ธุรกิจอาหาร-เครื่องดื่ม ปรับตัวคว้าโอกาสอย่างไร เมื่อเทรนด์ความยั่งยืนมาแรง

 

     อาหารและเครื่องดื่ม เป็นหนึ่งในธุรกิจที่มักถูกกล่าวหาว่าเป็นตัวการหลักทำให้เกิดก๊าซเรือนกระจก ทำลายสิ่งแวดล้อมและทำให้เกิดภาวะโลกร้อน มักสวนกระแสกับเทรนด์ผู้บริโภคหันมาให้ความใส่ใจกับความยั่งยืนมากขึ้น

     เอสเอ็มอีจะเปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาสทองทางธุรกิจเพื่อตอบรับเทรนด์นี้อย่างไร ลองไปฟังผู้เชี่ยวชาญในแวดวงธุรกิจชี้ทางออก เพราะถ้าหากไม่ปรับตัวอาจถูก Disrupt จากสินค้านวัตกรรมใหม่

เทรนด์การบริโภคเปลี่ยน ภาคธุรกิจต้องปรับ

     โควิด-19 คือจุดเปลี่ยนสำคัญที่สร้างผลกระทบต่อเศรษฐกิจ สังคม และวิถีชีวิตของผู้คนทั่วโลกในหลากหลายมิติ รวมทั้งยังส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจต่างๆ รวมทั้งธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทั้งในเรื่องห่วงโซ่การผลิต ความต้องการและพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป

     สำหรับเทรนด์ในธุรกิจที่ต้องจับตามองและกำลังมาแรงคือ การหันมาให้ความสำคัญกับการบริโภคอาหารและเครื่องดื่ม-ที่ปลอดภัย-ดีต่อสุขภาพ-ดูแลสิ่งแวดล้อมและ-รับผิดชอบต่อสังคม-เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตามแนวทางการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน (ESG) ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีอาหารและเครื่องดื่ม ต้องเร่งปรับกลยุทธ์เพื่อคว้าโอกาสก่อนสาย

     โชติกา ชุ่มมี ผู้จัดการกลุ่มธุรกิจสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมการผลิต SCB EIC ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวในงานสัมมนา “SME OF THE FUTURE อนาคต SMEs ไทยไปต่ออย่างไรดี” ว่า ปัจจุบันพฤติกรรมผู้บริโภคทั่วโลกเปลี่ยนไปหันมาให้ความสำคัญกับอาหารและเครื่องดื่มที่ปลอดภัย ดีต่อสุขภาพ

     ดังนั้นผู้ประกอบการก็จำเป็นต้องผลิตสินค้าที่ตอบโจทย์เทรนด์ดังกล่าวข้างต้น พร้อม ๆ ไปกับการตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคเฉพาะกลุ่ม (Niche Market) ซึ่งมีความต้องการที่หลากหลายและเฉพาะเจาะจงแตกต่างจากสินค้าทั่วไปในตลาด (Mass Market) รวมไปถึงการเจาะตลาดสินค้าอาหารและเครื่องดื่มระดับบน (Premium Market) ซึ่งเป็นตลาดที่มีแนวโน้มเติบโตดี เนื่องจากตอบโจทย์ผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อสูงและได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจค่อนข้างน้อย

ถ้าไม่ปรับตัวอาจถูก Disrupt จากสินค้านวัตกรรมใหม่

     ปฏิเสธไม่ได้ว่าตอนนี้ทั่วโลกกำลังให้ความสำคัญกับความยั่งยืน (ESG) หรือการดำเนินธุรกิจที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม รับผิดชอบต่อสังคม และมีความโปร่งใสตรวจสอบได้ โดยธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม มักถูกกล่าวหามาตลอดว่าเป็นตัวการหลักทำให้เกิดก๊าซเรือนกระจก ทำลายสิ่งแวดล้อมและทำให้เกิดภาวะโลกร้อน

