โพสต์ให้ปังด้วยพลัง AI! 6 เทคนิคสร้างคอนเทนต์ที่ขายของได้จริง

     ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา AI (Artificial Intelligence) หรือ ปัญญาประดิษฐ์ กลายเป็นคำที่เราได้ยินกันบ่อยขึ้นในแทบทุกวงการ ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยี การแพทย์ การศึกษา ไปจนถึงการตลาดและการทำคอนเทนต์ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในวงการที่ AI เข้ามาปฏิวัติการทำงานอย่างชัดเจน

     จากเดิมที่เราต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงเพื่อคิดคอนเทนต์ เขียนแคปชั่น เขียนบทความ รวมไปถึงตัดต่อวิดีโอและจัดทำภาพกราฟฟิก ปัจจุบันมีเครื่องมือ AI มากมายที่สามารถช่วยคิดแทน เขียนแทนและวิเคราะห์แทนได้ในเวลาเพียงไม่กี่นาที จนกลายเป็น "ผู้ช่วยคนสำคัญ" ของนักการตลาดยุคใหม่

     แต่ไม่ว่าคุณจะเป็นแม่ค้าออนไลน์ เจ้าของแบรนด์ ทีมการตลาด หรือครีเอเตอร์มือใหม่ AI ก็สามารถช่วยคุณสร้างสรรค์คอนเทนต์ปังที่จะช่วยในการเจาะตลาดเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำขึ้น

     โดยในบทความนี้ Kollective จะพาคุณไปรู้จักกับไอเดียการใช้ AI ทำคอนเทนต์แบบเต็มแม็กซ์ พร้อมตัวอย่างการนำ AI ไปใช้ที่ทุกแบรนด์สามารถนำไปปรับใช้ได้ทันที

6 ไอเดียใช้ AI สร้างคอนเทนต์ดันยอดขาย

     ในยุคที่ทุกธุรกิจต้องแข่งกันแย่งพื้นที่ในหน้าฟีด การมี “คอนเทนต์ดี” จึงเป็นเหมือนอาวุธลับที่ขาดไม่ได้ แต่สิ่งที่หลาย ๆ คนต้องเจอคือไอเดียตันคิดคอนเทนต์ใหม่ ๆ ไม่ออก ไม่รู้จะปรับเนื้อหายังไงไม่ให้ดูยัดเยียดขายของจนเกินไป หรือแม้กระทั่งการใช้คำและภาษาที่ต้องเข้าถึงกลุ่มลูกค้าในแต่ละกลุ่มที่แตกต่างกัน ซึ่งล้วนแต่ต้องใช้แรงและเวลา การใช้ AI เข้ามาช่วยจึงเป็นคำตอบให้กับหลายแบรนด์ โดย AI สามารถช่วยได้ตั้งแต่

     1. ใช้ AI ช่วยคิดไอเดียคอนเทนต์ไวขึ้น หมดปัญหาไอเดียตัน

          หลายคนใช้เวลาหลายชั่วโมงกับการนั่งจ้องหน้าจอ พยายามคิดหัวข้อหรือแคปชั่นที่โดนใจลูกค้า แต่ก็ไอเดียตันคิดอะไรไม่ออก AI สามารถเป็นเหมือนเพื่อนร่วมคิดที่ช่วยระดมไอเดียได้ภายในไม่กี่นาที เพียงแค่ใส่ธีมหรือโทนที่ต้องการ ก็สามารถสร้างลิสต์คอนเทนต์ที่เขียนต่อได้ทันที

          ตัวอย่าง

          แบรนด์แฟชั่นอยากได้ไอเดียทำคอนเทนต์เกี่ยวกับการโปรโมทเสื้อผ้าสำหรับสาวออฟฟิศ โดยอาจจะพิมพ์ว่า “ขอไอเดียการทำคอนเทนต์โปรโมทเสื้อผ้าสำหรับสาวออฟฟิศอายุตั้งแต่ 25-30 ปีในกรุงเทพ จำนวน 10 คอนเทนต์ ให้กับแบรนด์เสื้อผ้าในไทย สำหรับลงในช่องทาง TikTok” ยิ่งให้รายละเอียดได้เท่าไหร่ ยิ่งได้คอนเทนต์ที่ตรงใจมากเท่านั้น

     2. วิเคราะห์คอนเทนต์เพื่อวางแผนทำคอนเทนต์ให้ถูกใจกลุ่มเป้าหมาย

          AI ไม่ได้แค่ช่วยคิด แต่ยังวิเคราะห์ได้ด้วยว่าคอนเทนต์แบบไหน “โดนใจคนดู” หรือ “มีแนวโน้มปัง” คุณสามารถใช้ข้อมูลโพสต์เก่ามาช่วยให้รู้ว่าทำไมบางโพสต์ถึงมียอดไลก์และแชร์เยอะ จากนั้นนำข้อมูลนี้มาวางแผนคอนเทนต์ในอนาคตให้ตรงความสนใจของกลุ่มเป้าหมาย

