วิธีเลือกสินค้าเข้าร้านให้ขายดีทุกวัน ด้วยหลัก 20 : 80

TEXT : กองบรรณาธิการ

Main Idea

  • การจะทำให้ยอดขายสินค้าในร้านมีรายได้ดีเข้ามาสม่ำเสมอ การเลือกสินค้าให้ถูกใจ ตรงใจกับความต้องการของผู้บริโภค ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญ นอกจากการคัดเลือกสินค้าคุณภาพดีเพียงอย่างเดียว

 

  • วันนี้เลยจะชวนมาดูวิธีการคัดเลือกสินค้าเข้ามาขายจากร้านสะดวกซื้อเจ้าใหญ่ของไทยกัน

       

     เคยนึกสงสัยไหมว่าเหตุใดสินค้าในร้านเซเว่น อีเลฟเว่น จึงดูขายดีอยู่ตลอดเวลา วันนี้เราจะชวนมาถอดกลยุทธ์ด้วยแนวคิดที่เรียกว่า 20 : 80 กัน

ขายดี 20 เปอร์เซ็นต์ แต่ทำยอดขายได้ 80 เปอร์เซ็นต์

     หากลองสังเกตดูสินค้าในร้านเซเว่นฯ ส่วนใหญ่แล้วจะขายได้เกือบหมดทุกอย่าง และมีสต็อกที่หมุนเวียนเร็วมาก เหตุที่เป็นแบบนั้นได้เพราะเซเว่นฯ ใช้หลักการเลือกสินค้า คือ 20 : 80

     โดย 20 เปอร์เซ็นต์ =  สินค้าที่ขายดีตามท้องตลาด เป็นที่รู้จัก และเป็นที่ต้องการของผู้บริโภค

     ส่วนอีก 80 เปอร์เซ็นต์ = สินค้าทั่วไปที่ผู้บริโภคจำเป็นต้องใช้ เพื่อให้มีสินค้าครบตามความต้องการ แม้จะไม่ได้ขายดีทุกตัว

     จากแนวคิดดังกล่าวทำให้แม้จะมีสินค้าขายดีเพียง 20 เปอร์เซ็นต์ แต่ก็กลับทำให้สามารถทำรายได้เข้าร้านได้มากถึง 80 เปอร์เซ็นต์ทีเดียว ขณะที่สินค้าอีก 80 เปอร์เซ็นต์ที่เหลือถึงแม้จะเป็นทำยอดขายได้เพียงแค่ 20 เปอร์เซ็นต์ ก็ไม่เป็นไร เพราะมีสินค้าที่ขายออกได้ดี และรวดเร็ว ทำรายได้ให้ธุรกิจไปแล้วเกินกว่าครึ่งหนึ่ง หรือเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ไปแล้ว นอกจากทำให้มีสินค้าหมุนเวียนเข้า-ออกตลอดเวลาแล้ว วิธีการดังกล่าวยังทำให้เซเว่นฯ ไม่ต้องแบกรับภาระสต็อกคงค้างมากเกินไปด้วยนั่นเอง

คัดเลือกให้วางได้แค่ 5 อันดับ ช่วยให้ได้สินค้าคุณภาพมาขายอยู่ตลอดเวลา

     นอกจากวิธีเลือกสินค้าเข้ามาขายแบบ 20 : 80 แล้ว เพื่อให้สามารถขายสินค้าได้ดี ขอแถมให้อีกหนึ่งเรื่องเพื่อให้มี  โดยเซเว่นฯ ยังมีทริคในการทำให้ร้านมีสินค้าคุณภาพดีเข้ามาขายอยู่ตลอดเวลาด้วย

