สูตรขายอาหารเดลิเวอรีให้มีกำไร เคล็ด (ไม่) ลับ จากกูรู Wongnai

TEXT : Jay.Wannakhun

Main Idea

  • เทคนิคการทำเดลิเวอรี่ให้ประสบผลสำเร็จ ที่จะช่วยให้ธุรกิจของคุณมีกำไรมากขึ้น

 

     เมื่อสถานการณ์โรคระบาดเริ่มคลี่คลายคนโหยหาการกลับไปรับประทานอาหารนอกบ้าน ทำให้ Night Market, Food Event ตามห้างสรรพสินค้ากลับมาติดเทรนด์ สิ่งเหล่านี้จะกระทบธุรกิจอาหารเดลิเวอรีหรือไม่ และถ้าอยากจะขายอาหารเดลิเวอรีให้มีกำไรต้องทำอย่างไร ลองไปฟัง ธันย์ณภัทร สินสมบูรณ์ Head of Business Development LINE MAN Wongnai มาให้เคล็ดลับดีๆ ในงาน “โครงการสัมมนาผู้ประกอบการด้านอาหาร เพื่อนคู่คิด ธุรกิจอาหาร” ดังนี้

12 เคล็ด (ไม่) ลับ สร้างยอดขายปัง!

  • มีระบบการจัดการร้านอาหารที่ดี

     

     นอกจากการทำอาหารแล้ว ปัญหาการจัดการสต็อก การชำระเงิน ก็เป็นเรื่องจำเป็นสำหรับร้านอาหาร ฉะนั้นถ้ามีระบบการจัดการร้านอาหารที่ดี เช่น การทำบัญชีรายรับ รายจ่าย การทำบันทึกข้อมูลต่างๆ เช่น เมนูไหนที่ขายดี เมนูไหนที่ต้นทุนน้อยแต่กำไรเยอะ เมนูไหนขายดีแต่ไม่มีกำไร ซึ่งข้อมูลพวกนี้จะช่วยเรื่องการวางแผนวัตถุดิบ ลดต้นทุนสต็อกได้

     นอกจากนี้ถ้าเรามีระบบการจัดการออเดอร์แล้วรับสมาชิกไปด้วย จะทำให้จัดการลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ จะทำให้ทราบว่าลูกค้าของร้านเป็นใคร ผู้ชาย ผู้หญิง อายุเท่าไหร่ สามารถเอาข้อมูลตรงนี้ไปใช้ในการทำตลาดต่อได้ง่ายขึ้น

  • เลือกยิงแอดให้ถูกเวลา

     

     แม้ผู้คนเริ่มออกมาทานอาหารข้างนอกกันมากขึ้น แต่การสั่งอาหารออนไลน์ก็ได้กลายเป็นวิถีปกติสำหรับหลายๆ คน

     จากการสำรวจพบว่า 30 - 50% ช่วงเวลาที่คนมักจะสั่งอาหารเยอะสุดคือ ช่วงเวลา 11.00 น. กับช่วงเวลา 18:00 น. ข้อมูลตรงนี้น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับใช้วางแผนการยิงแอดโฆษณา ว่าควรจะยิงแอดช่วงเวลาไหน ถ้าในช่วง 11.00 กับ 18.00 น. ร้านคุณขายดีอยู่แล้ว ช่วงเวลานี้อาจจะไม่ต้องยิงแอด แต่ไปยิงแอดในเวลาช่วงที่ยอดตก มีโอกาสได้ออเดอร์เพิ่มมากขึ้น

  • สร้างพื้นฐานร้านให้แข็งแรง

     

     ข้อแรก ชื่อร้านต้องโดดเด่น ให้มีความน่าสนใจ น่าดึงดูด เนื่องจากในแอปพลิเคชันเดลิเวอรี่ มีร้านอาหารเป็นร้อยๆ ร้าน การตั้งชื่อร้านที่ดีจะช่วยให้ลูกค้ารู้จักร้าน เห็นชื่อร้านแล้วรู้เลยว่าขายอาหารอะไร

     ข้อสอง เพิ่มอัตราการเข้าชม การแข่งขันยุคนี้สูงมาก ร้านอาหารต้องทำการโปรโมท ทำการตลาด ทำโฆษณาเพิ่มจะช่วยทำให้ลูกค้าเห็นคุณมากยิ่งขึ้น แต่ก่อนจะทำโฆษณา โปรโมทร้าน ต้องมั่นใจก่อนว่าพื้นฐานข้อแรกร้านคุณผ่านแล้ว

     ข้อที่สาม เพิ่มอัตราการสั่งซื้อ พฤติกรรมผู้บริโภคชอบใช้คูปองส่วนลด การให้คูปองส่วนลดต่างๆ ก็เป็นส่วนที่จะสามารถจูงใจได้

