ถอดสูตร ร่างทรง การตลาดสุดล้ำ ความเชื่อที่ยังพิสูจน์ไม่ได้ แต่ทำไมถึงเชื่อ?

TEXT : กองบรรณาธิการ
 


             
     เห็นช่วงนี้กระแสหนังเรื่อง “ร่างทรง” กำลังมาแรง ก็พาลให้นึกถึงการชอบดูดวงดูหมอ ทรงเจ้าเข้าทรงของคนไทยว่าแม้จะเปลี่ยนไปกี่ยุคสมัยแต่ทุกวันนี้เราก็ยังคงมีความเชื่อเรื่องเหล่านี้อยู่ เริ่มตั้งแต่สมัยโบราณหลายร้อยปีก่อน จนมาถึงยุค 5G จนตอนนี้กำลังจะกระโดดไป Metaverse แล้วความเชื่อนี้ไม่เคยจางหายไปเลย ทั้งที่ยังพิสูจน์ไม่ได้ แต่อะไรทำให้ผู้คนยอมที่จะเชื่อได้ จากที่ได้ลองวิเคราะห์พบว่ามีหลายข้อเลยที่น่าสนใจ และน่าลองนำมาปรับใช้กับกลยุทธ์การตลาดได้ คำเตือน โปรดใช้วิจารณญาณก่อนรับชม!

 


 

  • ได้รู้ในสิ่งที่อยากรู้

             
     เหตุผลอย่างแรกเลยที่คนไปดูหมอไปหาร่างทรง ก็คือ เพราะมีสิ่งที่อยากรู้ในใจ ไม่ว่าเรื่องดีหรือร้าย อดีตหรืออนาคต เหล่าแม่หมอทั้งหลายก็มักจะมีคำตอบให้เสมอ ซึ่งจะจริงหรือไม่จริงนั้นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่อย่างน้อยๆ ก็คือได้รู้ และได้คำตอบกลับไป ซึ่งนี่อาจเป็นกลไกรับมือความเครียดอย่างหนึ่งในความไม่แน่นอนของชีวิตที่เรียกว่า Uncertainty of Life เรามักมีความเครียดและกังวลกับสิ่งที่ไม่รู้ บางครั้งอาจมากกว่ารู้ว่ากำลังจะมีเรื่องแย่ๆ เกิดขึ้นด้วยซ้ำ เพราะมนุษย์ชอบในสิ่งที่ควบคุมได้มากกว่า การรู้ดวงของตัวเองทำให้มนุษย์รู้สึกมี Sense of Control หรือคิดว่าสามารถควบคุมสิ่งต่างๆ ได้ ดังนั้นสินค้าใดก็ตามที่ช่วยเสริมความมั่นคงทางจิตใจ หรือทำให้ทุกอย่างอยู่ในความควบคุมได้ เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีระบบคำนวณค่าไฟให้แบบเรียลไทม์ตามที่ใช้งานได้จริง, ตู้เย็นที่มีเซ็นเซอร์ตรวจจับความสด คุณภาพ อายุของอาหารแบบอัตโนมัติ เพื่อแจ้งเตือนผู้ใช้งานให้อย่าลืมนำออกมาบริโภค สินค้านี้จะทำให้ได้รับความนิยมและดึงดูดใจจากผู้บริโภคได้มากกว่าสินค้าปกติทั่วไป
 




  • รวดเร็วทันใจ ไม่ต้องรอ

             
     อีกสิ่งที่ผู้คนมักเลือกไปหาร่างทรงหรือหมอดู ก็คือ ความรวดเร็วทันใจ ไม่ต้องรอ อยากรู้ก็ต้องได้รู้เลย จะดีไม่ดีก็ได้รู้กันไปเลย ซึ่งหากธุรกิจสามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้ทันที เช่น อยากได้สินค้าชิ้นนี้ ก็มีพร้อมส่งได้ทันที หรือหากลูกค้ามีปัญหาอะไร ก็ช่วยแก้ไขให้เลย สิ่งเหล่านี้จะทำให้ลูกค้าเกิดความประทับใจ ไม่ต้องเสียเวลารอนาน ส่วนเรื่องคุณภาพซื้อไปแล้วจะถูกใจไหมชอบไม่ชอบก็เป็นอีกเรื่อง เหมือนที่หลายคนเปรียบว่าการซื้อสินค้าออนไลน์ทุกวันนี้ก็เหมือนการวัดดวงว่าสินค้าจะตกปกตามที่คาดหวังไว้ไหม ดังนั้นทางที่ดีผู้ประกอบการจึงควรใส่ใจคุณภาพสินค้าให้ดีตั้งแต่ต้นทาง เพื่อสร้างความประทับใจให้กับผู้บริโภคได้ในระยะยาว
 