     ยกตัวอย่างเช่น ในเชลฟ์วางสินค้าแต่ละประเภทจะมีการจัดอันดับสินค้าไว้ให้วางได้เพียงแค่ 5 อันดับ ดังนั้นหากผู้ประกอบการคนใดอยากเข้าไปขายสินค้าในเซเว่นฯ ก็จะทำให้เกิดการพัฒนาขึ้นไปโดยปริยายว่าจะต้องทำให้ดีกว่า 1-5 อันดับที่วางจำหน่ายอยู่ จึงจะมีสิทธิ์นำมาวางขายได้ วิธีการดังกล่าวจึงทำให้เซเว่นฯ ได้ผู้ประกอบการสินค้าคุณภาพเข้ามาขายอยู่ตลอดเวลานั่นเอง ซึ่งวิธีดังกล่าวผู้ประกอบการสามารถนำไปลองปรับใช้กับธุรกิจดูได้

สำรวจตลาดผ่านร้านเซเว่นฯ

     นอกจาก 2 วิธีการที่แนะนำไปแล้ว เพื่อคัดเลือกสินค้าเข้ามาขายภายในร้าน หากผู้ประกอบการอยากพัฒนาหรือผลิตสินค้าอะไรขึ้นมาสักอย่าง ลองเข้าไปเดินสำรวจดูในร้านเซเว่น อีเลฟเว่นก็ได้ว่า ณ ตอนนั้นผู้บริโภคส่วนใหญ่นิยมบริโภคสินค้าอะไร มีการพัฒนาการอะไรใหม่ๆ เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคบ้าง และเราสามารถที่จะคิดหรือพัฒนาเช่นนั้นได้หรือเปล่า หรือมีอะไรที่สามารถทำได้ดีกว่าหรือไม่

     ซึ่งหลายตัวก็เป็นการบ่งบอกถึงเทรนด์ใหม่ๆ ของผู้บริโภคที่เราไม่เคยรู้มาก่อน หรือคาดไม่ถึงว่าจะเกิดขึ้นมาได้ ยกตัวอย่างเช่น สินค้าไซส์เล็ก ที่ขายดีในเซเว่น เพราะนอกจากจะประหยัด พกพาได้สะดวกแล้ว ยังทำให้ผู้บริโภคได้ทดลองสินค้าใหม่ๆ เพื่อคัดเลือกให้เหมาะกับตัวเองได้ด้วย หรืออีกหนึ่งเทรนด์ที่น่าสนใจ เช่น สินค้าพร้อมรับประทาน อาทิ ลำไยแกะเปลือก แคะเมล็ดพร้อมรับประทาน ใครจะคิดล่ะว่าวันหนึ่งเราจะต้องการสินค้าที่สะดวก พร้อมรับประทานขนาดนี้ ถึงแม้ราคาจะสูงกว่าและได้น้อยกว่าซื้อลำไยเป็นกิโลๆ ตามตลาดข้างนอกก็ตาม แต่บางทีผู้บริโภคอาจต้องการเพียงแค่ในปริมาณที่น้อย กินแค่พอหายยาก ง่ายๆ สะดวกก็ได้

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: MARKETING

วิกฤตสูงวัย เด็กเกิดใหม่น้อย กรณีศึกษาธุรกิจญี่ปุ่น ปรับตัวผลิตสินค้าผู้ใหญ่แทนสินค้าเด็ก

Oji Holdings ผู้ผลิตผ้าอ้อมในญี่ปุ่นประกาศยุติผลิตผ้าอ้อมเด็ก หันไปเพิ่มปริมาณการผลิตผ้าอ้อมผู้ใหญ่แทน สาเหตุมาจากอัตราการเกิดที่ลดลงและจำนวนประชากรสูงวัยของญี่ปุ่นที่เพิ่มสูงขึ้น

โอกาสโกอินเตอร์ของแบรนด์ไทย ทำงานกับนักธุรกิจระดับโลก งาน Gifts & Premium Fair ฮ่องกง

ฮ่องกงขึ้นชื่อว่าเป็นดินแดนที่มีการจัดงานแสดงสินค้าที่ยิ่งใหญ่ของโลกแห่งหนึ่ง และหนึ่งในนั้นคืองานแสดงสินค้าของขวัญและของพรีเมียมภายใต้ชื่อ Hong Kong Gifts & Premium Fair ซึ่งกำลังจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 27-30 เมษายน 2024