  • ต้องสร้างลูกค้าใหม่เข้าร้าน

     

     สิ่งที่จะช่วยเพิ่มกำไรให้ร้านค้าอย่างหนึ่งคือ การมีลูกค้าใหม่ ซึ่งสามารถทำได้โดยการสร้างประสบการณ์ที่ดี เนื่องจากการกินอาหารยุคนี้ผู้บริโภคยุคนี้ไม่ได้คาดหวังแค่อาหารอร่อยแล้วก็จบ ต้องสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับเขาด้วย ซึ่งประสบการณ์ที่ดีอาจจะมาจากบรรจุภัณฑ์ ถ้วย ชาม ดูดี ทำให้ผู้บริโภคอยากถ่ายรูป อยากรีวิว จะช่วยให้ร้านของคุณมีโอกาสเป็นไวรัลมีคนรู้จัก ก็มีโอกาสได้ลูกค้าใหม่มากยิ่งขึ้น

  • มีมากกว่า 7 เมนูจะช่วยเพิ่มอัตราการซื้อซ้ำ

     

     ธันย์ณภัทร ได้เผยสถิติที่น่าสนใจอย่างหนึ่งมาว่าการสร้างเมนูในร้านมากกว่า 7 เมนูจะช่วยเพิ่มอัตราการตัดสินใจซื้อได้ถึง 17%

     “สาเหตุที่อัตราการซื้อซ้ำเพิ่มมาจาก ประเด็นแรก สมมติว่าไปช้อปปิ้ง ไปซื้อของ เดินเข้าไปในร้านสะดวกซื้อขนาดใหญ่ แต่มีของวางอยู่ 3 อย่าง ทำให้ผู้บริโภครู้สึกไม่ค่อยอยากซื้อสินค้าเพราะของดูน้อยเกินไปไม่น่าช้อป ประเด็นที่สอง สมมติว่าคุณอยู่กับเพื่อน อยู่กับแฟน อยู่กับครอบครัว อยากกินอาหารร่วมกัน ฉะนั้นการมีเมนูที่หลากหลายและมีเมนูที่มีตัวเลือกให้มากพอครอบคลุมความต้องการกลุ่มลูกค้า จะทำให้มีการซื้อมากยิ่งขึ้น แต่ต้องไม่มีเมนูเยอะจนเกินไป บางร้านอัดไปกว่า 300 เมนูคนกดไปดูเมนุที่ร้อยก็ลืมเมนูแรกแล้วอาจกดย้ายไปกินร้านอื่น เพราะฉะนั้นแล้วดูความเหมาะสม”

  • ตรงปกและตรงปาก

     

     การถ่ายรูปโปรโมทก็เป็นเรื่องสำคัญ ถ่ายรูปโปรโมทที่สวยช่วยให้คนอยากซื้อ แต่อย่าลืมข้อสำคัญถ้าซื้อแล้วอาหารไม่ตรงปก จะกลายเป็นอันตรายต่อร้านค้า เนื่องจากความคาดหวังของลูกค้า อยากได้อาหารหน้าตาแบบในรูป แต่ถ้าสั่งไปแล้วไม่เป็นอย่างในรูป อาจทำให้ชื่อเสียงของร้านเสียหายรายได้ก็ไม่เข้า

  • จัดโปรฯ อาหารเป็นเซ็ต

           

     ปัญหาโลกแตกอย่างหนึ่งที่ผู้บริโภคหลายคนเป็นคือ รู้สึกอยากกินแต่ไม่รู้จะสั่งหรือกินอะไรดี ทำให้มีลูกค้ากว่า 50% ไม่ได้ตัดสินใจเลือกร้านมาล่วงหน้า เจออะไรที่น่ากินก็กดสั่ง ในขณะที่ลูกค้าอีก 40% สั่งซื้อโดยใช้โค้ดส่วนลด ตอกย้ำว่าผู้บริโภคชอบส่วนลด

     เทคนิคอีกอย่างที่จะทำให้ขายดีมากขึ้นคือ การจัดโปรเซ็ตเมนู แทนที่จะขายกะเพราะเนื้ออย่างดีเพียงเมนูเดียวอาจได้แค่ 80 บาท ลองเพิ่มขายเป็นเซต กะเพราะเนื้อ + ไข่เจียว + แกงจืด ก็อาจไปจบที่ราคา 200 บาท เป็นต้น

  • มีบริการพร้อมรับออร์เดอร์

 

     จากสถิติ 50% ของการสูญเสียยอดขายของร้านอาหารที่ขายในแอปฯ มาจากการกดยกเลิกออร์เดอร์ ฉะนั้นร้านค้าต้องมีการเตรียมความพร้อมบริการในการรับออเดอร์ อันนี้สำคัญ ถ้าร้านค้าปฏิเสธออร์เดอร์บ่อยๆ มีโอกาสสูงมากที่ลูกค้าจะไม่กลับมาซื้ออีก

