ใช้ Social Commerce ยังไงให้ตอบโจทย์ธุรกิจ เทคนิคเพิ่มยอดขายง่ายๆ ด้วย LINE SHOPPING

 

     ด้วยพฤติกรรมการช้อปปิ้งออนไลน์ของผู้บริโภคชาวไทยที่ไม่เหมือนกับประเทศไหนๆ โดยคนไทยชอบซื้อสินค้าผ่านโซเชียลมีเดีย เพราะนอกจากจะได้สินค้าที่ตรงใจแล้ว การได้แชทพูดคุยกับร้านค้า หรือพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์โดยตรง ยังทำให้เกิดความมั่นใจในรายละเอียดสินค้าที่ต้องการ แถมหากซื้อไปแล้วเกิดมีปัญหาก็ยังสามารถติดต่อสอบถามกลับมาได้โดยตรง ด้วยเหตุนี้จึงไม่แปลกที่ “Social Commerce” จะกลายมาเป็นหนึ่งในช่องทางการค้าหลักในตลาดอีคอมเมิร์ซของไทย ซึ่งไม่น่าเชื่อว่าจะมีสัดส่วนถึง 62 เปอร์เซ็นต์จากการค้าขายออนไลน์ของไทยเลยทีเดียว (ข้อมูลจากงาน Thailand Now & Next Rebuild & Grow with Chat Commerce จัดโดย LINE Thailand)

     แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เช่นกันว่าแม้การค้าขายผ่านโซเชียลคอมเมิร์ซจะช่วยให้สามารถพูดคุยกับลูกค้าเพื่อหา Insight ได้ สามารถทำการตลาดได้โดยตรง หรือมีโอกาสปิดการขายได้มากกว่าแพลตฟอร์มอื่นถึง 15 เท่า แต่ขณะเดียวกันก็อาจสร้างให้เกิดความผิดพลาดได้มากเช่นกัน เนื่องจากไม่มีระบบหลังบ้านเข้ามาซัพพอร์ตทำให้หากต้องการที่จะดำเนินขั้นตอนต่อไป เช่น การชำระเงิน การจ่าหน้าเพื่อจัดส่ง การเช็คสต็อกสินค้าที่เหลือ จะต้องออกจากแอป เพื่อไปยังแพลตฟอร์มอื่น หรือทำแบบระบบแมนนวลด้วยตัวเอง ในขณะที่หากหันไปใช้ช่องทางมาร์เก็ตเพลสที่มีอยู่ก็ต้องแข่งขันเรื่องราคาเป็นหลักจากจำนวนคู่แข่งที่มีอยู่มากมาย ไม่สามารถสร้างปฏิสัมพันธ์อันดีกับลูกค้าได้ แถมต้องเจอกับค่าธรรมเนียมร้านค้า (GP) ที่เพิ่มขึ้นทุกปี

LINE SHOPPING แชท ซื้อ ขาย ครบ จบ ได้ในที่เดียว

     ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้ LINE  แอปพลิเคชันแชทที่มีผู้ใช้งานในไทยกว่า 50 ล้านแอคเค้าท์ โดยพบว่ากว่าร้อยละ 73 ของคนไทยทั้งประเทศใช้ LINE เป็นช่องทางหลักในการสื่อสารออนไลน์ไม่ว่าจะคุยงาน คุยกับเพื่อน หรือแม้แต่การสั่งซื้อสินค้ากับร้านค้าต่างๆ ได้คิดพัฒนา “LINE SHOPPING” โซเชียลคอมเมิร์ซเครื่องมือและแพลตฟอร์มที่ถูกสร้างขึ้นมาให้ถูกจริตกับการใช้งานของคนไทย เพื่ออำนวยความสะดวกกับลูกค้าและร้านค้าในไทยให้สามารถแชท ซื้อ ขาย ครบ จบในที่เดียวได้ โดยไม่ต้องเปลี่ยนแอป

