META – Commerce เทรนด์ใหม่การค้าออนไลน์ ไม่รู้จักระวังขายของแพ้คู่แข่ง

TEXT : กองบรรณาธิการ

 

     ถ้าเมื่อ 10 กว่าปีก่อน E-Commerce หรือการค้าขายผ่านโลกออนไลน์เป็นเรื่องไกลตัวที่หลายคนคิดว่าไม่น่าจะเป็นไปได้ ในวันนี้ “META – Commerce” เทรนด์การค้ายุคใหม่ที่ผู้ซื้อจะได้รับประสบการณ์เสมือนจริงจากการเลือกซื้อสินค้าในรูปแบบกราฟิก 3 มิติ มากกว่าการซื้อผ่านช่องทางอีคอมเมิร์ซที่ใช้กันในปัจจุบัน ก็คงจะไม่แตกต่างกัน เพราะอีกสิบปีข้างหน้านี่อาจกลายเป็นเรื่องปกติธรรมดาเหมือนกับที่เรากำลังซื้อของผ่านโลกออนไลน์อยู่ในขณะนี้ก็ได้

META – Commerce คือ อะไร?

     กุลธิรัตน์ ภควัชร์ไกรเลิศ นายกสมาคมผู้ประกอบการอิเล็กทรอนิกส์ไทย (THECA) คนใหม่ล่าสุดได้เล่าถึง META – Commerce เทรนด์การตลาดออนไลน์อนาคตที่คิดว่าไม่เกินสิบปีต่อจากนี้ต้องเกิดขึ้นแน่นอนว่า

     “Meta - Commerce จริงๆ ก็คือ การซื้อขายสินค้าบนโลกเสมือนจริง หรือ Metaverse ซึ่งเราคิดว่าต่อไปอีคอมเมิร์ซจะพัฒนาไปแนวทางนี้ โดย ณ ตอนนี้เราอาจเริ่มต้นจากการซื้อขายสินค้าในเกมก่อน แต่ต่อไปจะกลายเป็นอนาคตการค้าออนไลน์ที่เติบโตขึ้นไปอีกขั้นหนึ่งแน่นอน เพื่อให้ลูกค้าสามารถเข้าถึง สัมผัส หรือทำความรู้จักกับสินค้านั้นๆ ได้วิเศษมากขึ้นกว่ารูปแบบการซื้อขายออนไลน์ที่ผ่านมา เพิ่มโอกาสทางการขายให้กับธุรกิจนั่นเอง”

จีน นำร่องพัฒนา Metaverse เบอร์ต้นๆ ของโลก

     โดยถ้าพูดถึงการพัฒนาโลก Metaverse ว่าไปถึงไหนกันแล้ว นายกสมาคม THECA กล่าวว่า 3 ประเทศที่เป็น Top 3 ที่เริ่มมีการวางแผนเตรียมความพร้อมรองรับโลกเสมือนจริงดังกล่าวแล้ว ได้แก่ อิสราเอล, สหรัฐอเมริกา และจีน โดยเฉพาะกับจีนที่เคยมีการบล็อกหรือสั่งห้ามประชากรไม่ให้เล่นเฟซบุ๊ก แต่ ณ วันนี้กลับเป็นประเทศที่มีการเตรียมความพร้อมเข้าสู่โลก Metaverse เป็นอันดับต้นๆ ของโลก โดยมีการพัฒนาสูงถึง 78 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่สหรัฐอเมริกาอยู่ที่ราว 57 เปอร์เซ็นต์

     โดยในปี 2565 จีนได้มีการออกนโยบายเกี่ยวกับ Metaverse ไปแล้วกว่า 7 มณฑล17 เมือง ตัวอย่างเช่น ในกรุงปักกิ่งที่มีการให้เงินอุดหนุนทางค่าเช่าสถานที่ให้กับองค์กรที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับ Metaverse และสนับสนุนการรวมตัวกันขององค์กร และหน่วยงานบริการ Metaverse ไปจนถึงจัดตั้ง Sub-Fund กองทุน Metaverse ที่มุ่งเน้นการลงทุนระยะแรกและระยะยาวขึ้นมา

     หรืออย่างในเขตเทียนเฮอที่มีการเปิดตัวการลงทุนทั้งหมดประมาณ 2 หมื่นล้านหยวน นําร่องอุตสาหกรรม Metaverse 10 แห่งแรก ที่ได้รับมอบป้ายอย่างเป็นทางการในโครงการก่อสร้าง 15 แอปพลิเคชั่นนําร่อง รวมถึงได้มีการเซ็นสัญญาร่วมกับผู้ประกอบการ 30 เจ้า เช่น Zhengjia Plaza, NetEase และ Kugou เพื่อสร้างศูนย์สร้างภาพ AI และ Metaverse ในอนาคต

     ซึ่งสอดคล้องกับข้อมูลการนำเสนอข่าวของหลายสำนักเมื่อต้นปี ที่กล่าวว่านักวิเคราะห์จาก Morgan Stanley ได้คาดการณ์ว่าตลาด Metaverse ในประเทศจีนมีแนวโน้มมีมูลค่าสูงถึง 52 ล้านล้านหยวน หรือราว 8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ  โดยคาดว่าบริษัทเทคโนโลยีอย่าง Tencent, NetEase, ByteDance และ Alibaba จะเข้ามาเป็นผู้เล่นคนสำคัญในโลก Metaverse เช่นเดียวกับนักวิเคราะห์จาก CloudTree ที่มองว่า Metaverse จะกลายมาเป็นอนาคตของการติดต่อสื่อสารผ่านโลกออนไลน์

การเติบโตของอีคอมเมิร์ซ และอนาคต Meta – Commerce ในไทย

     โดยหากมองภาพรวมมูลค่าอีคอมเมิร์ซตลาดโลกในปี 2573 หรืออีก 8 ปีข้างหน้าไว้ว่าน่าจะแตะสูงถึง 13 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ และหากคิดเป็นเฉพาะ Meta - Commerce น่าจะอยู่ที่ 6.7 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ  

     สำหรับมูลค่าตลาดอีคอมเมิร์ซไทยทั้งรายย่อยและรายใหญ่พบว่าในปี 2565 นี้ตัวเลขโดยประมาณการน่าจะสูงถึง 8.17 แสนล้านบาท และในอีก 3 ปีข้างหน้าหรือปี 2568 น่าจะเติบโตสูงขึ้นถึง 4  ล้านล้านบาท เรียกว่าเติบโตกว่า 75 เปอร์เซ็นต์ทีเดียว เหตุผลเนื่องมาจากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป มีความคุ้นเคยกับการซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น ขณะที่ธุรกิจต่างๆ ก็หันมาทำการค้าผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้นด้วย

     หากแบ่งตามประเภทธุรกิจ พบว่าธุรกิจที่มีมูลค่าเติบโตสูงที่สุด ได้แก่ อันดับที่ 1 ประเภทธุรกิจ e-Commerce / Shopping Online โดยคาดการณ์การเติบโตกว่า 128.5 % ในปี 2568 โดยมีมูลค่าสูงถึง 120,000 ล้านบาท อันดับที่ 2 ได้แก่ ประเภทธุรกิจการท่องเที่ยวออนไลน์ โดยคาดการณ์การเติบโตกว่า 29.91 % โดยมีมูลค่าสูงถึง 29,000 ล้านบาท ในปี 2568 และอันดับที่ 3 ประเภทธุรกิจการขนส่งและบริการส่งอาหาร โดยคาดการณ์การเติบโตกว่า 22.37 % โดยมีมูลค่าสูงถึง 18,000 ล้านบาท ในปี 2568

     โดย ณ ปัจจุบันนี้หากมองความพร้อมของประชากรชาวไทยที่มีต่อโลก Metaverse น่าจะอยู่ที่ราว 10 - 15 เปอร์เซ็นต์ โดยมองว่าจะเริ่มฉายภาพการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนขึ้น เช่น การใช้แว่น VR ให้เห็นได้ใน 5 – 10  ปีต่อจากนี้ โดยเริ่มกรุงเทพฯ และหัวเมืองใหญ่ๆ ก่อน

     ซึ่งแม้วันนี้ Meta – Commerce อาจเป็นสิ่งที่หลายคนยังไม่คุ้นเคยสักเท่าไหร่ และมองภาพไม่ออก แต่ต่อไปในอนาคตก็จะกลายเป็นเรื่องธรรมดาเรื่องหนึ่งเหมือนกับที่เราทำการค้าขายกันบนโลกออนไลน์ในปัจจุบันนี้ก็ได้

