ความต่างของผู้บริโภค Gen Y และ Gen Z ที่แบรนด์ต้องรู้ก่อนวางแผนการตลาด

               

        วางแผนการตลาดสำหรับปีหน้ากันหรือยัง?


          ช่วงนี้ผู้บริหาร นักการตลาด และเจ้าของแบรนด์จะต้องเร่งค้นคว้าและหาข้อมูลเกี่ยวกับพฤติกรรมผู้บริโภคสำหรับการวางแผนการตลาดสำหรับปี พ.ศ 2565


          ซึ่ง ณ เวลานี้กลุ่มคนมิลลิเนียล หรือ Gen Y กลายเป็นกลุ่มผู้บริโภคที่มีจำนวนมากที่สุดในโลกแล้ว คือมีถึง 1.8 พันล้านคนทั่วโลก หรือคิดเป็น 23 เปอร์เซ็นต์ของประชากรทั้งหมด แต่บางครั้งก็มีความเชื่อผิดๆ คิดว่าคน Gen Y กับ Gen Z จะคล้ายคลึงกัน เพราะต่างก็เป็นคนยุคดิจิทัลทั้งคู่ แต่ความจริงแล้วคน 2 รุ่นนี้มีลักษณะเฉพาะที่ต่างกันหลายอย่างเลยล่ะ





         พัชรี พันธุมโน กรรมการผู้จัดการ บริษัท แบรนด์นาว เอเชีย ได้อธิบายว่า "ความแตกต่างที่สำคัญระหว่างคนรุ่นก่อนๆ คือคนรุ่นมิลเลนเนียล (Gen Y) เติบโตขึ้นมาในช่วงที่เศรษฐกิจเฟื่องฟู และ Gen Z เติบโตขึ้นในช่วงที่ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ และสิ่งเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อพฤติกรรมผู้บริโภคของคนรุ่นต่อไป"
 

          และนี่คือข้อสรุปความต่างของคน 2 รุ่น ที่ แบรนด์นาว เอเชีย ได้ทำวิจัยเอาไว้
 

Gen Y
 

  • ให้ความสำคัญกับการค้นหาหรือลองประสบการณ์ใหม่ๆ ยอมจ่ายแพงกว่าถ้าได้รับการบริการลูกค้าระดับพรีเมียม

 

  • มักจะชอบทำงานเป็นกลุ่ม สนุกกับการเข้าสังคม รักครอบครัว และต้องการการตอบสนองความของพ่อแม่

 

  • ต้องการเสรีภาพ ความยืดหยุ่น และโอกาสในการทำงาน

 



 
Gen Z
 

  • ให้ความสำคัญกับการประหยัดเงินและค้นหาข้อเสนอที่ดีที่สุด

 

  • มีความสามารถเฉพาะตัว รักอิสระมากขึ้นเนื่องจากชอบการแข่งขัน

 

  • ต้องการจัดการและควบคุมสภาพแวดล้อมรอบๆ ตัวได้

 

  • ต้องการความมั่นคงในการทำงาน ตั้งเป้าว่าต้องได้รับเงินเดือนที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

 


 

           แต่ก็ใช่ว่าคน 2 รุ่นนี้จะไม่มีความเหมือนกันเลย สิ่งที่คล้ายคลึงกัน คือ ทั้ง Gen Y และ Gen Z มีกรอบความคิดของผู้ประกอบการ ซึ่งหมายความว่าพวกเขามีความคิดสร้างสรรค์ มีการสื่อสาร และมีแรงขับเคลื่อนสูง ในขณะที่อีกด้านยังเปิดรับความเสี่ยงและยอมรับความล้มเหลวได้ นอกจากนี้ทั้งสองรุ่นยังมีความปรารถนาที่สร้างธุรกิจของตัวเอง ในฐานะที่เป็นตัวแทนยุคดิจิทัล ทั้งสองกลุ่มมีความสามารถในการทำอะไรหลายๆ อย่างได้พร้อมๆ กัน
 

          คำแนะนำสำหรับผู้ประกอบการก็คือ แบรนด์ควรให้ความสำคัญในความยั่งยืนมากกว่ามุ่งเน้นการขาย และควรส่งเสริมภาพลักษณ์ของแบรนด์และจริยธรรมให้มากขึ้น รวมถึงความรับผิดชอบต่อสังคมขององค์กร แบรนด์ที่มีความสอดคล้องกับค่านิยมเหล่านี้มีแนวโน้มที่จะประสบความสำเร็จมากขึ้นในการดึงดูดทั้งสองกลุ่มนี้
 
 

 
 
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: MARKETING

ธุรกิจร้านกาแฟโคม่าหนัก เกาหลีใต้เพิ่งเจอ ปัญหาคาเฟ่ล้นเมือง ไทยจะตามรอยไหม ร้านใหม่เจ๊ง 2 ปี ร้านเก่าก็รอดยาก

รู้หรือไม่? ในโซล ที่มีคาเฟ่กว่า 80,000 ร้าน นั้น... ตอนนี้ ร้านที่ 'ปิดตัว' แซงหน้า 'ร้านที่เปิดใหม่' ไปแล้ว นี่คือวิกฤตครั้งแรกในรอบ 60 ปี!

Giving Machine ตู้กดบุญอัตโนมัติ เปลี่ยนการทำบุญให้ง่าย อยากทำแบบไหน ก็เลือกได้เลย

วันนี้ตู้กดอัตโนมัติถูกพัฒนาไปไกล ถึงขั้นกลายเป็น “ตู้กดบุญ” กันแล้ว ตู้ดังกล่าวมีชื่อว่า ‘Giving Machine’ โดยเปลี่ยนจากการกดซื้อสินค้ามาเป็นการเลือก “รายการบริจาค” แทน

เจาะลึก 5 เทรนด์ influencer Marketing มาแรง แบบไหนดี แบบไหนโดนใจลูกค้า

เทรนด์อินฟลูเอนเซอร์กำลังเปลี่ยนจากภาพลักษณ์หรูหรา มาเป็นความเรียล ความสัมพันธ์ และคาแรกเตอร์เฉพาะตัวมากขึ้น เพราะอินฟลูเอนเซอร์ไม่ใช่แค่ผู้บอกเล่า แต่เป็นผู้ส่งต่อความตั้งใจแบรนด์ ที่มีอิทธิพลต่อความคิดและความรู้สึกของผู้บริโภค