แกะสูตรสำเร็จจากเพลงดัง กับ 4 วิธีทำธุรกิจให้ปัง! ตามรอย “ทรงอย่างแบด”

TEXT : Sir.nim

Main Idea

• ชวนมาดูหลักการปั้นธุรกิจให้ดังสไตล์ทรงอย่างแบด เพลงร็อกชื่อดังที่มีคำร้องและทำนองติดหู จนกลายเป็นที่โด่งดังในหมู่วัยรุ่นฟันน้ำนม อย่างเด็กอนุบาล และเด็กประถมขึ้นมาได้

• โดยถอดออกมาเป็น 4 สูตรสำเร็จแบบง่ายๆ ที่จะช่วยให้ธุรกิจปังได้แบบข้ามคืน

     “ทรงอย่างแบด แซดอย่างบ่อย เธอไม่อินกับผู้ชาย bad boy…ทรงอย่างแบด แซดอย่างบ่อย เธอไม่รักฉันก็คงต้องปล่อย…โธ่พ่อหนุ่ม bad boy bad boy…ทรงอย่างแบด แซดอย่างบ่อย ปล่อยเธอไปกับไอ้หนุ่ม good boy”

      “ทรงอย่างแบด” (Bad Boy) เพลงดังจากวง Paper Planes ที่ได้รับการขนานนามให้เป็นเพลงชาติอนุบาล จากเพลงร็อกสุดมัน กลับกลายเป็นเพลงฮิตในหมู่เด็กอนุบาลและประถม วันนี้จึงชวนมาปั้นธุรกิจให้ดัง ในสไตล์ทรงยังแบดกัน โดยเหล่าแฟนคลับของเพลง ก็เปรียบเหมือนเป็นผู้บริโภคนั่นเอง

สูตรสำเร็จ 1 : เนื้อหาจำง่าย ใช้คำคล้องจอง

     ปัจจัยแรกที่มีการวิเคราะห์กันว่าทำไมเพลงดังกล่าวจึงเป็นที่จดจำแก่เด็กเล็กๆ ให้ร้องตามได้ง่าย คือ การใช้คำที่ง่าย และคำคล้องจอง รวมถึงมีการตอกย้ำใส่ชื่อเพลงลงไปในประโยคท่อนฮุคอยู่บ่อยๆ เช่นคำว่า “ทรงอย่างแบด” หรือ “Bad Boy”

สูตรสำเร็จ 2 :  จุดกระแสบนช่องทางที่คนนิยมดูเยอะๆ

     เพลงทรงอย่างแบด (Bad Boy) มีการอัพขึ้น YouTube อย่างเป็นทางการครั้งแรกเมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2565 และเพลงดังกล่าวมีการนำมาพูดถึงบนโซเชียลมีเดียจนเกิดเป็นกระแสเล็กขึ้นมา โดยเฉพาะ TikTok ที่เป็นเหมือนการจุดพลุให้เพลงดังในหมู่เด็กนักเรียนขึ้นมา เพราะเป็นสื่อที่เข้าถึงได้ง่ายทุกเพศทุกวัย และด้วยระบบของ TikTok ที่หากอะไรดัง หรือได้รับความนิยม ก็จะเด้งขึ้นมาหน้าฟีดให้เห็นกันบ่อยๆ จึงไม่แปลกว่าทำไมเพลงทรงอย่างแบดถึงถูกนำมาร้องตามกันมากมาย

สูตรสำเร็จ 3 :  สร้างอารมณ์ร่วม ขายความสนุก

     จะเห็นได้ว่า ในเพลงทรงอย่างแบด จะมีท่อนฮุคมันๆ ให้เด็กๆ ได้ตะโกนร้องปล่อยพลังกันแบบสะใจ เช่นช่วงที่ร้องคำว่า “bad boy..bad boy” ซึ่งเมื่อเกิดความรู้สึกสนุกแล้ว ก็ทำให้รู้สึกอยากมีส่วนร่วม อยากแชร์ต่อๆ กันให้คนอื่นได้รับรู้บ้าง จึงไม่แปลกว่าทำไมภายในระยะเวลาเพียงแค่ 2 เดือนกว่าๆ ยอดวิวในการรับชมเพลงทรงอย่างแบดผ่านยูทูป จึงพุ่งสูงขึ้นมาแตะ 40 กว่าล้านวิวไปได้

สูตรสำเร็จ 4 :  ใส่ความ Contrast ลงไป

     อย่างที่รู้เพลงทรงอย่างแบด แม้จะเป็นเพลงร็อก ดุดัน แต่กลับมีแฟนคลับเป็นเด็กตัวเล็กๆ อยู่ทั่วประเทศ นั่นคือภาพความแตกต่างที่ไม่น่าจะมาอยู่รวมกันได้ แต่เมื่อมาอยู่รวมกันทำให้เกิดภาพน่ารัก สร้างความประทับใจแก่ผู้พบเห็น จนเกิดการแชร์ต่อๆ กันมาจนเกิดเป็นไวรัลได้

บทสรุป

     นอกจากการเป็นเคสตัวอย่างปรากฏการณ์แปลกใหม่ให้เราได้เห็นกันแล้ว ข้อคิดอีกอย่างที่ได้เรียนรู้จากกระแสเพลงทรงอย่างแบด ก็คือ ไม่ว่าการทำเพลง หรือทำธุรกิจก็ตาม เราอาจพุ่งเป้าไปยังเป้าหมายกลุ่มหนึ่ง แต่จริงๆ แล้วเพลงหรือสินค้าของเราอาจได้รับความสนใจจากกลุ่มเป้าหมายหรือลูกค้ากลุ่มอื่นๆ โดยที่เราไม่ได้คาดคิดมาก่อนก็ได้

     สิ่งสำคัญ คือ การรับมือที่ดี และไม่ปฏิเสธลูกค้าที่เข้ามา แต่ทำอย่างไรจึงจะรักษาสมดุลจากตัวตนที่มีอยู่ไม่ให้เสียไป ขณะเดียวกันก็ปรับตัวให้เข้ากับสิ่งใหม่ที่เข้ามาได้ เพื่อต่อยอดให้เติบโตต่อไปข้างหน้า เพราะสุดท้ายแม้เส้นทางหรือวิธีการอาจแตกต่าง แต่ผลลัพธ์ที่ได้ก็ออกมาเหมือนกัน ซึ่งก็คือ การทำให้เพลงหรือแบรนด์เป็นที่รู้จักขึ้นมาได้ เหมือนกับที่ก็คงไม่มีใครคาดคิดมาก่อนว่าเพลงร็อกทรงอย่างแบดจะโด่งดังเป็นที่รู้จักในกลุ่มวัยรุ่นฟันน้ำนม เด็กอนุบาล เด็กประถมขึ้นมาได้

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี