​การสร้างเคล็ดลับให้คนพูดถึงในโลกโซเชียล มีเดีย





Text : เจษฏา ปุรินทวรกุล

    สิ่งสำคัญสำหรับการใช้โซเชียลมีเดียในปัจจุบัน นอกจากการโพสต์เนื้อหาในเวลาและปริมาณที่เหมาะสมแล้ว คำถามที่ตามมาอีกก็คือ จะทำอย่างไรให้ตัวผลิตภัณฑ์หรือชื่อบริษัทของเราได้รับการกล่าวถึง (ในทางที่ดี) จากผู้ใช้งานจำนวนมากในโลกโซเชียลมีเดีย 

    เกี่ยวกับเรื่องนี้ Clément Delangue เจ้าหน้าที่ด้านการตลาดของแอพพลิเคชั่นที่ชื่อว่า Mention แอพฯ ที่จะช่วยทำให้คุณรู้ว่าผู้คนพูดเกี่ยวกับคุณ บริษัทของคุณ หรือคู่แข่งของคุณบนโลกออนไลน์อย่างไรด้วยการใส่คีย์เวิร์ดลงไป เช่น ชื่อบริษัท ผลิตภัณฑ์ ชื่อเจ้าของ คู่แข่ง พอมีคนพูดถึง (พิมพ์) ชื่อที่เรากำหนดเอาไว้ในคีย์เวิร์ด ระบบก็จะทำการแจ้งให้เราทราบ ซึ่ง Clément ได้ออกมาเปิดเผยข้อมูลเชิงลึกพร้อมกับเคล็ดลับว่า ควรจะใช้โซเชียลมีเดียอย่างไร เพื่อเพิ่มโอกาสให้คนพูดถึงเรามากยิ่งขึ้น

•    ต้องรู้ว่าควรสื่อสารเมื่อใด

     จากข้อมูลคีย์เวิร์ดของบริษัททั้งหมดที่ใช้งานแอพฯ Mention พบว่า วันพฤหัสบดี มีการกล่าวถึงสินค้าและบริษัทต่างๆ มากถึง 15.78 เปอร์เซ็นต์ ถัดมาคือ วันอังคาร 15.68 เปอร์เซ็นต์ และวันพุธ 15.52 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่วันเสาร์-อาทิตย์กลับมีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุด คือ 12.22 เปอร์เซ็นต์ และ 11.36 เปอร์เซ็นต์ ตามลำดับ 

    ข้อมูลนี้ชี้ให้เห็นถึงการรู้จักค้นหาโอกาสของเจ้าของธุรกิจ โดยจะเห็นว่า วันพฤหัสบดี หากเจ้าของธุรกิจจะโพสต์เรื่องราวต่างๆ ลงในโซเชียลมีเดีย โอกาสที่ลูกค้าจะรับรู้ข้อมูลอาจค่อนข้างต่ำ เพราะพวกเขาอาจกำลังสนใจในเรื่องราวอื่นๆ อยู่ กลับกันในวันเสาร์-อาทิตย์อาจเป็นโอกาสที่น่าสนใจมากกว่าก็ได้ เพราะบริษัทส่วนใหญ่ไม่ได้วางแผนกลยุทธ์ในการโพสต์เนื้อหาในช่วงดังกล่าว  

•    จะสื่อสารกับใคร

     จากฐานข้อมูลพบว่าผู้ใช้งานบนโลกออนไลน์ที่กล่าวถึงบริษัทหรือผลิตภัณฑ์ต่างๆ มีเพียงประมาณ 8 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ที่มีจำนวนผู้ติดตามมากกว่า 500 คน ที่เหลืออีกประมาณ 91 เปอร์เซ็นต์ เป็นเพียงผู้ใช้งานธรรมดา ยกตัวอย่างให้เห็นภาพชัดๆ คือ นาย A กล่าวชมเสื้อยืดแบรนด์ ABC ผ่านทวิตเตอร์ กับ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา กล่าวชมเสื้อยืดแบรนด์เดียวกันผ่านช่องทางเดียวกัน ผลที่ได้รับย่อมต่างกัน ดังนั้น หากคุณเป็นบริษัทที่มีเวลาจำกัด ควรเลือกสื่อสารกับผู้ที่มีสามารถสร้างผลกระทบในวงกว้างเป็นอันดับแรก (แต่ในทางที่ดี ควรสื่อสารให้มากเท่าที่จะทำได้ เพียงแค่เรียงลำดับความสำคัญก่อนหลังเท่านั้นเอง)