     ดังนั้นกระบวนการผลิตสินค้าจะต้องมีความโปร่งใส สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ (Food Journey) เช่น ผลิตภัณฑ์อาหารชิ้นนั้นผลิตมาจากฟาร์มไหน ผลิตเมื่อไร เกษตรกรผู้เพาะปลูกเป็นใคร และขนส่งมาอย่างไร เป็นต้น

     “ผู้ประกอบการต้องปรับตัวเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือและสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภค ยิ่งไปกว่านั้นยังจำเป็นต้องเตรียมความพร้อมที่อาจจะถูก Disrupt จากสินค้านวัตกรรมใหม่ ๆ ในตลาด เช่น เนื้อสัตว์เทียม (Lab-grown meat) หรือสินค้าที่เป็นโปรตีนจากพืช (Plant-based) ที่ปัจจุบันเริ่มเข้ามาตีตลาดมากขึ้นแล้ว”

Healthy Food ทางเลือกใหม่

     นอกจากการสร้างความเชื่อมั่นแล้ว ผู้จัดการกลุ่มธุรกิจสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมการผลิต SCB EIC ยังมองว่า ในแง่ของผู้บริโภคนั้นมีสองกลุ่มที่มีความน่าสนใจ คือ ผู้บริโภคในกลุ่ม Gen Z และ กลุ่มผู้สูงวัย หรือ Aging  Population

     กลุ่ม Gen Z จัดเป็นกลุ่มที่มีรายได้และกำลังซื้อสูง อีกทั้งให้ความสนใจกับสินค้าสุขภาพ ปรุงแต่งน้อย แบรนด์ที่มีความรับผิดชอบต่อสังคม และยังต้องการสินค้าที่แตกต่างจากสินค้าทั่วไป อยากทดลองสินค้าใหม่ๆ เช่น โปรตีนจากพืช (Plant-based protein) เนื่องจากผู้บริโภคกลุ่มนี้มีแนวโน้มกินเนื้อสัตว์น้อยลง ขณะเดียวกันสินค้าและบรรจุภัณฑ์ต้องสวยงามน่าสนใจเพราะคนกลุ่มนี้มักจะถ่ายรูปสินค้าลงในโซเซียลมีเดีย

     ส่วนกลุ่มผู้สูงอายุ ถือเป็นอีกกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง และใส่ใจสุขภาพ ขณะเดียวกันยังมีความจงรักภักดีต่อแบรนด์สูง (Brand Loyalty) โดยสินค้าสำหรับผู้สูงอายุจะต้องมีขนาดบรรจุเล็กกว่าคนปกติ เพราะเริ่มบริโภคน้อยลง เนื้อสัมผัสอาหารต้องอ่อนนุ่มเคี้ยวกลืนง่าย เพิ่มสารอาหาร วัตถุดิบและส่วนผสมที่เป็นประโยชน์และเหมาะสมกับสุขภาพผู้สูงอายุ ขณะเดียวกันบรรจุภัณฑ์ก็ต้องเปิดได้สะดวกอีกด้วย

พัฒนาสินค้าให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการ

     ปัจจุบันได้มีผู้ประกอบการที่ผลิตอาหารทางเลือกเกิดขึ้นมากมาย หนึ่งในนั้นคือ แบรนด์ Plantae โปรตีนจากพืชทดแทนเนื้อสัตว์ มิตรดนัย สถาวรมณี Co-Founder แบรนด์ Plantae เล่าถึงที่มาว่าเกิดจากความต้องการจะดำเนินธุรกิจอาหารที่เป็นเทรนด์อนาคต จากการคาดการณ์กันว่าในอีก 50 ปีโลกจะเผชิญกับภาวะขาดแคลนอาหาร จากจำนวนประชากรที่เพิ่มมากขึ้น ขณะที่ปัญหาที่เกิดขึ้นคือภาคการเกษตรในปัจจุบันปลูกพืชเพื่อใช้เป็นทั้งอาหารมนุษย์ และอาหารสัตว์ ดังนั้นหากมนุษย์สามารถลดการกินเนื้อสัตว์ลง แล้วมาทดแทนด้วยการกินโปรตีนจากพืชโดยตรง ก็จะลดการนำพืชไปผลิตอาหารสัตว์ ลดการขาดแคลนอาหารจากพืชของมนุษย์ในระยะยาว

