่สามารถรองรับได้ทั้งพนักงานที่เข้าประชุมที่สำนักงานและผ่านทางช่องทางออนไลน์


     ทั้งนี้จากผลสำรวจของ CBRE ยังพบว่า 56 เปอร์เซ็นต์ ของบริษัทที่มีการสำรวจจะใช้พื้นที่สำนักงานที่เป็นรูปแบบ Flexible Space ในอนาคต เนื่องจากเป็นรูปแบบที่มีความคล่องตัวสูงและพื้นที่ใช้งานค่อนข้างหลากหลาย โดยอาจมีทั้งพื้นที่ส่วนกลางสำหรับการทำงานเป็นทีม หรือพื้นที่ส่วนตัวสำหรับผู้ที่ต้องการสมาธิ เป็นต้น



 

เปลี่ยนฟังก์ชันให้รองรับมากกว่าแค่การทำงาน


     ในความหมายโดยกว้างของคำว่า Flexible Space คือพื้นที่สำนักงานที่มีความยืดหยุ่น สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชันการใช้สอยได้ตามความต้องการใช้งาน โดย Flexible Space มักประกอบไปด้วย พื้นที่ทำงาน อุปกรณ์สำนักงาน สิ่งอำนวยความสะดวกและบริการต่างๆ อีกทั้ง ระยะเวลาในการทำสัญญายังสั้นกว่าสำนักงานทั่วไปอีกด้วย


     ซึ่งครอบคลุมทั้ง 1.สำนักงานสำเร็จรูป (Serviced Offices) คือพื้นที่สำนักงานให้เช่าพร้อมเฟอร์นิเจอร์และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ โดยผู้เช่ามักเป็นองค์กรหรือธุรกิจที่เริ่มตั้งใหม่หรืออยู่ในช่วงขยายกิจการ เนื่องจากสำนักงานลักษณะนี้มีเงื่อนไขและสัญญาเช่าที่ยืดหยุ่นมากกว่าพื้นที่สำนักงานให้เช่าทั่วไป


      2.Co-working spaces  เป็นพื้นที่ส่วนกลางที่สามารถเข้าใช้บริการได้ทั้งแบบส่วนบุคคลและแบบกลุ่ม และใช้พื้นที่ร่วมกันได้หลายกลุ่มในเวลาเดียวกัน พื้นที่นี้จะเน้นการแบ่งปันและสร้างเครือข่ายระหว่างผู้เช่าผ่านการจัดกิจกรรมของ Community Manager ที่มีหน้าที่รับผิดชอบและตอบสนองความต้องการของผู้เข้าใช้บริการพื้นที่ ส่งผลให้มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบถ้วนกว่าสำนักงานสำเร็จรูป



 
 
จับตาแนวโน้มตลาดสำนักงานให้เช่ากรุงเทพฯ ปี 2021


     EIC คาดการณ์ว่า การชะลอตัวของภาคธุรกิจและเทรนด์การทำงานรูปแบบใหม่จะส่งผลให้ตลาดสำนักงานให้เช่าในกรุงเทพฯ ปี 2021 มีแนวโน้มชะลอตัวลงต่อเนื่องอีกเล็กน้อยจากปี 2020 เนื่องจากผลจากการระบาดระลอกใหม่ของโควิด-19 โดยคาดว่าการชะลอตัวของตลาด มาจาก 2 ปัจจัยหลัก คือ 1. พื้นที่ให้เช่าได้ (Occupied Space) ในกรุงเทพฯ มีแนวโน้มชะลอตัวลง โดยคาดว่าจะปรับลดลงราว -0.5 เปอร์เซ็นต์ ถึง -1.0 เปอร์เซ็นต์ เทียบกับค่าเฉลี่ยในช่วงปี 2015-2019 ที่เติบโตราว 1.7 เปอร์เซ็นต์  และ 2.อัตราค่าเช่ามีแนวโน้มหดตัวเล็กน้อยและอยู่ในระดับต่ำกว่าในช่วงก่อนเกิดโควิด ซึ่งเป็นผลมาจากนโยบายลดหย่อนค่าเช่าและแรงกดดันจากผู้เล่นใหม่ๆ ที่เข้าสู่ตลาดพื้นที่สำนักงานให้เช่าจำนวนมาก


