“ขโมยได้ เอาไปเลย” ไอเดียแก้ปัญหาของหายร้านค้าปารีส สินค้าหายน้อยลง แต่คนรู้จักร้านมากขึ้น

TEXT : กองบรรณาธิการ

Main Idea

  • ร้านรองเท้า เครื่องกีฬากรุงปารีสเจ๋ง เปลี่ยนปัญหาโจรขโมยของ ให้กลายเป็นแคมเปญโปรโมตร้าน ชวนลูกค้ามาขโมย หากขโมยได้ ก็เอาไปเลย ถ้าวิ่งหนีทัน

 

  • ลงคลิปโปรโมต ผ่านไป 2 สัปดาห์ ยอดคนแห่ชม รู้จักร้านมากขึ้นหลายหมื่นคน

 

 

     ปัญหาโจรกรรม หรือขโมยสินค้า ดูจะกลายเป็นปัญหาใหญ่ของวงการค้าปลีกอเมริกาที่ปีๆ หนึ่งต้องสูญเสียมูลค่าของสินค้าที่ถูกขโมยไม่ต่ำกว่า 40,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หลายแบรนด์ต้องปิดทำการเร็วขึ้น บ้างก็ทยอยปิดสาขาลง เพื่อลดมูลค่าความเสียหาย

     จากปัญหาที่เกิดขึ้น ไม่เพียงทำให้หลายบริษัทต้องคิดหามาตรการป้องกันหลายรูปแบบ อาทิ ติดกุญแจล็อกสำหรับสินค้ามูลค่าสูงๆ หรือติดตั้งอุปกรณ์ไฮเทค เช่น เครื่องปล่อยหมอก/ควัน เพื่อทำลายทัศนวิสัยของหัวขโมย แต่ยังนำไปสู่การคิดไอเดียแคมเปญโฆษณาสุดเจ๋ง ที่เรียกว่าพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสได้ของแบรนด์ “Distance” ร้านขายรองเท้าและเสื้อผ้ากีฬาแห่งกรุงปารีสด้วย ประมาณว่า ไหนๆ ก็เป็นปัญหาอยู่แล้ว ก็ลองจับมาทำให้เป็นประโยชน์มันซะเลย

     โดยได้คิดแคมเปญโฆษณาที่ชื่อว่า "ROB IT TO GET IT” หรือ “ขโมยได้ ก็เอาไปเลย” ขึ้นมาเป็นระยะเวลา 1 วัน วิธีการ คือ นำป้ายเล็กๆ เขียนคำว่า "ROB IT TO GET IT" ไปติดตามรองเท้า หรือสินค้าภายในร้าน พร้อมพนักงานอธิบายให้ลูกค้าที่เข้ามาฟังว่าคุณสามารถหยิบสินค้าพวกนี้เอาไปได้ตามใจชอบเลย แต่มีข้อแม้อย่างเดียว คือ ต้องวิ่งหนี รปภ. ของร้านให้ทัน

     ฟังดูเหมือนน่าจะเป็นเรื่องกล้วยๆ แต่จุดพีคดันอยู่ที่ รปภ.คนดังกล่าวกลับไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไป แต่คือ “Méba Mickael Zeze” นักกีฬาโอลิมปิกชาวฝรั่งเศสที่เคยทำสถิติวิ่ง 100 เมตรได้ภายในเวลาไม่ถึง 10 วินาที!

     ได้ฟังครั้งแรกลูกค้าหลายคนยังคิดว่าเป็นเรื่องตลก แต่ก็อยากลองพิสูจน์ดู โดยสรุปในระยะเวลา 1 วันที่จัดแคมเปญขึ้นมา มีลูกค้าทดลองเป็นหัวขโมยหยิบสินค้าแล้ววิ่งหนีมากถึง 74 รายด้วยกัน แน่นอนว่าส่วนใหญ่ คือ ไม่ประสบความสำเร็จ เซเซ่นักวิ่งโอลิมปิกกล่าวว่า เขาใช้ความเร็วเพียง 1 ใน 3 ของความเร็วสูงสุดที่ทำได้ ก็สามารถวิ่งจับลูกค้าที่เป็นหัวขโมยหลอกได้ มีเพียงแค่ 2 รายเท่านั้นที่สามารถขโมยไปได้สำเร็จ ไม่ใช่ว่าเขาวิ่งแพ้ แต่เป็นเพราะต้องตามจับลูกค้าหลายคนพร้อมกัน และความเหนื่อยล้าที่ต้องวิ่งจับเกือบทั้งวัน

