Renault ปั้นชุมชนเป็นสถานีชาร์จรถ EV แก้ปัญหาชาร์จรถได้ทุกที่ ชาวบ้านมีรายได้เพิ่ม

TEXT : Sri.nim

 

Main Idea

  • Renault แบรนด์รถไฟฟ้าฝรั่งเศส ที่ต่อยอดการจำหน่ายรถยนต์ สู่การส่งเสริมการท่องเที่ยวชุมชน ด้วยการเปลี่ยนบ้านแต่ละหลังที่มีการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้า ให้กลายเป็นสถานีชาร์จเฉพาะกิจ

 

  • กับ 2 โปรเจกต์สร้างสรรค์ คือ 1. “Plug Inn” แอปพลิเคชั่น ค้นหาสถานที่ชาร์จไฟ และ 2. “Recharge Tourism” การโปรโมตการท่องเที่ยวผ่านการใช้พลังงาน โดยระหว่างที่ต้องรอชาร์จไฟ ลูกค้าก็สามารถไปพูดคุยกับผู้คนในชุมชน ไปกินอาหาร ขนม รวมถึงเที่ยวชมสถานที่ต่างๆ ที่ไม่เคยรู้จักได้

 

     ทุกวันนี้ ทรัพยากรโลกหร่อยหรอลงไปทุกที ขณะที่มลภาวะก็กลับเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้หลายอุตสาหกรรมต่างคิดค้นวิธีป้องกันและแก้ไข เพื่อช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมให้ดีขึ้น หนึ่งในนั้น คือ อุตสาหกรรมรถยนต์ หลายค่ายต่างหันมาผลิตรถยนต์ไฟฟ้า หรือ EV (Electric Vehicle) เพื่อเป็นทางเลือกมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันยอดขายรถ EV ทั่วโลกก็เพิ่มสูงขึ้นโดยในเฉพาะในยุโรป แต่อุปสรรคสำคัญที่ยังเป็นข้อด้อยของรถยนต์ EV ในขณะนี้ ก็คือ การเก็บพลังงานไฟฟ้าที่ยังทำได้จำกัด วิ่งเพียงไม่กี่ร้อยกิโลเมตร ก็ต้องกลับมาชาร์จไฟกันใหม่ ทำให้ต้องใช้งานอยู่ในระยะทางจำกัด

     ด้วยเหตุนี้ “Renault” หนึ่งในค่ายรถยนต์ไฟฟ้า สัญชาติฝรั่งเศส จึงได้คิดหาวิธีแก้ไขปัญหา เพื่อให้ผู้คนออกมาใช้รถ EV กันมากขึ้นอย่างไร้ข้อจำกัด

     1. โดยแทนที่จะมุ่งขายรถเพียงอย่างเดียว ก็มีการสร้าง Business Model ขึ้นมาด้วยการคอลแลปส์กับผู้ใช้รถแต่ละบ้าน ซึ่งมีที่ชาร์จของตัวเองอยู่แล้ว ด้วยการสร้างแอปพลิเคชั่นขึ้นมาชื่อว่า “Plug Inn” และเปิดให้แต่ละบ้านเข้ามาลงทะเบียน ทำให้หากมีรถ EV ขับผ่าน ก็สามารถเปิดแอปพลิเคชั่นเพื่อค้นหา และจองที่ชาร์จได้ ทำให้สามารถแก้ปัญหา ไม่ว่าอยู่ที่ไหนก็มี EV Station ให้เข้ามาชาร์จไฟได้ เจ้าของบ้านเองก็มีรายได้เพิ่มขึ้น

     2. ไม่จบเพียงเท่านี้ Renault ยังคิดต่อยอดออกไปถึงชุมชนที่อยู่ห่างไกลด้วย โดยแทนที่จะสร้างเป็นสถานีชาร์จเพียงอย่างเดียว ก็ต่อยอดโปรเจกต์ “Recharge Tourism” ขึ้นมา ด้วยการโปรโมตการท่องเที่ยวผ่านการใช้พลังงาน เพื่อให้ผู้คนได้ทำความรู้จักกับชุมชนมากขึ้น โดยระหว่างที่ต้องรอชาร์จไฟเพียงอย่างเดียว ก็ให้ลูกค้าสามารถไปพูดคุยกับผู้คนในชุมชน ไปกินอาหาร ขนม รวมถึงเที่ยวชมสถานที่ต่างๆ ที่ไม่เคยรู้จัก หรือเข้าพักโฮมสเตย์ด้วยก็ได้ จะว่าไปวิธีคิดดังกล่าวนี้ก็คล้ายกับการบริการที่พักของ Airbnb แต่เป็นเวอร์ชั่นที่ใช้พลังงานเป็นตัวเชื่อมโยงนักเดินทางกับชุมชนท้องถิ่นเข้าไว้ด้วยกันนั่นเอง

