การเปิดตัวโครงการอสังหาริมทรัพย์ใหม่ กรกฎาคม'58


 




 
เรื่อง  ดร.โสภณ พรโชคชัย
    ประธานกรรมการบริหาร ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย
    บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส

 
    ในเดือนกรกฎาคม อสังหาริมทรัพย์ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลมีการเปิดตัวลดลง โดยในเดือนนี้ มีจำนวนโครงการเปิดขายใหม่ทั้งหมด 20 โครงการ ลดลงจากเดือนมิถุนายน 2558 จำนวน 17 โครงการ อีกทั้งยังมีจำนวนหน่วยขาย มูลค่า และราคาขายเฉลี่ยต่อหน่วยก็ลดลงด้วย ซึ่งลักษณะการพัฒนาเป็นการพัฒนาในกลุ่มที่อยู่อาศัยทั้ง 20 โครงการ มีจำนวนหน่วยขายรวม 5,914 หน่วย และมีมูลค่าการพัฒนาโครงการรวม 18,333 ล้านบาท

    สำหรับหน่วยเปิดขายใหม่มากที่สุดในเดือนกรกฎาคมนี้ ยังคงเป็นอาคารชุด โดยมีจำนวนหน่วยเปิดขาย 3,859 หน่วย (65.3%) รองลงมาคือ ทาวน์เฮ้าส์ 1,088 หน่วย (18.4%) ส่วนอันดับ 3 คือ บ้านเดี่ยว 681 หน่วย (11%) ของจำนวนหน่วยขายที่เปิดขายใหม่ทั้งหมด

         ทำเลที่มีการเปิดขายใหม่ส่วนใหญ่ สำหรับอาคารชุดจะตั้งอยู่ในบริเวณเขตใจกลางย่านธุรกิจ (CBD)  และตามแนวรถไฟฟ้าที่กำลังจะเปิดใช้บริการในอนาคต เช่น รถไฟฟ้าสายสีเขียว (แบริ่ง-สมุทรปราการ) และ สายสีชมพู (แจ้งวัฒนะ-รามอินทรา) เป็นต้น ส่วนทาวน์เฮ้าส์จะมีการเปิดขายกระจายอยู่ทั้งบริเวณเขตรอบนอก เขตเมืองชั้นกลาง และเขตเมืองชั้นใน เช่น ย่านนวนคร ถนนพัฒนาการ ถนนราชพฤกษ์ ถนนกรุงเทพกรีฑา ถนนสุขุมวิท เป็นต้น ส่วนบ้านเดี่ยว จะเปิดขายบริเวณพื้นที่เขตเมืองชั้นกลาง และพื้นที่รอบนอก เช่น ถนนสุวินทวงศ์ ถนนรามอินทรา ถนนนครอินทร์ เป็นต้น

         เมื่อพิจารณาราคาขายเฉลี่ยต่อยูนิต พบว่ามีราคาขายเฉลี่ยต่อหน่วยลดลง (ประมาณ -8%) เนื่องจากการพัฒนาในเดือนนี้มีจำนวนหน่วยขายที่มีราคาขายต่ำกว่า 3 ล้านบาทมากถึง 79% จึงทำให้ราคาขายเฉลี่ยต่อหน่วยโดยรวมของเดือนนี้ลดลง เมื่อเปรียบเทียบกับราคาขายเฉลี่ยของเดือนก่อน ซึ่งราคาขายเฉลี่ยต่อหน่วยของเดือนนี้มีราคาเฉลี่ยที่ประมาณ 3.100 ล้านบาท แต่เดือนที่ผ่านมามีราคาขายเฉลี่ยที่ 3.378 ล้านบาท ซึ่งแสดงถึงแนวโน้มการพัฒนาที่อยู่อาศัยที่เน้นสำหรับผู้มีรายได้ปานกลางค่อนข้างถูกเพิ่มมากขึ้น

         เมื่อพิจารณาอัตราการขายได้ จะพบว่าในเดือนแรกของการเปิดขายมีอัตราการขายได้เฉลี่ยที่ 24% ซึ่งลดลงจากเดือนที่ผ่านมาที่มีอัตราการขายได้ที่ 40% ต่อเดือน โดยประเภทอสังหาริมทรัพย์ที่มีอัตราการได้สูงสุดอันดับ 1 คือ อาคารชุดระดับราคา 3-5 ล้านบาท จำนวน 48 หน่วย ขายได้แล้ว 48 หน่วย (100%) รองลงคือ อาคารชุดระดับราคา 1-2 ล้านบาท จำนวน 108 หน่วย ขายได้แล้ว 75 หน่วย (69%) และอันดับ 3 คืออาคารชุดระดับราคา 3-5 ล้านบาท จำนวน 321 หน่วย ขายได้แล้ว 119 หน่วย (37%) 