     โดยหากให้อธิบายถึงคุณสมบัติของ LINE SHOPPING ให้เข้าใจง่ายๆ คงเปรียบเหมือนกับลูกผสมระหว่างโซเชียลคอมเมิร์ซกับมาร์เก็ตเพลส โดยร้านค้าสามารถจัดแสดงโชว์แคตตาล็อกสินค้าได้หลายรายการเหมือนหน้ามาร์เก็ตเพลส แต่ขณะเดียวกันก็สามารถแชทพูดคุยกับลูกค้าได้โดยตรงด้วย รวมถึงหากสนใจอยากตัดสินใจซื้อสินค้านั้นๆ ร้านค้าก็สามารถรวมออเดอร์ในระบบส่งให้ลูกค้าภายในแชทได้ทันที

     โดย LINE SHOPPING คือ การต่อยอดมาจากการนำ LINE  Official Account (LINE OA) ที่เปรียบเหมือนหน้าร้านให้ร้านค้า รวมถึงสามารถพูดคุยกับลูกค้าผ่านแชทได้ และ      ระบบช่วยจัดการร้านขายของออนไลน์มารวมเข้าไว้ด้วยกัน จึงทำให้สามารถแชทและทำการซื้อขายด้วยระบบมืออาชีพพร้อมกันไปได้ด้วย แถมยังไม่ต้องเสียค่าสมัคร ไม่เสียค่า GP สามารถใช้งานได้ฟรี เพียงแค่มีบัญชี LINE Official Account ก็สามารถเปิดร้าน LINE SHOPPING ได้เลย

LINE SHOPPING แตกต่างจากแพลตฟอร์มอื่นยังไง?

    ถ้าเปรียบเทียบในฝั่งโซเชียลคอมเมิร์ซ ซึ่งมีจุดเด่นทั้งการสร้างคอนเทนต์ เพื่อกระตุ้นความสนใจของลูกค้า, การสามารถติดต่อร้านค้าได้โดยตรง พูดคุยกับลูกค้าเพื่อหาอินไซต์ความต้องการของลูกค้า และติดตามผลได้ แต่ข้อเสีย ก็คือ ไม่มีระบบซัพพอร์ตหลังบ้าน ทุกอย่างต้องลงมือทำเอง เช่น การส่งหลักฐานการโอนเงินให้กับลูกค้า การขอที่อยู่การจัดส่ง การเช็คสต็อกสินค้า จึงอาจทำให้เกิดข้อผิดพลาดขึ้นได้ โดยในส่วนนี้ LINE SHOPPING จะมีระบบหลังบ้านให้ใช้ฟรี จึงช่วยให้ร้านค้าสามารถแชทขายสินค้ากับลูกค้าได้สะดวกสบาย ขณะเดียวกันก็ช่วยลดข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้น สร้างประสบการณ์การซื้อที่ดีกว่า

     สำหรับทางฝั่งมาร์เก็ตเพลสที่มีข้อดี คือ การจัดแสดงโชว์หน้าแคตตาล็อกสินค้าที่หลากหลาย ทำให้ลูกค้าสามารถเลือกซื้อสินค้าที่ต้องการได้ง่ายขึ้น มีระบบจัดการสำหรับซื้อขาย และโปรโมชั่นต่างๆ เพื่อสนับสนุนร้านค้า แต่ข้อเสีย ก็คือ ลูกค้ากับร้านค้าไม่มีโอกาสสร้างปฏิสัมพันธ์กันได้ ขาดการสร้าง Brand Loyalty การซื้อขายเป็นลักษณะซื้อแล้วก็จบไป ไม่ได้ติดตามผล ถึงจะมีการสร้างคอนเทนต์ ก็ไม่เหมือนกับในโซเชียลมีเดีย เพราะลูกค้าตั้งใจเข้ามาซื้อสินค้า มากกว่าที่จะสนใจอ่าน ข้อสำคัญยังถูกแข่งขันด้วยราคาเป็นหลักจากจำนวนคู่แข่งที่มากมาย การทำโปรโมชั่นก็ต้องเสียค่าธรรมเนียม หรือแม้แต่ค่าธรรมเนียมร้านค้า (GP) ที่เพิ่มขึ้นทุกปี ในส่วนนี้ LINE SHOPPING มีพื้นที่ให้ร้านค้าสามารถจัดโชว์สินค้าได้เหมือนยกหน้าร้านไปอยู่ในห้างขนาดใหญ่ ขณะเดียวกันก็สร้างความโดดเด่นได้ด้วยการสร้าง Branding ที่สามารถแสดงตัวตนได้อย่างชัดเจน ไม่ใช่เพียงแค่การโชว์รูปสินค้าและแข่งขันด้วยราคาแบบแห้งๆ เท่านั้น