     โดยก่อนหน้าที่จะคิด 2 โปรเจกต์ขึ้นมานั้นให้เกิดการใช้งานได้จริงทั่วฝรั่งเศสนั้น ในปี 2020 Renault ได้มีทดลองสร้างหมู่บ้านใช้รถยนต์พลังไฟฟ้า 100% แห่งแรกในฝรั่งเศสขึ้นมาก่อน ด้วยการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า Renault Zoé E-Tech 100% ให้กับทุกครัวเรือนในชุมชน Appy จนในที่สุดก็ประสบความสำเร็จและพิสูจน์ให้เห็นได้ว่าการเปลี่ยนมาใช้รถยนต์ไฟฟ้านั้นสามารถเป็นจริงได้ แม้แต่ในชุมชนที่ห่างไกลที่สุดแห่งหนึ่งในฝรั่งเศสก็ยังสามารถทำได้เลย ฉะนั้นเป็นไปได้ที่ที่อื่นๆ จะทำตามได้

     ด้วยแนวคิดดังกล่าวจึงทำให้ นอกจากจะประสบความสำเร็จในธุรกิจ และยอดขายที่เพิ่มขึ้นแล้ว Renault ยังได้รับรางวัลอีกมากมาย ทั้งด้านการท่องเที่ยว และการใช้พลังงานอย่างสร้างสรรค์ โดยคาดการณ์ว่าปัจจุบัน Plug Inn สามารถเปิดใช้จุดชาร์จไฟฟ้าเพิ่มเติมได้สูงสุดถึง 475,000 จุดทีเดียว

     การปรับโมเดลธุรกิจของ Renault ไม่เพียงเป็นตัวอย่างที่ดีของการคิดเพื่อสิ่งแวดล้อมให้สำเร็จ แต่ในแง่การทำธุรกิจยังถือเป็นตัวอย่างที่ดีในนำ Pain Point ของธุรกิจมาคิดแก้ไข เปลี่ยนจุดด้อย ให้เป็นจุดเด่น ด้วยการคิดนอกกรอบ จากค่ายรถยนต์ไฟฟ้า สู่องค์กรส่งเสริมการท่องเที่ยวไปได้ งานนี้เรียกว่าแบรนด์ก็ได้ ชุมชนก็ได้ โลกก็ดีอีกด้วย

ที่มา : https://www.lbbonline.com/news/renault-turns-french-villages-into-electric-villages-with-plug-inn-app

https://activationideas.com/blog/recharge-village

https://france.publicisgroupe.com/renault-launches-plug-inna-community-of-e-charging-points-that-negates-the-fear-of-charging-and-enables-drivers-to-connect-with-communities-to-discover-more-remote-destinations/

 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: MARKETING

วิกฤตสูงวัย เด็กเกิดใหม่น้อย กรณีศึกษาธุรกิจญี่ปุ่น ปรับตัวผลิตสินค้าผู้ใหญ่แทนสินค้าเด็ก

Oji Holdings ผู้ผลิตผ้าอ้อมในญี่ปุ่นประกาศยุติผลิตผ้าอ้อมเด็ก หันไปเพิ่มปริมาณการผลิตผ้าอ้อมผู้ใหญ่แทน สาเหตุมาจากอัตราการเกิดที่ลดลงและจำนวนประชากรสูงวัยของญี่ปุ่นที่เพิ่มสูงขึ้น

โอกาสโกอินเตอร์ของแบรนด์ไทย ทำงานกับนักธุรกิจระดับโลก งาน Gifts & Premium Fair ฮ่องกง

ฮ่องกงขึ้นชื่อว่าเป็นดินแดนที่มีการจัดงานแสดงสินค้าที่ยิ่งใหญ่ของโลกแห่งหนึ่ง และหนึ่งในนั้นคืองานแสดงสินค้าของขวัญและของพรีเมียมภายใต้ชื่อ Hong Kong Gifts & Premium Fair ซึ่งกำลังจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 27-30 เมษายน 2024