เทคนิคใช้ Customer Journey Map ให้ได้ผล พร้อมตัวอย่างวิธีทำนำไปใช้ได้จริง

 

 

     คงไม่มีใครที่จะสามารถเอาใจทุกคนได้หมด หลายธุรกิจจึงเลือกที่จะปล่อยผ่านลูกค้าที่หงุดหงิดง่าย หรือคุยด้วยยากไป แต่เคยลองวิเคราะห์กันไหมว่าการที่ลูกค้าเป็นแบบนั้นเกิดจากสาเหตุอะไร เพราะข้อมูลที่ได้กลับมาบางทีจะเป็นโอกาสช่องทางในการทำตลาดก็เป็นได้ หนึ่งในวิธีที่จะทำให้รู้ได้ข้อมูลเหล่านั้นก็คือการทำ Customer Journey Map

     วันนี้เราก็เลยจะพาไปดูว่าทำไมลูกค้าถึงอารมณ์เสียง่าย หรือเข้าใจยาก เครื่องมือ Customer Journey Map ส่วนวิธีการจะเป็นอย่างไรไป เมษ์ ศรีพัฒนาสกุล CEO & Founder บริษัท ลูกคิด จํากัด จะเป็นผู้เฉลยคำตอบ

Customer Journey Map คืออะไร

Customer Journey Map คือ เครื่องมือที่ใช้ออกแบบผลิตภัณฑ์ บริการ ประสบการณ์ของลูกค้า เพื่อดูว่าพฤติกรรมผู้บริโภคทั้งก่อนและหลังใช้สินค้าหรือบริการของเราแล้วเป็นอย่างไร โดยสามารถเขียนออกมาได้ว่าในช่วงจังหวะเวลาก่อนที่ลูกค้าที่จะตัดสินใจเลือกซื้อเขาทำอะไรมาบ้าง เช่น มีการหาข้อมูลก่อนตัดสินใจซื้อสินค้าไหมซื้อสินค้าไปแล้วมีปัญหาหรือไม่ หลังจากที่ได้ใช้สินค้าแล้วเป็นอย่างไร ข้อมูลเหล่านี้จะทำให้เราเห็นทุกช่วงเวลาของลูกค้าตั้งแต่ก่อนซื้อไปจนถึงใช้สินค้าจะทำให้เราเห็นปัญหาขณะเดียวกันก็โอกาสในการทำตลาดให้เข้ากับแต่ละช่วงเวลา เพื่อปิดช่องว่างของปัญหาเหล่านั้น

ขั้นตอนในการเขียน Customer Journey Map

  • What ลูกค้าทำกิจกรรมอะไร
  • Where & Who ปฏิสัมพันธ์กับเราผ่านช่องทางไหน
  • How ลูกค้ารู้สึกอย่างไร
  • Why ทำไมรู้สึกอย่างนั้น
  • Opportunities โอกาสในการต่อยอดพัฒนา

 

ตัวอย่างการเขียน Customer Journey Map ของร้านขายเสื้อ

What ลูกค้าทำกิจกรรมอะไร

ก่อน

  • อากาศหนาวอยากได้เสื้อแจ็คเก็ต
  • หาข้อมูลจากร้านต่างๆ
  • เปรียบเทียบแต่ละร้านที่สนใจ
  • ตัดสินใจเลือกร้าน

 

ระหว่างตัดสินใจ

  • เข้ามาเลือกสินค้าที่ร้าน
  • ลองสวมใส่
  • ศึกษาโปรโมชันก่อนชำระเงิน
  • ชำระเงิน

 

หลัง

  • นำมาใช้งาน
  • รีวิวความพึงพอใจ

 

Where & Who ปฏิสัมพันธ์กับเราผ่านช่องทางไหน

ก่อน

  • หาข้อมูลผ่าน Website, Social media
  • ดูรีวิวใน Website

 

ระหว่างตัดสินใจ

  • ชั้นวาง พนักงาน ป้ายแนะนำ
  • ห้องลองสินค้า
  • ป้ายโปรโมชัน
  • พนักงานแคชเชียร์

 

หลัง

  • ช่องทางรับคอมเมนต์ผ่านโซเชียล

 

How ลูกค้ารู้สึกอย่างไร

     แต่ละช่วงเวลาลูกค้ารู้สึกอย่างไร มีความพึงพอใจทุกช่วงเวลาที่ตัดสินใจซื้อหรือเปล่า ซึ่งตรงนี้ก็จะเขียนเป็นกราฟว่าช่วงไหนที่ลูกค้าพึงพอใจหรือว่าไม่พึงพอใจ