     “อยากจะฝากถึงผู้ประกอบการที่คิดเริ่มต้นธุรกิจ ในมุมมองผมการเลือกสินค้าที่ใช่เป็นสิ่งที่มาก่อน ธุรกิจอาจไม่จำเป็นต้องใหญ่มาก ลองถอยมาทำอะไรที่มันง่าย ถ้าบริษัทคุณเคยใหญ่ระดับหมื่นล้านบาท ถามว่าจะทำอีกหมื่นล้านบาทมันยากนะ ต้องออกมาตั้งเรือใหม่แบบสตาร์ทอัพจริงๆ แล้วจับกลุ่มเป้าหมายให้ชัด พอสินค้าเริ่มขายได้ ค่อยเริ่มมาคิดต่อยอดว่าจะนำเทคโนโลยีอะไรทำใช้ให้เกิดประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจ ทำให้ธุรกิจใหญ่ขึ้นตามมา” มิตรดนัย กล่าว

เทคโนโลยีและกฎระเบียบการค้าโลก แต้มต่อที่ไม่ควรมองข้าม                                                                           

      โชติกา ให้ความเห็นเพิ่มว่า นอกจากการปรับแผนธุรกิจและกลยุทธ์การเติบโตเพื่อตอบโจทย์เทรนด์ในตลาดโลกที่กำลังเปลี่ยนแปลงไปแล้วนั้น ผู้ประกอบการยังจำเป็นต้องเพิ่มศักยภาพการแข่งขันด้วยการนำเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่ทันสมัยเข้ามาประยุกต์ใช้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุนการผลิต และลดความเสี่ยงจากปัญหาขาดแคลนแรงงานในอนาคตท่ามกลางการก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างสมบูณ์

     อีกทั้งยังต้องให้ความสำคัญกับเรื่องกฎระเบียบทางการค้าระหว่างประเทศและข้อกีดกันทางการค้าต่าง ๆ โดยเฉพาะมาตรการกีดกันทางการค้าที่มิใช่ภาษี (Non-Tariff Barriers: NTBs) เช่น การทำประมงผิดกฎหมาย (IUU Fishing) การค้ามนุษย์ (TIP Report) มาตรฐานการส่งออกผัก-ผลไม้ ทั้งในส่วนของ GAP (การผลิตทางการเกษตรที่ดีและเหมาะสม) และ GMP (หลักเกณฑ์วิธีการที่ดีในการผลิตอาหาร) ซึ่งล้วนเป็นประเด็นที่ผู้ประกอบการในธุรกิจนี้จำเป็นต้องให้ความสำคัญอย่างต่อเนื่อง

 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: MARKETING

วิกฤตสูงวัย เด็กเกิดใหม่น้อย กรณีศึกษาธุรกิจญี่ปุ่น ปรับตัวผลิตสินค้าผู้ใหญ่แทนสินค้าเด็ก

Oji Holdings ผู้ผลิตผ้าอ้อมในญี่ปุ่นประกาศยุติผลิตผ้าอ้อมเด็ก หันไปเพิ่มปริมาณการผลิตผ้าอ้อมผู้ใหญ่แทน สาเหตุมาจากอัตราการเกิดที่ลดลงและจำนวนประชากรสูงวัยของญี่ปุ่นที่เพิ่มสูงขึ้น

โอกาสโกอินเตอร์ของแบรนด์ไทย ทำงานกับนักธุรกิจระดับโลก งาน Gifts & Premium Fair ฮ่องกง

ฮ่องกงขึ้นชื่อว่าเป็นดินแดนที่มีการจัดงานแสดงสินค้าที่ยิ่งใหญ่ของโลกแห่งหนึ่ง และหนึ่งในนั้นคืองานแสดงสินค้าของขวัญและของพรีเมียมภายใต้ชื่อ Hong Kong Gifts & Premium Fair ซึ่งกำลังจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 27-30 เมษายน 2024