เปิดเทรนด์ข้อมูล SME ต้องรู้ สู้ยังไงให้ทันโลกยุคใหม่ในปี 2022

 

     ใครจะคิดว่าวันหนึ่งมนุษย์ออฟฟิศกว่าค่อนโลกจะพร้อมใจกัน work from home โดยไม่ได้นัดหมาย ยังไม่นับรวมเหตุการณ์อื่นๆ อีกมากมาย อาทิ สายการบินต้องหยุดให้บริการ ร้านอาหารไม่สามารถให้คนมานั่งทานที่ร้านได้ การขนส่งของกลายเป็นธุรกิจเฟื่องฟู สิ่งเหล่านี้คือ ตัวอย่างของการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นแบบฉับพลันในโลกยุคใหม่ผู้ที่ปรับตัวไม่ทันบางคนถึงกับต้องล้มเลิกกิจการ และเพื่อเป็นการเตรียมพร้อมธุรกิจไทยให้สามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ที่เกิดขึ้น LINE ผู้นำแพลตฟอร์มดิจิทัลของไทย จึงได้จัดงาน THAILAND NOW AND NEXT : PREPARING FOR THE CHANGING WORLD มุ่งติดอาวุธดิจิทัลธุรกิจไทย พร้อมรับมือการเปลี่ยนแปลงของโลกหลังโควิด 19

     โดยในงานได้มีช่วงสัมมนาโดยเฉพาะสำหรับ SMEs หัวข้อ The Challenge of Changes โดย สกุลรัตน์ ตันยงศิริ ผู้อำนวยการธุรกิจเอสเอ็มอี LINE ประเทศไทย มาวิเคราะห์ความท้าทายในสิ่งที่ SME ต้องเผชิญ และแนะนำเครื่องมือที่จะช่วยให้ SME สามารถปรับตัวและดำเนินธุรกิจเติบโตไปต่อได้อย่างยั่งยืน ซึ่งสรุปได้ดังนี้

3 ปัจจัยที่ SME ต้องรู้ให้ทัน

      ปัจจัยแรก หนีไม่พ้นเรื่อง "ตลาด” ผู้ประกอบการต้องเข้าใจว่าตลาดปัจจุบันเป็นอย่างไร สถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นมีผลกระทบต่อธุรกิจอย่างไรบ้าง โดยข้อมูลที่ SMEs ต้องมองหาและนำมาใช้พิจารณาเรื่องนี้ประกอบไปด้วย (1) อัตราการว่างงาน ซึ่งจะบอกได้ว่า ถ้าเมื่อใดอัตราการว่างงานเพิ่มขึ้น ความสามารถในการจับจ่ายใช้สอยของผู้คนมีแนวโน้มที่จะลดลง นั้นหมายความว่า ถ้าคุณขายสินค้าฟุ่มเฟือย มีแนวโน้มที่ธุรกิจของคุณได้รับผลกระทบ แต่ถ้าคุณขายสินค้าที่จำเป็นต้องใช้สอยในชีวิตประจำวัน สินค้าเหล่านี้ก็ยังคงขายได้อยู่ และอีกมุมที่น่าสนใจก็คือ หลังจากที่มีผู้คนว่างงานจำนวนมากขึ้น กลุ่มคนเหล่านี้มีโอกาสจะทำอาชีพอิสระเพิ่มมากขึ้นเช่นกัน นั่นหมายความว่า ในธุรกิจของคุณมีแนวโน้มที่จะมีคู่แข่งเพิ่มมากขึ้นด้วย

     ปัจจัยที่สอง คือ พฤติกรรมผู้บริโภค โดยจะเห็นได้ชัดว่าพฤติกรรมในตอนนี้ของผู้บริโภคทุกเพศ ทุกวัย มีการเปลี่ยนแปลงไปมาก ไม่ว่าจะเป็น วัยเรียน ปัจจุบันนักเรียนสามารถเรียนในออนไลน์ได้แล้ว ทำให้พฤติกรรมของพ่อแม่ก็ต้องเปลี่ยนไปด้วยเช่นกัน หรือวัยทำงาน ปัจจุบันมีการ Work Form Home มากขึ้น ดังนั้นการทำกิจกรรมต่างๆ ก็ต้องทำผ่านออนไลน์เพิ่มมากขึ้น เช่น การสั่งอาหารมาทานที่บ้าน หรือแม้แต่วัยเกษียณ ก็มีพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปไม่ต่างกัน