     “การพูดถึง Meta - Commerce ในวันนี้ ก็เหมือนกับว่าเราพูด E-Commerce เมื่อ 12 ปีที่แล้ว ตอนนั้นคนก็ไม่อยากฟัง เพราะเข้าใจยาก และไม่เชื่อว่าจะใช้ได้จริงเหรอ แต่พอมาถึงทุกวันนี้ทุกอย่างก็กลายเป็นเรื่องปกติ ซึ่งการที่เราเริ่มพูดถึง Meta - Commerce เพราะเรารู้ดีว่าอีกไม่เกินสิบปีข้างหน้านี้ ก็จะกลายเป็นเรื่องธรรมดาที่ทุกคนต้องใช้เหมือนกับโทรศัพท์มือถือ ซึ่งต่อไปเทคโนโลยีจะถูกลงจนทุกคนสามารถใช้ได้ และเมื่อถึงวันนั้นรูปแบบการค้าบน Meta – Commerce จะกลายเป็นเครื่องมือสำคัญให้ SME หรือผู้ประกอบการรายเล็กๆ สามารถทำการแข่งขันกับรายใหญ่ได้อย่างเท่าเทียมในการจูงใจ เพื่อให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงและมีประสบการณ์ร่วมกับสินค้านั้นๆ ได้มากขึ้น ก่อนทำการตัดสินใจซื้อ”

     สำหรับผู้ประกอบการธุรกิจที่ยังไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นจับจุดจากตรงไหนดี นายกสมาคมฯ แนะนำว่าอยากให้เริ่มต้นจากการทดลองเป็นผู้ใช้งานก่อน เพื่อศึกษาและทำความเข้าใจ จนวันหนึ่งเมื่อมีโอกาสเหมาะเข้ามาจะได้นำมาใช้พัฒนาธุรกิจต่อไป

     “ยังไม่จำเป็นที่เราต้องเริ่มลงทุนทำเลยในวันนี้ ขอแค่ได้ลองเข้าไปเล่น ไปเรียนรู้และใช้ให้เป็นก่อน AR เป็นยังไง VR เป็นยังไง เพราะคุณไม่มีทางที่จะรู้ได้ว่าต้องทำยังไง จนกว่าจะได้ลองเป็นลูกค้าเอง หรือผู้ใช้งานจริงก่อน เหมือนตอนยุคแรกของอีคอมเมิร์ซ เราก็ต้องลองเข้าไปซื้อขายจริงก่อน ถึงค่อยมาเป็นผู้ขายเต็มตัว”

 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

 

RECCOMMEND: MARKETING

มิติใหม่แห่งการย้อมสีผม ใช้ “ใบตอง” แทนฟอยล์ ลดต้นทุน ลดโลกร้อนง่ายๆ แบบ 2 in 1  

ปกติเวลาที่พูดถึงใบตองสด ภาพแรกๆ ที่เด้งขึ้นมาในหัวของเรา ไม่ใช้ห่อขนมไทย ก็คงนึกถึงเทศกาลลอยกระทง แต่วันนี้น้องใบกล้วยสีเขียวคุ้นตานั้นมาในลุคที่เดิร์นกว่าคือ “ใช้ห่อผมเวลาทำสี” แทนฟอยล์กันแล้ว

เคสยาดม ชวนหิว ไอเดียทำเงิน จากไอเทมฮิต ว้าว! จนอยากหยิบมาใช้

พบไอเดียสุดเก๋ “เคสยาดม ฉบับคนหิว” ที่นำเอาเมนูสรีทฟู้ดแบบไทยๆ รวมถึงอาหารฟาสฟู้ดมาปั้นด้วยดินไทย ทำเป็นเมนูต่างๆ อาทิ ผัดไท, ส้มตำ, ก๋วยเตี๋ยว, มาม่า ต้มยำกุ้ง, แฮมเบอร์เกอร์, ถังไก่ KFC

รู้จัก FOMO Marketing กลยุทธ์ปลุกความกลัวพลาด ที่ช่วยเร่งยอดขายโต

ลูกค้าไม่ได้ซื้อเพราะอยากได้เสมอไป แต่ซื้อเพราะ ‘กลัวพลาด’ รู้จัก FOMO Marketing กลยุทธ์ต้นทุนต่ำที่ช่วยให้ SME ปิดการขายได้ไวขึ้น