          ตัวอย่าง

          ธุรกิจฝั่ง B2B ที่ทำเกี่ยวกับ Influencer Marketing ใช้ AI ช่วยในการวิเคราะห์คอนเทนต์คร่าว ๆ ในหน้าฟีด TikTok เพื่อดูว่าคอนเทนต์ไหนได้รับความสนใจเป็นพิเศษ หรือมีแนวโน้มที่แตกต่างคอนเทนต์ทั้งหมดยังไงบ้าง ซึ่งการให้หน้าฟีดเป็นเพียงการวิเคราะห์เบื้องต้นเท่านั้น ทั้งนี้แบรนด์สามารถเพิ่มรายละเอียดอื่น ๆ เสริมได้ เช่น ตัวอย่างแคปชั่น ตัวเลขหลังบ้านของแต่ละคอนเทนต์ รวมถึงแผนของคอนเทนต์ เพื่อให้ AI มีข้อมูลหลากหลายมุมในการวิเคราะห์ให้แม่นยำขึ้น

     3. เขียนบทความ SEO สำหรับขายของอย่างมือโปร

          ไม่ต้องนั่งเสียเวลาหลายชั่วโมงกับการเขียนรายละเอียดสินค้า หรือบทความ SEO อีกต่อไป AI สามารถช่วยเรียบเรียงข้อความให้ดูเป็นมืออาชีพ มีความน่าเชื่อถือ และตรงกลุ่มเป้าหมาย

          คุณสามารถสั่งให้ AI เขียนบทความแบบให้ความรู้ที่แอบแทรกการขายได้อย่างแนบเนียน รวมถึงสามารถช่วยวิเคราะห์และแนะนำคีย์เวิร์ดที่น่าสนใจหรือเป้นคำที่มีแนวโน้มจะถูกค้นหาโดยกลุ่มเป้าหมายของแบรนด์ และการเรียบเรียงการเขียนให้ถูกหลัก SEO ตาม Algorithm ของ Search Engine ซึ่งจะทำให้คอนเทนต์ติดอันดับสูงขึ้นด้วย

          ตัวอย่าง

          แบรนด์อาหารเสริมป้องกันผมร่วงที่ต้องการกลุ่มลูกค้าเพศชายช่วงอายุ 40 ปีขึ้นไป สามารถใช้ AI ในการคิดเนื้อหา เลือก Keyword และเรียบเรียง H1, H2, H3 ให้ตรงกับ Algorithm ได้

     4. สร้างภาพและวิดีโอขายของด้วย AI

          หลายธุรกิจขนาดเล็กอาจไม่มีงบสำหรับจ้างทีมกราฟิกหรือตัดต่อวิดีโอมืออาชีพ แต่ AI สามารถช่วยสร้างภาพหรือคลิปที่ดูสวยงามและตอบโจทย์การขายได้ เพียงแค่ใส่คำอธิบายหรือคีย์เวิร์ด ก็สามารถสร้างภาพสินค้าในฉากที่ต้องการหรือแม้กระทั่งช่วยในการสร้างภาพกราฟฟิกอธิบายรายละเอียดที่ต้องการได้

          ตัวอย่าง

          แบรนด์สามารถใช้เครื่องมือ AI อย่าง ChatGPT, Midjourney, DALL·E ช่วยให้คุณสร้างภาพผลิตภัณฑ์ ภาพประกอบ หรือภาพโปรโมตที่สื่อสารแบรนด์ได้ชัดเจน เพียงแค่ใส่คำอธิบาย เช่น การทำโลโก้บริษัทให้เป็นมาสคอต

          นอกจากนี้ยังสามารถนำภาพเหล่านี้ไปปรับแต่งเพิ่มเติมใน Canva หรือ Adobe Express เพื่อเพิ่มโลโก้ ข้อความ หรือใส่กรอบให้เหมาะกับโซเชียลมีเดีย

     5. ทำคอนเทนต์แบบเฉพาะกลุ่ม (Personalized Content)

          ลูกค้าแต่ละกลุ่มมีความต้องการและความรู้สึกที่แตกต่างกัน การพูดให้โดนใจต้องปรับข้อความให้เฉพาะ โดยใช้ AI ช่วยสร้างข้อความขายที่ตรงกับความสนใจและภาษาของกลุ่มเป้าหมายแต่ละแบบ เช่น สร้างข้อความขายที่แตกต่างกันสำหรับลูกค้าผู้หญิงกับผู้ชาย วัยนักเรียนกับวัยทำงาน

          ตัวอย่าง

          การใช้ AI ในการคิดแคปชั่นเพื่อโปรโมทเครื่องสำอางอย่างลิปสติกไปยังกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างกัน ทั้งนี้แบรนด์สามารถใส่รายละเอียดมากขึ้นเพื่อให้ได้แคปชั่นที่ให้ข้อมูลครบถ้วนได้มากขึ้น เช่น รายละเอียดของแบรนด์ จุดเด่นของสินค้า รวมถึงความยาวหรือ mood&tone ของแคปชั่นที่ต้องการ