กว่า 80 เปอร์เซ็นต์ของลูกค้าที่มาดูดวงส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง เนื่องจากผู้หญิงมักมีความกลัวและกังวลมากกว่าผู้ชาย การดูดวงจึงเหมือนการได้เตรียมตัวรับมือไว้ล่วงหน้า ทำให้ไม่ประมาทในชีวิต 







  • กระตุ้นให้อยากรู้


     มีคนเปรียบเปรยไว้ว่าการไปดูหมอดูดวงก็เหมือนกับการที่เรากำลังอ่านนิยายหรือติดตามซีรีส์เรื่องดัง แล้วมีคนแอบมาสปอยล์ล่วงหน้าให้อยากรู้ เรื่องราวชีวิตของเราก็เหมือนกันไม่ว่าใครก็ต้องอยากรู้อนาคตของตัวเองด้วยกันทั้งนั้น ซึ่งบางคนอาจจะแค่อยากรู้เฉยๆ บางคนก็ดูเพื่อเป็นกำลังใจให้กับตนเอง บางคนก็ดูไว้เพื่อหาวิธีป้องกันแก้ไข วิธีการนี้อาจลองนำใช้เป็นเทคนิคการตลาด เช่น แทนที่จะเปิดตัวออกมาแบบเต็มๆ เราอาจลองใช้วิธีบอกเฉพาะไฮไลต์เพื่อสปอยล์ให้ลูกค้าค่อยๆ รู้ จะทำให้อยากรู้ และอยากติดตามมากยิ่งขึ้น ยิ่งหากสามารถหาจุดเชื่อมโยงที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันของผู้บริโภคได้ เช่น ใช้แล้วจะทำให้ดีขึ้นยังไง ก็อาจช่วยดึงดูดได้มากกว่าการนำเสนอในรูปแบบทั่วไป

 

 

  • เสริมความมั่นใจ

             
     ก่อนจะออกรบยังต้องมีการทำพิธีเพื่อเอากฤษ์เอาชัยยังไง ก่อนเริ่มต้นทำอะไรใหม่ๆ คนก็มักชอบไปดูดวงดูหมอหาร่างทรง เพื่อเสริมความมั่นใจด้วยกันทั้งนั้น เช่น รู้ว่าต้องได้ย้ายไปทำงานที่ใหม่แน่นอน แต่อยากหาความมั่นใจเพิ่มว่าย้ายไปแล้วจะดีและมั่นคงไหม การสร้างผลิตภัณฑ์ขึ้นมาก็เช่นกัน หากเราสามารถบอกสิ่งที่ผู้บริโภคจะได้มากกว่าสิ่งที่เขาจะได้รับอยู่แล้ว เช่น หน้ากากอนามัยนี้นอกจากช่วยปกป้องเชื้อโรคอนุภาคเล็กๆ ได้ดีอยู่แล้วเทียบเท่ามาตรฐานสากล แต่หากเราลองวาดรูปเป็นยันต์เล็กๆ ใส่ลงไปด้วย ประมาณว่าคุณภาพดีแล้ว มียันต์นี้ด้วย โควิดไม่เข้ามาแน่นอน ก็อาจช่วยเสริมความมั่นใจเล็กๆ ขึ้นมาให้กับบางคนได้ ซึ่งจริงๆ แล้วเราก็ไม่ใครรู้หรอกว่าจะช่วยได้หรือไม่ได้ แต่ที่แน่ๆ คือ ลูกค้ามีกำลังใจมีความมั่นใจที่จะออกไปใช้ชีวิตนอกบ้านได้ ก็คงไม่ต่างจากเบอร์มงคล, เคสมือถือสายมู อย่างที่หลายคนใช้กัน
 




  • ช่วยการตัดสินใจ

             
     ข้อนี้จะคล้ายๆ กับข้อที่ผ่านมา คือ บางครั้งหลายคนอาจมีคำตอบอยู่ในใจแล้วว่าจะต้องทำอย่างไร แต่บางทีก็ตัดสินใจเลือกไม่ถูกต้องการคำชี้แนะหรือคนมาชี้ขาดให้ว่าควรเลือกอะไรดี หรือหาทางออกอย่างไร เช่น บางทีก็เลือกไม่ได้ว่าสัมภาษณ์งานผ่าน 2 ที่ควรจะเลือกที่ไหนดี เพราะสวัสดิการ เงินเดือนก็ได้พอๆ กัน วิธีการนี้อาจนำมาปรับใช้กับธุรกิจได้ เช่น เราอาจทำเมนูสุขภาพออกมาหลายอย่างทุกเมนูดีต่อผู้บริโภคทั้งหมด แต่แทนที่เราจะบอกว่าดีต่อสุขภาพอย่างเดียว อาจลองนำเสนอทางเลือกเข้าไปด้วย เช่น เชตนี้มีแคลอรีต่ำ เหมาะสำหรับคนที่กำลังอยากไปเที่ยวทะเลใส่ชุดว่ายน้ำอวดหุ่นสวย หรือเซตนี้มีคอลลาเจนสูงเหมาะกับคนที่กำลังจะไปงานเลี้ยงรุ่น เพื่ออวดผิวสวย ใบหน้าเปล่งปลั่ง ดูเด็กลง เป็นต้น
 



