อัพเดตการตลาด 4P ยุคใหม่ ที่ธุรกิจ SME ต้องรู้ เมื่อพฤติกรรมซื้อของผู้บริโภคเปลี่ยนไป

TEXT: Momiin

Main Idea

  • หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไป ทำให้นักการตลาดต้องปรับเปลี่ยนวิธีการทำการตลาดเพื่อเข้าถึงผู้บริโภคด้วย

 

  • วันนี้เราเลยจะพาเพื่อนๆ ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีมารู้จัก 4P ด้านการตลาดที่เปลี่ยนแปลงไปกับพฤติกรรมผู้บริโภคหลังโควิด-19 ว่าจะเปลี่ยนไปอย่างไรบ้าง

 

  • จากอาจารย์ วีรพล สวรรค์พิทักษ์ CMO บริษัท La Nature จำกัด CMO บริษัท อีมิแน้นท์แอร์ ประเทศไทย จำกัด

 

4P ด้านการตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป

P- Product เลือกสินค้าด้วยคุณค่า

     เมื่อก่อนเวลาที่เลือกซื้อสินค้าสักอย่างหนึ่ง ต้องคิดเยอะ ว่าจะซื้ออันไหนดี แล้วมันจะคุ้มไหม แต่ปัจจุบันการซื้อของลูกค้าจะตัดสินใจเลือกเรื่องคุณค่าเป็นสำคัญ

  • สินค้าที่เป็น Unsought หรือสินค้าที่ไม่คิดว่าจะซื้อ เช่น เครื่องปล่อยประจุที่ฆ่าเชื้อโรคได้ ถ้าเป็นเมื่อก่อน ไม่มีทางซื้อมาใช้แน่นอน แต่หลังจากเกิดโควิด-19 และฝุ่น 25 ก็ต้องซื้อเครื่องนี้มาใช้ หรือวิตามินอาหาเสริมที่หลังจากโควิด-19 ยอดโตมาก และอาจเป็นสินค้าที่ไม่คิดว่าจะขายได้ แต่พอหลังโควิดมาก็กลับเป็นขายได้ เพราะฉะนั้นอย่ากลัวว่าเราจะขายสินค้าอะไร เพราะหลังโควิด-19 มันมีลูกค้ากล้าทดลองสิ่งๆ ใหม่มากยิ่งขึ้น

 

  • สินค้าที่ Safe หรือบอก Status โดยเฉพาะธุรกิจอาหาร เรื่องของ Food Safety เป็นเรื่องสำคัญ ถ้าชูว่าร้านเราสะอาดมากๆ อันนี้เป็นปัจจัยที่ทำให้ลูกค้าตัดใจซื้อได้ และเรื่องของ Status ลูกค้ากินเพื่อเอาเท่ ซึ่งมันก็อร่อยประมาณหนึ่ง แต่มันได้เท่ ได้ Status ทางสังคม เช่น โอมากาเสะ เชฟเทเบิล กาแฟสเปเชียลตี้ ซึ่งภาพลักษณ์อาจจะไม่ต้องแพงอย่าเดียว อาจเป็นภาพลักษณ์เรื่อง สิ่งแวดล้อมเพื่อสังคมก็ได้ เช่น ร้านบางร้านอาจจะชูจุดเด่นในเรื่องของที่เป็นออร์แกนิค ใช้แพคเกจจิ้งรักษ์โลก เป็นต้น

 

  • สินค้าที่มีคุณค่าจะขายได้ คนในปัจจุบันไม่ได้มองว่าอาหารต้องอร่อยอย่างเดียว แต่บางทีก็ซื้อสินค้าเพราะแพ็กเกจจิ้งสวย เพราะฉะนั้นการขายสินค้าต้องมีคุณค่า หรือมีจุดเด่นบางประการ สินค้าของจึงจะขายได้
  • Digital Value คือ การทำยังไงให้สินค้าโดดเด่นในโลกดิจิทัลออนไลน์ เช่น การรีวิว เห็นคนต่อคิวรอจนอยากซื้อมาลอง

 

P-Price ราคาถูกไม่ใช่คำตอบเสมอไป

  • ราคาแพงก็สู้ แต่ขอดูกระเป๋าเงินก่อน

 