       โดยพื้นที่ที่น่าจะได้รับผลกระทบมากที่สุดคือ พื้นที่แถบนอกศูนย์กลางทางธุรกิจ (Non CBD) ทั้งนี้ผลจากมาตรการล็อกดาวน์เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด ซึ่งส่งผลให้แผนการขยายหรือยกระดับพื้นที่สำนักงานต่างๆ ในปี 2020 ถูกเลื่อนออกไป สำหรับแนวโน้มในปี 2021 ภาพรวมของพื้นที่ให้เช่าได้จะชะลอตัวลง โดยคาดว่าจะหดตัวเล็กน้อยที่ราว -0.5 เปอร์เซ็นต์ ถึง -1.0 เปอร์เซ็นต์ โดยความต้องการพื้นที่เช่าจะลดลงจากการปิดกิจการหรือลดพื้นที่เช่า


     อย่างไรก็ตาม พื้นที่เช่าส่วนหนึ่งจะถูกชดเชยด้วยความต้องการพื้นที่เช่าจากในบางกลุ่มธุรกิจที่ยังมีความต้องการขยายพื้นที่ ได้แก่ ธุรกิจเกี่ยวกับเทคโนโลยีและ Startup นอกจากนี้ หลายโครงการที่จะเปิดตัวในปี 2021 มีกลุ่มผู้เช่าแล้วบางส่วนจากที่มีทำสัญญาไว้ล่วงหน้า ประกอบกับเจ้าของโครงการมีแนวโน้มที่จะตั้งราคาค่าเช่าให้ต่ำลงเพื่อดึงดูดผู้เช่าเข้าสู่โครงการ


      ด้วยสภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวอย่างช้าๆ และยังมีความเปราะบางทำให้ธุรกิจยังต้องระมัดระวังในการขยายกิจการ ส่งผลให้อัตราความต้องการต่อพื้นที่สำนักงานต่ำกว่าในอดีต โดยพื้นที่ที่มีแนวโน้มจะได้รับผลกระทบมากที่สุด คือ พื้นที่แถบย่านนอกศูนย์กลางทางธุรกิจ (Non CBD) ที่มีบริษัทขนาดกลางและขนาดเล็กเป็นผู้เช่าอยู่เป็นสัดส่วนมากกว่าย่านศูนย์กลางทางธุรกิจ (CBD) เนื่องจาก SME เป็นกลุ่มที่มีความเปราะบางมากกว่าธุรกิจขนาดใหญ่ และต้องปรับตัวอย่างมากเพื่อให้สามารถอยู่รอดได้ในภาวะวิกฤติ โดยหลายบริษัทอาจต้องลดจำนวนพนักงานลง หรือบางกิจการอาจปิดกิจการไปเลยก็มี ซึ่งนั่นส่งผลให้อุปสงค์การใช้พื้นที่สำนักงานให้เช่าในปี 2021 นี้ ต้องลดลงตามไปด้วย
 

     และนี่คือแนวโน้มที่เกิดขึ้นของธุรกิจในกลุ่มสำนักงานให้เช่า ที่ยังคงต้องปรับตัวท่ามกลางความท้าทายของการทำธุรกิจในยุคหลังโควิดนี้
 
 
    ที่มา : เรียบเรียงข้อมูลจาก EIC
 
 




 
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี
 

RECCOMMEND: MARKETING

เคสยาดม ชวนหิว ไอเดียทำเงิน จากไอเทมฮิต ว้าว! จนอยากหยิบมาใช้

พบไอเดียสุดเก๋ “เคสยาดม ฉบับคนหิว” ที่นำเอาเมนูสรีทฟู้ดแบบไทยๆ รวมถึงอาหารฟาสฟู้ดมาปั้นด้วยดินไทย ทำเป็นเมนูต่างๆ อาทิ ผัดไท, ส้มตำ, ก๋วยเตี๋ยว, มาม่า ต้มยำกุ้ง, แฮมเบอร์เกอร์, ถังไก่ KFC

รู้จัก FOMO Marketing กลยุทธ์ปลุกความกลัวพลาด ที่ช่วยเร่งยอดขายโต

ลูกค้าไม่ได้ซื้อเพราะอยากได้เสมอไป แต่ซื้อเพราะ ‘กลัวพลาด’ รู้จัก FOMO Marketing กลยุทธ์ต้นทุนต่ำที่ช่วยให้ SME ปิดการขายได้ไวขึ้น

รวมกับดักการตลาด ที่กำลัง “ฆ่า” SME แบบไม่รู้ตัว ดูวิธีรอดที่ทำได้ทันที

พาไปแกะทีละข้อ ว่าทำไม “สูตรยิงแอด” หรือ “สูตรทำคอนเทนต์” ที่เวิร์กกับคนอื่น ถึงไม่เวิร์กกับคุณ พร้อมชี้ทางออก ที่จะทำให้การสื่อสารแบรนด์กลับมา “เข้าเป้า” ได้จริง