ว่ากันว่าการดูดวงยุคแรกบนโลกเริ่มมาจากการพยากรณ์ตับของสัตว์ที่ถูกนำมาบูชายัญต่อเทพเจ้า ภายหลังต่อมาจึงค่อยนำปรากฏการณ์บนท้องฟ้ามาทำนาย โดยเริ่มต้นขึ้นในยุคอารยธรรมแรกๆ ของโลกเมโสโปเตเมีย ส่วนคอลัมน์ดูดวงถูกตีพิมพ์ครั้งแรกบนหนังสือพิมพ์ราวปี 2473 ในยุคที่ทวีปอเมริกาเหนือและยุโรปกำลังอยู่ในภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ ซึ่งเรียกว่า “The Great Depression”



  • อยากหาผู้รับฟัง

             
     นอกจากได้รู้เรื่องที่อยากรู้ ได้รับการแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็ว ช่วยสร้างความมั่นใจ และเป็นผู้ช่วยในการตัดสินใจที่ดีแล้ว อีกจุดเด่นสำคัญที่ทำให้คนเลือกไปใช้บริการหมอดูและร่างทรงเป็นที่พึ่งทางจิตใจ ก็คือ อย่างน้อยๆ ก็มีคนรับฟังปัญหาของพวกเขา ซึ่งบางเรื่องก็บอกใครได้ยาก ดังนั้นหากแบรนด์สามารถทำตัวเองให้เป็นเหมือนที่ปรึกษาเป็นที่พึ่งให้กับลูกค้าได้ ทำตัวเป็นเสมือนเพื่อนมากกว่าแค่ผลประโยชน์ทางธุรกิจ ก็จะช่วยให้ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้ามากขึ้น และกล้าเปิดใจมากขึ้นก็ได้ ซึ่งสิ่งนี้เราสามารถนำมาเก็บเป็นข้อมูลเพื่อพัฒนาต่อยอดผลิตภัณฑ์ได้
 
             
     จากที่ได้กล่าวมาส่วนใหญ่แล้วสิ่งที่ผู้บริโภคมักได้จากการไปดูหมอหาร่างทรง ก็คือ ได้ความสบายใจเป็นที่พึ่งทางจิตใจ ซึ่งแม้เราจะนำมาประยุกต์ใช้กับธุรกิจได้บ้างบางข้อ แต่สิ่งสำคัญที่ไม่ควรลืมและต้องจดจำให้ดี ก็คือ ความซื่อสัตย์ต่อลูกค้า สินค้าที่ผลิตออกมายังไงก็ต้องมีคุณภาพดีด้วย เพราะเป็นหัวใจสำคัญของการทำธุรกิจที่จะทำให้อยู่รอดยืนยาวได้แบบไม่ต้องคาดเดานั่นเอง

ที่มา :
https://thematter.co/social/lifestyle/why-people-still-believe-in-horoscope/128298
https://www.diyinspirenow.com/bm-จิตวิทยาอ่านใจคน/

 

 



www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: MARKETING

รู้จัก FOMO Marketing กลยุทธ์ปลุกความกลัวพลาด ที่ช่วยเร่งยอดขายโต

ลูกค้าไม่ได้ซื้อเพราะอยากได้เสมอไป แต่ซื้อเพราะ ‘กลัวพลาด’ รู้จัก FOMO Marketing กลยุทธ์ต้นทุนต่ำที่ช่วยให้ SME ปิดการขายได้ไวขึ้น

รวมกับดักการตลาด ที่กำลัง “ฆ่า” SME แบบไม่รู้ตัว ดูวิธีรอดที่ทำได้ทันที

พาไปแกะทีละข้อ ว่าทำไม “สูตรยิงแอด” หรือ “สูตรทำคอนเทนต์” ที่เวิร์กกับคนอื่น ถึงไม่เวิร์กกับคุณ พร้อมชี้ทางออก ที่จะทำให้การสื่อสารแบรนด์กลับมา “เข้าเป้า” ได้จริง

Color Psychology: จิตวิทยาเรื่องสี ที่แบรนด์ใหญ่ใช้เพิ่มยอดขาย

สี…ก็เปลี่ยนยอดขายได้ ทำไม Facebook ใช้สีน้ำเงิน? ทำไม Chanel ถึงเลือกสีดำทอง? ทำไมฟาสต์ฟู้ดต้องสีแดง-เหลือง? คำตอบอยู่ที่ “Color Psychology” จิตวิทยาของสีที่แบรนด์ใหญ่ใช้สร้างกำไรมาแล้วทั่วโลก