    “บ้านกลายเป็นศูนย์กลางของการทำกิจกรรมที่หลากหลายแตกต่างกันไปตามวัย แต่ผู้บริโภคทุกวัยจะใช้ออนไลน์กันมากขึ้น สิ่งสำคัญที่ผู้ประกอบการจะต้องรีบเปลี่ยนคือ คุณต้องย้ายตัวเองเข้ามาสู่โลกออนไลน์ให้เร็วยิ่งขึ้นเพื่อรองรับพฤติกรรมของผู้บริโภคทุกในทุกวัย”

     และเมื่อธุรกิจมาอยู่บนโลกออนไลน์แล้ว ผู้ประกอบการควรเท่าทันความคิดและพฤติกรรมผู้บริโภคบนโลกออนไลนด้วยเช่นกัน โดยปัจจัยที่จะทำให้ผู้บริโภคเลือกร้านค้าในโลกออนไลน์ในอันดับต้นๆ  คือ ราคาต้องแข่งขันได้ ด้วยผู้บริโภคในยุคปัจจุบันสามารถเข้าถึงข้อมูลบนโลกออนไลน์ได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย การหาข้อมูลมาเปรียบเทียบจึงไมใช่เรื่องยากอีกต่อไป ด้วยเหตุนี้ ผู้บริโภคบนโลกออนไลน์จึงให้ความสำคัญกับราคาที่คุ้มค่าที่สุดถึง 86.3% รองลงมาคือเรื่องค่าขนส่งที่เหมาะสม 63.2% ความน่าเชื่อถือของร้านค้าก็ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญอยู่ที่ 56.4% โปรโมชั่นที่ดึงดูด น่าสนใจ 56.1% ในขณะที่คุณภาพของสินค้าก็ยังคงมีความสำคัญไม่แพ้กันที่ 53.4%

ปัจจัยที่สาม คือ เทคโนโลยีซึ่งเป็นเครื่องมือหลักที่จะทำให้การทำธุรกิจบนโลกออนไลน์ง่ายขึ้น ในโลกใบนี้มีเทคโนโลยีมากมายที่สามารถนำมาช่วยธุรกิจให้มีประสิทธิภาพ เพียงแต่ SMEs ต้องเลือกใช้ให้เหมาะสม โดย LINE ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่คนไทยคุ้นเคยกันดีในชีวิตประจำวัน ก็พร้อมผลักดันผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยให้สามารถใช้เทคโนโลยีมาดำเนินธุรกิจท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงได้อย่างมีประสิทธิภาพมาโดยตลอด ด้วยโซลูชั่นทางธุรกิจหลักๆ คือ LINE Official Account ช่องทางสำหรับสร้างตัวตนของแบรนด์บนโลกออนไลน์ พูดคุยเพื่อปิดการขายและสร้างสัมพันธ์ระยะยาวกับลูกค้า ที่มีจำนวนการเปิดใช้งานในปัจจุบันกว่า 5 ล้านบัญชี ซึ่ง 90% ของบัญชีทั้งหมดนับเป็นธุรกิจ SMEs 

     โดยหนึ่งในฟีเจอร์ยอดฮิตสำหรับ SME คือ Broadcast การยิงข้อความไปหาผู้ติดตามจำนวนมากได้ในครั้งเดียว ซึ่ง LINE ก็ได้เผย 3 รูปแบบของข้อความที่แบรนด์สามารถ Broadcast หาผู้ติดตามแล้วได้ผลดี เป็นที่ดึงดูดสายตา น่าจดจำแก่ผู้ใช้งาน LINE อีกด้วย ซึ่งก็คือ ข้อความแบบ Rich Message, Rich Video และ Card-based Message

     ต่อมาคือโซลูชั่นด้านโฆษณาอย่าง LINE Ads Platform (LAP) ที่เปิดให้ SME สามารถเปิดบัญชีและลงโฆษณาบนตำแหน่งต่างๆ บนแพลตฟอร์ม LINE เองได้ง่ายๆ ด้วยตนเอง โดยธุรกิจที่มีจำนวนบัญชีโฆษณาบน LAP สูงสุด อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจสุขภาพและอาหารเสริม ธุรกิจความงาม และธุรกิจอาหาร