    อย่างไรก็ตาม ความเร็ว ความต่อเนื่องและเสน่ห์ในการตอบคำถามในโซเชียลมีเดียนั้น สามารถสร้างความแตกต่างระหว่างผลิตภัณฑ์ได้อย่างไม่น่าเชื่อ ดีไม่ดีจะกลายเป็น Viral Marketing แบบ KFC ของเมืองไทยในขณะนี้ที่กำลังโด่งดังจากการตอบคำถามแบบ Positive Thinking ตอบลูกค้าแทบทุกคน จนกลายเป็นกระทู้แนะนำในพันทิป ส่งผลให้ผู้ใช้งานเฟซบุ๊กจำนวนมากต้องเข้าไป So Good กับแอดมินถึงหน้าเพจกันเลยทีเดียว 

•    สื่อสารด้วยสื่อชนิดใด

     ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าจากคีย์เวิร์ดทั้งหมด พบว่ากว่า 66 เปอร์เซ็นต์ เป็นการพูดถึงแบ  รนด์และบริษัทต่างๆ ผ่านทางทวิตเตอร์ อย่างไรก็ตาม การพัฒนาเนื้อหาที่เราจะโพสต์ลงโซเชียลมีเดียให้มีความชัดเจนเพื่อเตรียมสื่อสารกับลูกค้าให้ครบทุกช่องทางในโลกออนไลน์ก็ถือเป็นเรื่องที่ผู้ประกอบการไม่ควรมองข้าม เพราะโซเชียลมีเดียแต่ละชนิด มีจุดอ่อนและจุดแข็งที่แตกต่างกัน

•    ควรสื่อสารอย่างไร
 
     จากฐานข้อมูลทั้งหมดพบว่าเวลาผู้คนจะพูดถึงบริษัทหรือผลิตภัณฑ์อะไรสักชิ้น กว่า64 เปอร์เซ็นต์ จะใช้ภาษาอังกฤษ ที่เหลืออีก 36 เปอร์เซ็นต์ เป็นภาษาอื่นๆ แต่ในทุกวันนี้เศรษฐกิจโลกได้ก้าวหน้าขึ้นอย่างต่อเนื่อง ภาษาที่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษก็มีความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้น เว็บไซต์ของคุณจะมีภาษาไทยและภาษาอังกฤษ (อาจรวมถึงภาษาอื่นๆ ด้วย เช่น จีน ญี่ปุ่น) เพื่อโฆษณาและประชาสัมพันธ์ไปให้ถึงกลุ่มเป้าหมายที่แท้จริง ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร 

    แต่สิ่งที่สำคัญกว่าก็คือเมื่อมีคนกล่าวถึงบริษัทและผลิตภัณฑ์ของคุณในทางที่ดี เพียงแค่คำว่า “ขอบคุณ” ก็สร้างความประทับใจให้กับผู้ที่เข้ามาอ่านคอมเมนต์ได้แล้ว ยิ่งไปกว่านั้น การใส่ใจและให้คำตอบที่จริงใจในทุกคอมเมนต์ก็ถือเป็นวิธีสร้างวัฒนธรรมองค์กรในโลกโซเชียลมีเดียได้เป็นอย่างดีวิธีหนึ่ง    

Create by smethailandclub.com

RECCOMMEND: MARKETING

ย้อนตำนาน มาสคอตไทย ก่อน "น้องหมีเนย" มีแบรนด์ไหนทำมาร์เก็ตติ้งนี้บ้าง

หลายคนมี Brand Love ในใจ ที่ไม่ใช่แค่สินค้าต้องดี จนเรากลายเป็นลูกค้าประจำ ยังต้องมี Brand Characters ที่จะช่วยให้คนจดจำได้ อีกหนึ่งทางเลือกที่ถ้าอยากสร้างแบรนด์ให้ปัง

ขายสินค้าออร์แกนิกให้เป็นแมส จากแนวคิดแบรนด์ KING Organic

KING Organic ผู้ผลิตผัก ผลไม้ และสินค้าแปรรูปออร์แกนิก จ.สมุทรสาคร ได้คิดกลยุทธ์การทำธุรกิจที่เรียกว่า “Mass Premium” ขึ้นมา เพื่อทำของพรีเมียม ให้สามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้กว้างขวางมากขึ้น ในราคาที่ใครๆ ก็สามารถจับต้องได้ มีวิธีการยังไง ไปดูกัน