  • มีทางเลือกในการจ่ายเงินก็ดีนะ ซึ่งการทำ ​Digital Payment กลายเป็นเรื่องจำเป็นมากในปัจจุบัน

 

  • Cashless มีทุกคน

 

  • E-wallet มีหลายใบ

 

P-Place ช่องทางที่เปลี่ยนแปลงไป

  • Omni Channel ต้องเปิดร้านทั้งออนไลน์และออฟไลน์ การมีร้านออนไลน์ไว้ให้ลูกค้าค้นหาเจอ ทำให้สามารถสร้าง digital Value ได้อีกแบบหนึ่ง อย่างธุรกิจใหญ่ๆ ก็ทำ Omni Channel กันทั้งนั้น อย่างร้านกาแฟสตาร์บัคส์ ยังมาทำออนไลน์ หรืออย่างโฮมโปรที่ขายของตกแต่งร้านยังทำ Omni Channel ทำให้เขามียอดขายแบบถล่มทลาย

 

  • BOPIS (Buy Online Pick-up In Store) การซื้อสินค้าทางออนไลน์ และไปรับสินค้าเองที่หน้าร้าน ซึ่งเป็นเทรนด์ที่มากจากต่างประเทศ ซึ่งในเมื่อไทยก็ใช้มาประมาณ 2 ปี และก็ประสบความสำเร็จ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับธุรกิจร้านอาหาร อย่างร้านกาแฟสตาร์บัคส์ก็ใช้แคมเปญนี้เหมือนกัน ปรากฏว่ายอดขายก็สูงขึ้น เพราะว่ามันถูกจริตของผู้บริโภค แล้วสามารถตอบสนองผู้บริโภคได้ดีกว่า

 

  • Delivery wall เป็นช่องทางหนึ่งที่ผู้ประกอบการต้องให้ความสำคัญ

 

P-Promotion การส่งเสริมการตลาดรูปแบบใหม่

  • ต้องทำออนไลน์และออฟไลน์ควบคู่กัน เพราะบางครั้งสื่อออฟไลน์มันอาจจะไม่ตอบโจทย์มันเลยต้องใช้สื่อออนไลน์เข้าไปช่วย

 

  • เครื่องมือ+สื่อใหม่ๆ อย่างปัจจุบันสื่อ TikTok กำลังมาแรงทำให้หลายๆ ธุรกิจเข้าไปใช้สื่อนี้กันมากขึ้น เพราะสามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้จำนวนมาก และทำให้ธุรกิจโตได้ด้วย

 

     และนี่คือ 4P ด้านการตลาดที่เปลี่ยนแปลงไปในยุคหลังโควิด-19 ที่ SME ต้องรู้!

 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: MARKETING

เคสยาดม ชวนหิว ไอเดียทำเงิน จากไอเทมฮิต ว้าว! จนอยากหยิบมาใช้

พบไอเดียสุดเก๋ “เคสยาดม ฉบับคนหิว” ที่นำเอาเมนูสรีทฟู้ดแบบไทยๆ รวมถึงอาหารฟาสฟู้ดมาปั้นด้วยดินไทย ทำเป็นเมนูต่างๆ อาทิ ผัดไท, ส้มตำ, ก๋วยเตี๋ยว, มาม่า ต้มยำกุ้ง, แฮมเบอร์เกอร์, ถังไก่ KFC

รู้จัก FOMO Marketing กลยุทธ์ปลุกความกลัวพลาด ที่ช่วยเร่งยอดขายโต

ลูกค้าไม่ได้ซื้อเพราะอยากได้เสมอไป แต่ซื้อเพราะ ‘กลัวพลาด’ รู้จัก FOMO Marketing กลยุทธ์ต้นทุนต่ำที่ช่วยให้ SME ปิดการขายได้ไวขึ้น

รวมกับดักการตลาด ที่กำลัง “ฆ่า” SME แบบไม่รู้ตัว ดูวิธีรอดที่ทำได้ทันที

พาไปแกะทีละข้อ ว่าทำไม “สูตรยิงแอด” หรือ “สูตรทำคอนเทนต์” ที่เวิร์กกับคนอื่น ถึงไม่เวิร์กกับคุณ พร้อมชี้ทางออก ที่จะทำให้การสื่อสารแบรนด์กลับมา “เข้าเป้า” ได้จริง