     นอกจากโซลูชั่นและเครื่องมือมากมายที่ LINE มีให้กับ SME แล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญ คือการให้ความรู้ในเรื่องการใช้เทคโนโลยีกับผู้ประกอบการ SME ไทยอย่างต่อเนื่อง โดยในปีนี้ LINE ได้เปิดตัว LINE Certified Coach ถึง 33 ท่าน เพื่อเป็นกลุ่มคนสำคัญในการบุกเผยแพร่ความรู้ด้านเทคโนโลยีบน LINE ให้กับ SME ไทยทั่วประเทศ พร้อมจัดเตรียมกิจกรรมสนับสนุน SMEs ไว้มากมาย ไม่ว่าจะเป็น รายการ SME BIZ TALK ที่มีผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจออนไลน์มาแชร์ประสบการณ์ตรง เคล็ดลับเด็ดๆ เพื่อเป็นแนวทางให้ SME ไทย กิจกรรม SME Bootcamp ที่มีทั้งในรูปแบบ LIVE และ Webinar เพื่อเสริมองค์ความรู้ในการใช้แพลตฟอร์ม LINE ในการทำธุรกิจ คอนเทนต์ Tutorial ต่างๆ ในรูปแบบวิดีโอให้ SME ไทยพร้อมเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง ศูนย์ Consultation ให้คำปรึกษา ให้ผู้ประกอบการสามารถถามตอบปัญหากับกูรูในเรื่อง LAP ได้แบบเจาะลึก รวมไปถึงโปรแกรมมอบสิทธิพิเศษ เพิ่มกำไร เพิ่มความรู้ เพิ่มความสุข ให้กับ SME ไทยผู้ใช้งาน LINE ในการทำธุรกิจมาอย่างต่อเนื่องอย่าง  LINE Family Club อีกด้วย

     คงไม่มีใครสามารถหยุดการเปลี่ยนแปลงของโลกได้ แต่สิ่งหนึ่งที่ SME สามารถทำได้ และควรเริ่มทำในตอนนี้ คือ การปรับตัว ปรับธุรกิจให้เท่าทัน 3 ปัจจัยดังกล่าว เพื่อรับมือโลกแห่งการเปลี่ยนแปลง ให้ธุรกิจสามารถดำเนินต่อไปได้ และเติบโตไปในโลกยุคใหม่ได้อย่าง ‘รู้เท่าทัน’

         SME ท่านไหนอยากติดตามชมงานย้อนหลังทั้ง session นี้และ session อื่นๆ ที่น่าสนใจ ของงาน THAILAND NOW AND NEXT: PREPARING FOR THE CHANGING WORLD ย้อนหลังได้ที่ https://lin.ee/uFtHA5R/wcvn และติดตามอัพเดทความรู้ ข่าวสารสำหรับผู้ต้องการทำธุรกิจผ่าน LINE ได้ที่ LINE Official Account: @linebizth และ FB Fanpage: LINE for Business

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: MARKETING

ฟังก์ชันแยกบิลจ่ายได้ เทรนด์ใหม่ที่ร้านอาหารต้องรู้ ลูกค้ายุคใหม่อยากจ่ายเท่าที่กินโดยไม่รู้สึกผิด

ไม่ใช่เรื่องต้องรู้สึกผิดอีกต่อไป หากไปกินอาหารกับเพื่อน แล้วอยากแยกรับผิดชอบจ่ายเฉพาะในส่วนที่ตัวเองสั่ง เทรนด์พฤติกรรมใหม่ของผู้บริโภคชาวอเมริกาที่หันมาใช้แอปพลิเคชันแยกจ่ายบิลกันมากขึ้น

ต่อยอดธุรกิจยังไงให้อยู่นานและขายดี กรณีศึกษา ALDI ซูเปอร์มาร์เก็ต ที่ถือกำเนิดมาตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่ 2

ALDI คือ ซูเปอร์มาร์เก็ตสัญญาติเยอรมัน มีต้นกำเนิดมาจาก 2 พี่น้องตระกูล Albrecht คือ “คาร์ล และ ธีโอ อัลเบรชต์” ที่รับช่วงต่อกิจการมาจากแม่ของเขาที่เปิดร้านขายของชำตั้งแต่ยุคก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2