     “ลองนึกภาพหากคุณทำงานมาเหนื่อยแล้วรู้สึกหิวมากๆ กดสั่งอาหารไปด้วยความคาดหวังว่าฉันจะได้กิน แต่พอถูกยกเลิกออรเดอร์ เหมือนอกหักนะครับ”

  • Pre-order

           

     อีกหนึ่งบริการเดลิเวอรี่ที่นิยมทำกันคือ ให้ลูกค้าพรีออเดอร์ล่วงหน้า 1 วัน การพรีออร์เดอร์ข้อดีคือจะทำให้คุณจัดการบริหารสิ่งต่างๆ ได้ดีขึ้น ทั้งวัตถุดิบ เวลา

  • ใกล้ชิดกับสถาบันการเงิน

 

     ผู้ประกอบการร้านอาหารส่วนใหญ่โดยเฉพาะร้านเล็กๆ มีไม่ถึง 1 ใน 5 จะเข้าถึงสถาบันการเงิน ฉะนั้นแม้จะเป็นร้านอาหารเล็กๆ ก็ควรติดต่อสถาบันการเงิน เช่น การขอเครดิต อย่างน้อยถ้าหากเกิดฉุกเฉินหมุนเงินไม่ทัน สถาบันการเงินจึงเป็นสิ่งจำเป็นมากที่จะช่วยได้

  • หมั่นเพิ่มทักษะทางการขาย

 

     ต้องไม่อยู่กับที่ เลือกที่จะพัฒนาตัวเอง ต้องหาความรู้เพิ่มเติม เรียนรู้หาเทคนิคการตลาดดีๆ อาทิ สังเกตร้านมีคู่แข่งเป็นใครบ้าง ยกตัวอย่างเป็นร้านคาเฟ่ ลองกดเข้าไปในแอปรัศมี 5 กิโลเมตร มีร้านกาแฟ ร้านคาเฟ่กี่ร้าน คู่แข่ง ทำอะไรบ้าง มีเมนูไหนที่ขายดี วิธีเหล่านี้เป็นการดูเทรนด์แบบง่ายๆ แล้วนำข้อมูลเหล่านั้นมาปรับปรุง

  • ต้นทุนวัตถุดิบ

 

     นอกจากนี้ธันย์ณภัทรเผยผลสำรวจที่น่าสนใจอีกว่า 1 ใน 3 ร้านอาหารเจอปัญหาว่าร้านส่วนใหญ่ต้นทุนวัตถุดิบสูงมาก ซึ่งมาได้จากหลายสาเหตุ อาทิ บางวันพ่อครัวสับไก่หล่น ใส่หมูเยอะเกินไป ไม่มีจำนวนที่แน่ชัดต่อจาน ทำให้ต้นทุนเพิ่ม และคุณภาพไม่คงที่ สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นต้นทุนหากมีระบบหรือวิธีป้องกันที่ดีก็จะช่วยลดต้นทุนได้

     นี่คือ เทคนิคการทำเดลิเวอรี่ให้ประสบผลสำเร็จ ลองนำไปปรับใช้ในร้านอาหารจะช่วยให้ธุรกิจของคุณมีกำไรมากขึ้นไม่มากก็น้อยนะครับ

 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: MARKETING

รู้จัก FOMO Marketing กลยุทธ์ปลุกความกลัวพลาด ที่ช่วยเร่งยอดขายโต

ลูกค้าไม่ได้ซื้อเพราะอยากได้เสมอไป แต่ซื้อเพราะ ‘กลัวพลาด’ รู้จัก FOMO Marketing กลยุทธ์ต้นทุนต่ำที่ช่วยให้ SME ปิดการขายได้ไวขึ้น

รวมกับดักการตลาด ที่กำลัง “ฆ่า” SME แบบไม่รู้ตัว ดูวิธีรอดที่ทำได้ทันที

พาไปแกะทีละข้อ ว่าทำไม “สูตรยิงแอด” หรือ “สูตรทำคอนเทนต์” ที่เวิร์กกับคนอื่น ถึงไม่เวิร์กกับคุณ พร้อมชี้ทางออก ที่จะทำให้การสื่อสารแบรนด์กลับมา “เข้าเป้า” ได้จริง

Color Psychology: จิตวิทยาเรื่องสี ที่แบรนด์ใหญ่ใช้เพิ่มยอดขาย

สี…ก็เปลี่ยนยอดขายได้ ทำไม Facebook ใช้สีน้ำเงิน? ทำไม Chanel ถึงเลือกสีดำทอง? ทำไมฟาสต์ฟู้ดต้องสีแดง-เหลือง? คำตอบอยู่ที่ “Color Psychology” จิตวิทยาของสีที่แบรนด์ใหญ่ใช้สร้างกำไรมาแล้วทั่วโลก