     Lionel Jagorel ผู้จัดการร้านได้เปิดเผยว่า การสูญเสียสินค้าไปเพียง 1-2 ชิ้นจากการให้ลูกค้าร่วมแคมเปญนี้ ถือว่าเป็นอะไรที่คุ้มค่ามาก เมื่อแลกกลับสิ่งที่แบรนด์ได้รับ ทั้งการเป็นไวรัลในโลกออนไลน์ ทำให้ถูกพูดถึงเป็นจำนวนมาก การที่ผู้คนได้รู้จักร้านมากขึ้น เพียงแค่ 2 สัปดาห์หลังจากแคมเปญจบลงเมื่อกลางเดือนกันยายน และมีการโพสต์คลิปวิดีโอถึงปฏิบัติการดังกล่าว ทำให้มียอดผู้เข้าชมแล้วกว่า 24,000 ครั้ง ไม่ต้องนับเลยว่า ณ ปัจจุบันจะสูงมากขึ้นเท่าไหร่

     โดยสรุปจากกรณีของร้าน Distance จึงอาจกล่าวได้ว่าบางครั้งปัญหาที่เกิดขึ้น หากเราลองพลิกมุมกลับ คิดต่อยอดไปอีกนิด จากวิกฤตก็อาจกลายเป็นการสร้างโอกาสให้กับธุรกิจได้ ซึ่งนอกจากร้านจะเป็นที่รู้จักมากขึ้นแล้ว แคมเปญดังกล่าวยังเป็นการช่วยโปรโมตคุณภาพสินค้ากร่ายๆ ด้วยว่า มีประสิทธิภาพดี จนสามารถวิ่งจับขโมยได้ ในส่วนของปัญหาโจรกรรม แม้อาจไม่ได้ช่วยแก้ไขปัญหาให้ได้ในทันที แต่ก็ช่วยสร้างความตระหนักรู้ให้กับผู้คนได้มากขึ้น หรือแม้แต่ใครที่กำลังคิดจะขโมยอยู่ อาจได้กลับใจบ้าง เพราะไม่แน่วันหนึ่งคุณอาจเจอมือปราบฝีเท้าดี ที่เป็นนักวิ่งตัวจริงคอยวิ่งไล่จับคุณอยู่แบบนี้ก็ได้!

ที่มา : https://www.businessinsider.com/paris-store-let-people-steal-if-they-could-outrun-sprinter-2023-10

https://nypost.com/2023/10/24/business/paris-store-invited-customers-to-steal-if-they-could-outrun-pro-sprinter/

 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: MARKETING

วิกฤตสูงวัย เด็กเกิดใหม่น้อย กรณีศึกษาธุรกิจญี่ปุ่น ปรับตัวผลิตสินค้าผู้ใหญ่แทนสินค้าเด็ก

Oji Holdings ผู้ผลิตผ้าอ้อมในญี่ปุ่นประกาศยุติผลิตผ้าอ้อมเด็ก หันไปเพิ่มปริมาณการผลิตผ้าอ้อมผู้ใหญ่แทน สาเหตุมาจากอัตราการเกิดที่ลดลงและจำนวนประชากรสูงวัยของญี่ปุ่นที่เพิ่มสูงขึ้น

โอกาสโกอินเตอร์ของแบรนด์ไทย ทำงานกับนักธุรกิจระดับโลก งาน Gifts & Premium Fair ฮ่องกง

ฮ่องกงขึ้นชื่อว่าเป็นดินแดนที่มีการจัดงานแสดงสินค้าที่ยิ่งใหญ่ของโลกแห่งหนึ่ง และหนึ่งในนั้นคืองานแสดงสินค้าของขวัญและของพรีเมียมภายใต้ชื่อ Hong Kong Gifts & Premium Fair ซึ่งกำลังจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 27-30 เมษายน 2024