Why ทำไมรู้สึกอย่างนั้น

  • อ่านโปรโมชันแล้วไม่เข้าใจ ถามพนักงานก็ตอบไม่ได้
  • ในเว็บไซต์มีคนรีวิวน้อย
  • ข้อมูลน้อย
  • อยากลองหลายครั้งแต่ต้องเดินออกไปหยิบบ่อย

 

Opportunities โอกาสในการต่อยอดพัฒนา 

     เมื่อได้เขียนออกมาแล้วเราก็จะรู้ว่าควรจะปิดช่องว่างในการทำตลาดแบบไหน กรณีของร้านเสื้อผ้าข้างต้นนี้มีปัญหาคือ

  • รีวิวน้อย

วิธีแก้ จัดโปรโมชั่นให้ลูกค้ามารีวิวเพิ่ม อาจจะจัดแคมเปญประมาณว่าถ้ารีวิวเพิ่มจะได้คะแนนไปลดราคาต่อ

  • อ่านโปรโมชันแล้วไม่เข้าใจ ถามพนักงานก็ตอบไม่ได้

วิธีแก้ อบรมพนักงานให้รู้จักวิธีการสื่อสาร ต้องมีป้ายสื่อสารการตลาดชัดเจนมากขึ้น

      เมษ์ อธิบายเพิ่มว่า แต่ปัญหาส่วนใหญ่ของคนทำธุรกิจคือ ไม่ค่อยได้นำข้อมูลที่มีไม่ว่าจะเป็นจากหน้าร้าน เว็บไซต์ ไลน์ เฟซบุ๊ก ฯลฯ มาวิเคราะห์ เช่น เวลาที่ลูกค้าทักแชทมีคนตอบทันทีไหม หรือปล่อยให้รอนานจนลูกค้าอารมณ์เสียและไปร้านอื่น ทั้งหมดเหล่านี้เป็นประสบการณ์และก็ภาพลักษณ์ทางการตลาดทั้งสิ้น

      ดังนั้นหากคุณมีข้อมูลเหล่านี้ ลองไปทำความเข้าใจกับกลุ่มคนที่ไม่ใช่ลูกค้า มันอาจจะทำให้คุณเจอโอกาสสำคัญของการสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ และการสร้างการตลาดที่ตอบโจทย์คนในวงที่กว้างขึ้นก็ได้

 

TEXT : เรียบเรียงจากงานสัมมนา “10 Ways  to improve your business”

ตอน : “ Creative Marketing คิดต่างให้ธุรกิจ Win ด้วยกลยุทธ์ Wow! ”

 

 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: MARKETING

เคสยาดม ชวนหิว ไอเดียทำเงิน จากไอเทมฮิต ว้าว! จนอยากหยิบมาใช้

พบไอเดียสุดเก๋ “เคสยาดม ฉบับคนหิว” ที่นำเอาเมนูสรีทฟู้ดแบบไทยๆ รวมถึงอาหารฟาสฟู้ดมาปั้นด้วยดินไทย ทำเป็นเมนูต่างๆ อาทิ ผัดไท, ส้มตำ, ก๋วยเตี๋ยว, มาม่า ต้มยำกุ้ง, แฮมเบอร์เกอร์, ถังไก่ KFC

รู้จัก FOMO Marketing กลยุทธ์ปลุกความกลัวพลาด ที่ช่วยเร่งยอดขายโต

ลูกค้าไม่ได้ซื้อเพราะอยากได้เสมอไป แต่ซื้อเพราะ ‘กลัวพลาด’ รู้จัก FOMO Marketing กลยุทธ์ต้นทุนต่ำที่ช่วยให้ SME ปิดการขายได้ไวขึ้น

รวมกับดักการตลาด ที่กำลัง “ฆ่า” SME แบบไม่รู้ตัว ดูวิธีรอดที่ทำได้ทันที

พาไปแกะทีละข้อ ว่าทำไม “สูตรยิงแอด” หรือ “สูตรทำคอนเทนต์” ที่เวิร์กกับคนอื่น ถึงไม่เวิร์กกับคุณ พร้อมชี้ทางออก ที่จะทำให้การสื่อสารแบรนด์กลับมา “เข้าเป้า” ได้จริง