         ผู้ประกอบการที่เปิดตัวโครงการใหม่ในเดือนนี้ จะพบว่าเป็นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ (มหาชน) จำนวน 7 บริษัท คือ บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) บริษัท ไรมอน แลนด์ เอกมัย จำกัด (มหาชน) บริษัท บางกอกแลนด์ จำกัด (มหาชน) บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์  จำกัด (มหาชน) บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) บริษัท เอเวอร์แลนด์ จำกัด (มหาชน) และมีบริษัทในเครือบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ 2 บริษัท นอกจากนี้ก็ยังมีบริษัททั่วไปอีกจำนวนหนึ่ง หากเปรียบเทียบการพัฒนาระหว่างบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ บริษัทในเครือ และบริษัททั่วไป

         ในเดือนกรกฎาคมนี้มีโครงการที่เปิดตัวใหม่และตั้งอยู่ในเขตกรุงเทพชั้นในจำนวน 3 โครงการ ตั้งอยู่ในเขตเมืองชั้นกลางและส่วนต่อขยายของเมือง (intermediate area) จำนวน 16 โครงการ เช่น ถนนแจ้งวัฒนะ ถนนรามอินทรา ถนนกรุงเทพกรีฑา ถนนพัฒนาการ ถนนนครินทร์  ถนนราชพฤกษ์ เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีอีก 1 โครงการที่อยู่ในพื้นที่รอบนอกซึ่งใกล้แหล่งงาน และชุมชนที่อยู่อาศัยในย่านนั้น เช่น ย่านนวนคร เป็นต้น 

         อย่างไรก็ตามในเดือนกรกฎาคมนี้ทาง REI ได้พบโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่รอเปิดขายใหม่ในอนาคตอีก 342 โครงการตามตารางที่ 3 โดยได้แสดงชื่อโครงการ และที่ตั้งโดยสังเขปไว้ ซึ่งความคืบหน้าจะได้นำเสนอต่อไป จะสังเกตได้ว่ามีโครงการหลายแห่งที่ได้ประกาศตัวหรือเปิดตัวทางหน้าหนังสือพิมพ์ อย่างไรก็ตามในการเปิดขายจริง (ที่มีโบรชัวร์และสำนักงานขายที่พร้อมต้อนรับผู้สนใจซื้อไปเยี่ยมชม) ยังไม่มี จึงถือเป็นโครงการที่ยังไม่เปิดตัวและเมื่อเปิดตัวจริงแล้ว จะได้ดำเนินการสำรวจต่อไป


SME Thailand : เพื่อนคู่คิด ธุรกิจเอสเอ็มอี
ติดตามข้อมูลดีเพื่อชาว SMEs ได้ที่ www.smethailandclub.com

RECCOMMEND: MARKETING

วิกฤตสูงวัย เด็กเกิดใหม่น้อย กรณีศึกษาธุรกิจญี่ปุ่น ปรับตัวผลิตสินค้าผู้ใหญ่แทนสินค้าเด็ก

Oji Holdings ผู้ผลิตผ้าอ้อมในญี่ปุ่นประกาศยุติผลิตผ้าอ้อมเด็ก หันไปเพิ่มปริมาณการผลิตผ้าอ้อมผู้ใหญ่แทน สาเหตุมาจากอัตราการเกิดที่ลดลงและจำนวนประชากรสูงวัยของญี่ปุ่นที่เพิ่มสูงขึ้น

โอกาสโกอินเตอร์ของแบรนด์ไทย ทำงานกับนักธุรกิจระดับโลก งาน Gifts & Premium Fair ฮ่องกง

ฮ่องกงขึ้นชื่อว่าเป็นดินแดนที่มีการจัดงานแสดงสินค้าที่ยิ่งใหญ่ของโลกแห่งหนึ่ง และหนึ่งในนั้นคืองานแสดงสินค้าของขวัญและของพรีเมียมภายใต้ชื่อ Hong Kong Gifts & Premium Fair ซึ่งกำลังจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 27-30 เมษายน 2024