สร้างโอกาสธุรกิจแบบยั่งยืน กับ LINE SHOPPING

     LINE เป็นแอปพื้นฐานที่มีอยู่ในมือถือทุกๆ เครื่อง เป็นแชทแอปยอดนิยมที่คนไทยใช้งานมากที่สุดในตอนนี้ โอกาสในการทำการค้าผ่าน LINE SHOPPING จึงมีค่อนข้างสูงกว่า ซึ่งลูกค้าสามารถติดต่อกับร้านค้าได้โดยตรง ทําให้ซื้อของอย่างมั่นใจ นอกจากนี้ยังมีระบบแจ้งเตือนแบบ Real-time ไม่ว่าลูกค้าหรือร้านค้าทักหรือตอบกลับไปก็จะขึ้นแจ้งเตือน จึงทําให้สะดวก รวดเร็วกว่ามาร์เก็ตเพลสรูปแบบอื่นๆ ที่สำคัญการเข้าใช้งาน LINE SHOPPING ไม่ต้องเสียค่าสมัครใดๆ ไม่เสียค่า GP (ค่าธรรมเนียมร้านค้า) สามารถใช้งานได้ฟรี เพียงแค่มีบัญชี LINE  Official Account ก็สามารถเปิดร้าน LINE SHOPPING ได้เลย

4  ประโยชน์ช่วยธุรกิจปัง! กับ LINE SHOPPING

     เรียกได้ว่าการค้าขายในยุคนี้ร้านค้าส่วนมากมี LINE OA อยู่แล้ว จึงง่ายต่อการเชื่อมต่อบัญชีเพื่อนํามาขายใน LINE SHOPPING ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่ใช้ง่าย มีเครื่องมือที่ช่วยให้ร้านค้าปิดการขายและสร้างการซื้อซํ้าจากฐานลูกค้า พร้อมทั้ง ประโยชน์ที่สนับสนุนร้านค้า ดังนี้

     - ช่วยในเรื่องการ Build Chat & Shop เพราะ LINE SHOPPING มีระบบหลังบ้านฟรีที่ช่วยให้พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์สามารถจัดการขายผ่านแชทได้อย่างสะดวก ไม่ว่าจะเป็นระบบการออกออเดอร์ผ่านแชท รวมบิลให้ลูกค้ากดซื้อได้เอง หรือส่ง notification อัพเดทสเตตัสของสินค้าได้เลยผ่านแชท รวมถึงมีระบบจัดการหลังบ้านไม่ว่าจะเป็นการจัดการออเดอร์ การจัดการสต๊อก เชื่อมต่อกับช่องทางการชำระเงินบัตรเดบิต บัตรเครดิต สร้างประสบการณ์การซื้อที่ดีมากขึ้น แถมระบบก็ง่าย แม้เป็นแม่ค้าหรือมือใหม่ก็เริ่มจาก 0 ได้

     - ช่วย Build Brand ได้อย่างเห็นผล เนื่องจาก LINE SHOPPING เป็นเครื่องมือที่เชื่อมต่อกับ LINE Official Account (LINE OA) จึงทำให้มีลูกเล่นของ Interface ไม่ว่าจะเป็นการส่งข้อความ Rich Message, Rich VDO หรือแม้แต่ Rich Menu ที่ช่วยร้านค้าสามารถสร้างความโดดเด่นของร้านค้าและสินค้า ซึ่งช่วยในเรื่องของการสร้าง Branding ทำให้ร้านค้าสามารถแสดงตัวตนได้อย่างชัดเจน ไม่เหมือนกับ Interface ของ E-Marketplace ที่อาจจะไม่มีลูกเล่นมากนัก จึงทำให้ต้องเน้นแข่งขันกันด้วยราคา