     6. ใช้ AI เลือก Influencer ที่ใช้และออกแบบบรีฟที่ตรงใจ

          ในวันที่โซเชียลมีเดียเต็มไปด้วยเสียงของแบรนด์นับไม่ถ้วน ลูกค้าจึงเกิดการเปรียเทียบ การมีคอนเทนต์ดีอย่างเดียวอาจไม่พอ เพราะลูกค้าไปเห็นละรับรู้ข้อมูลสินค้า แต่อาจยังไม่ไว้ใจ มากพอ จนเกิดการสั่งซื้อ หลายแบรนด์จึงเริ่มสนใจเรื่องการผลิตคอนเทนต์อย่างมีประสิทธิภาพ และหาตัวแทนของแบรนด์ในการสื่อสารในปริมาณที่เพิ่มมากขึ้น ให้เข้าถึงใจลูกค้าได้อย่างทั่วถึง ด้วยเหตุนี้การใช้ AI คิดคอนเทนต์ ส่งต่อผ่าน Influencer เพื่อเพิ่มการมองเห็น (visibility) และความน่าเชื่อถือ (trust) ไปพร้อมกัน

          ตัวอย่าง

          - แบรนด์สกินแคร์สำหรับผิวแพ้ง่าย ใช้ ChatGPT เขียนบทความในโทน “ให้ความรู้ + อ่อนโยน” แล้วจับคู่กับ Influencer กลุ่ม micro (5K–50K followers) ที่ตรงกลุ่มเป้าหมาย

          - เพิ่มประสิทธฺภาพการทำงาน ทีมยังใช้ AI วิเคราะห์ performance โพสต์ของ Influencer แต่ละคน เพื่อเลือกคนที่มี Engagement จริง ไม่ใช่แค่ยอด follow

     หลายคนอาจยังรู้สึกว่า AI เป็นของซับซ้อน ใช้ยาก หรือห่างไกลจากงานการตลาด แต่ความจริงแล้ว...แค่คุณรู้วิธีใช้ AI ให้ถูก ก็สามารถ ปลดล็อกไอเดีย ประหยัดเวลา ขยายผลไว ได้แบบคุ้มค่าทุกบาท

      เพราะเพียงแค่คุณรู้วิธีใช้ก็สามารถช่วยคุณปลดล็อกยอดขายผ่านคอนเทนต์ได้อย่างรวดเร็ว ประหยัดเวลาให้คุณได้โฟกัสในการทำการตลาดส่วนอื่นได้มากขึ้น และได้คอนเทนต์ที่ตรงใจลูกค้าแบบไม่ต้องเดาอีกต่อไป แต่เนื่องจาก AI หลายตัวยังอยู่ในช่วงของการเรียนรู้และเก็บข้อมูล ทุกครั้งที่ใช้จึงจำเป็นที่จะต้องรีเช็คข้อมูลจากแหล่งข่าวที่น่าเชื่อถืออีกครั้งเพื่อให้คอนเทนต์ของคุณถูกต้องและครบถ้วนที่สุด

     ที่มา : Kollective

 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: MARKETING

เคสยาดม ชวนหิว ไอเดียทำเงิน จากไอเทมฮิต ว้าว! จนอยากหยิบมาใช้

พบไอเดียสุดเก๋ “เคสยาดม ฉบับคนหิว” ที่นำเอาเมนูสรีทฟู้ดแบบไทยๆ รวมถึงอาหารฟาสฟู้ดมาปั้นด้วยดินไทย ทำเป็นเมนูต่างๆ อาทิ ผัดไท, ส้มตำ, ก๋วยเตี๋ยว, มาม่า ต้มยำกุ้ง, แฮมเบอร์เกอร์, ถังไก่ KFC

รู้จัก FOMO Marketing กลยุทธ์ปลุกความกลัวพลาด ที่ช่วยเร่งยอดขายโต

ลูกค้าไม่ได้ซื้อเพราะอยากได้เสมอไป แต่ซื้อเพราะ ‘กลัวพลาด’ รู้จัก FOMO Marketing กลยุทธ์ต้นทุนต่ำที่ช่วยให้ SME ปิดการขายได้ไวขึ้น

รวมกับดักการตลาด ที่กำลัง “ฆ่า” SME แบบไม่รู้ตัว ดูวิธีรอดที่ทำได้ทันที

พาไปแกะทีละข้อ ว่าทำไม “สูตรยิงแอด” หรือ “สูตรทำคอนเทนต์” ที่เวิร์กกับคนอื่น ถึงไม่เวิร์กกับคุณ พร้อมชี้ทางออก ที่จะทำให้การสื่อสารแบรนด์กลับมา “เข้าเป้า” ได้จริง