     - ช่วย Build Fanbase  มีเครื่องมือช่วยสะสมฐานแฟนได้ด้วยตัวเองใน LINE OA เช่น ถ้าลูกค้ากดซื้อสินค้าผ่าน LINE SHOPPING แม้จะยังไม่เป็นเพื่อนใน LINE OA ระบบก็จะ Auto Add ให้อัตโนมัติ เน้นรักษาลูกค้าเก่า เพื่อความยั่งยืนของธุรกิจ โดยไม่ต้องพึ่งพาแพลตฟอร์มในการหาลูกค้าใหม่ตลอด และสามารถจัดกลุ่มลูกค้าได้ด้วยการติด Tag ลูกค้า หรือการแยกประเภทลูกค้าแบบอัตโนมัติจากระบบหลังบ้าน เพื่อให้ร้านค้าสามารถจัดการสื่อสารและยิงโฆษณาไปหากลุ่มลูกค้าได้ตรงกลุ่ม ช่วยให้สร้าง Loyalty กับลูกค้าและการซื้อซ้ำได้ดีมากยิ่งขึ้น

     - ช่วย Build Sale โปรโมชั่นจริงใจ ด้วย FREE Benefits ให้ร้านค้าซึ่ง LINE SHOPPING มีสนับสนุนตลอดทั้งปี เช่น แจก LINE POINTS (1 LINE POINT = 1 บาท) หรือคูปอง LINE MAN ให้ลูกค้าของร้านค้า โดยร้านค้าไม่ต้องออกค่าใช้จ่ายเลย เหมือนโปรโมชั่นร้านของตัวเอง ช่วยให้ร้านค้าปิดการขายได้ง่ายมากยิ่งขึ้น

     ดังนั้นจึงสรุปได้ว่าเหตุผลที่ควรใช้ LINE SHOPPING ก็คือ

1. มีเครื่องมือให้ใช้งานฟรี ไม่เก็บค่า GP 

2. มีเครื่องมือที่ช่วยสะสมฐานลูกค้าใน LINE OA ลดการพึ่งพาแพลตฟอร์มในการหาลูกค้า 

3. สามารถดูข้อมูลหลังบ้าน และ Data ต่างๆ ได้ เพื่อนําไปวางแผนการตลาดหรือการทําธุรกิจต่อไป LINE SHOPPING จึงนับเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยสำคัญของธุรกิจ โดยเฉพาะในช่วงที่เกิดวิกฤตจากโรคร้ายและเศรษฐกิจผันผวนเช่นนี้

     - สมัครและเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ LINE SHOPPING ได้ทาง  https://lineshoppingseller.com/

     - เรียนรู้การเปิดร้านภายใน 4 ขั้นตอนง่ายๆ ผ่านมือถือ

     - สมัครเข้าคลาสเรียนฟรี จากทีมงาน LINE SHOPPING Seller Academy https://lineshoppingseller.com/webinars/classroom-july22

     ติดตามข่าวสารและกิจกรรมสำหรับ LINE SHOPPING ได้ที่ LINE OA @linemyshop

#เข้าใจคนขายได้ใจคนซื้อ #LINESHOPPING #SocialCommerceที่สร้างมาเพื่อคนไทย

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: MARKETING

วิกฤตสูงวัย เด็กเกิดใหม่น้อย กรณีศึกษาธุรกิจญี่ปุ่น ปรับตัวผลิตสินค้าผู้ใหญ่แทนสินค้าเด็ก

Oji Holdings ผู้ผลิตผ้าอ้อมในญี่ปุ่นประกาศยุติผลิตผ้าอ้อมเด็ก หันไปเพิ่มปริมาณการผลิตผ้าอ้อมผู้ใหญ่แทน สาเหตุมาจากอัตราการเกิดที่ลดลงและจำนวนประชากรสูงวัยของญี่ปุ่นที่เพิ่มสูงขึ้น

โอกาสโกอินเตอร์ของแบรนด์ไทย ทำงานกับนักธุรกิจระดับโลก งาน Gifts & Premium Fair ฮ่องกง

ฮ่องกงขึ้นชื่อว่าเป็นดินแดนที่มีการจัดงานแสดงสินค้าที่ยิ่งใหญ่ของโลกแห่งหนึ่ง และหนึ่งในนั้นคืองานแสดงสินค้าของขวัญและของพรีเมียมภายใต้ชื่อ Hong Kong Gifts & Premium Fair ซึ่งกำลังจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 27-30 เมษายน 2024