ได้เวลาลงโฆษณาบน Instagram



 




เรื่อง นเรศ เหล่าพรรณราย
    
    เดือนกันยายนนี้ ถือเป็นการเปิดตัวแพลตฟอร์มการโฆษณาของ Instagram สื่อสังคมออนไลน์ที่มีแนวโน้มเติบโตสูงที่สุดอย่างเต็มตัว โดยจะมีคำว่า “ได้รับการสนับสนุน” ปรากฎเช่นเดียวกับเฟซบุ๊ค โดยนักการตลาดให้จับตามองว่าจะเป็นช่องทางการทำตลาดที่มีอนาคตไกล


    EMarketer สำนักวิจัยด้านการตลาดออนไลน์ได้ออกบทวิเคราะห์ถึงแนวโน้มการเติบโตในด้านรายได้โฆษณาของ Instagram ว่าเฉพาะปีนี้จะมีรายได้แตะ 595ล้านเหรียญ รายได้รวมภายในห้าปีข้างหน้ามีโอกาสเติบโตถึง300% และภายในสองปีข้างหน้าหรือ 2017 รายได้โฆษณาส่วนของสื่อเคลื่อนที่อย่างสมาร์ทโฟนจะแซงหน้ากูเกิลและทวิตเตอร์ด้วยซ้ำ แสดงถึงแนวโน้มการเติบโตด้านผู้ใช้งานและโฆษณาของ Instagram ได้อย่างดี


    ไม่เพียงเท่านี้ Instagram ยังเตรียมฟังชั่นที่จะสนับสนุนผู้ลงโฆษณาเช่นเดียวกับเฟซบุ๊ค นั่นคือ Instagram Ads API เพื่อที่จะวัดผลการลงโฆษณาและวิเคราะห์ผู้ใช้งาน เช่น กลุ่มผู้ติดตามเป็นกลุ่มใด มีพฤติกรรมการติดตามอย่างไร ไม่เพียงเท่านี้ยังมีเอเยนต์ซี่ชื่อดังหลายรายที่พร้อมจะเข้ามาเป็นพาร์ทเนอร์กับ Instagram ในการส่งเสริมแคมเปญการตลาดครบวงจร โดยสินค้าที่ลงโฆษณากับ Instagram ไปแล้ว เช่น อุปกรณ์กีฬา สินค้าอุปโภคบริโภค สินค้าแฟชั่น ส่วนประเทศไทยมีผู้ประกอบการรายแรกที่ทดลองใช้คือผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่รายหนึ่ง


    อย่างไรก็ตาม มีเสียงสะท้อนจากนักการตลาดออนไลน์บางส่วนว่าทุกวันนี้ Instagram ได้ถูกใช้เป็นสื่อสังคมออนไลน์ที่มีข้อได้เปรียบในเรื่องของการไม่เสียค่าบริการลงโฆษณาเหมือนกับเฟซบุ๊คแต่ผู้ติดตามสามารถเข้าถึงคอนเทนท์ได้ทั้ง100% ซึ่งในอนาคตหาก Instagram ได้ปรับมาใช้นโยบายเดียวกับเฟซบุ๊คในการต้องลงโฆษณาถึงจะเข้าถึงคอนเทนท์ได้ครบ อาจทำให้ได้รับความนิยมลดลง 


    ประเด็นนี้ Instagram ยังไม่ได้ให้คำตอบที่ชัดเจนว่านโยบายดังกล่าวจะเป็นอย่างไรต่อไป แต่นักการตลาดออนไลน์จากเอเยนต์ซีโฆษณายังเชื่อว่าท้ายสุดแล้ว นโยบายการเปิดแพลตฟอร์มโฆษณาของ Instagram จะปรัสบความสำเร็จแน่นอน และจะไม่ทับซ้อนกับเฟซบุ๊คซึ่งเป็นบริษัทแม่ แต่จะเอื้อการทำงานซึ่งกันและกันอีกต่างหาก


    จุดเด่นของ Instagram คือสามารถทำงานร่วมกับบรรดาเซเลปต่างๆในการทำตลาดร่วมกับแบรนด์สินค้าได้ เช่น อาจใช้กลยุทธ์ในการว่าจ้างคนดังในการพูดถึงแบรนด์ของเราให้เกิดการรับรู้และบอกต่อ ขณะที่เฟซบุ๊คมีภาพของการเป็นสื่อที่ใช้ในการให้ข้อมูลประชาสัมพันธ์โดยตรงมากกว่า รวมถึง Instagram ถูกบังคับให้ใช้งานผ่านสื่อเคลื่อนที่อย่างสมาร์ทโฟน แท๊ปเลต เป็นหลัก จึงเหมาะกับสินค้าที่ต้องการเจาะกลุ่มผู้ใช้งาน Mobile Device เป็นหลัก


    สำหรับประเทศไทย เป็นที่น่ายินดีว่า เฟซบุ๊ค กำลังจะเปิดสำนักงานในไทยอย่างเต็มตัว หมายความว่าผู้ประกอบการธุรกิจทั้งขนาดใหญ่และขนาดกลางรวมถึงเอสเอ็มอีจะสามารถเข้าถึงบริการโฆษณาออนไลน์ทั้งเฟซบุ๊คและ Instagram ได้อย่างเต็มที่ซึ่งจะเป็นช่องทางการทำตลาดที่มีอนาคตอย่างแน่นอน ผู้ประกอบการจึงควรศึกษาแนวทางโฆษณาดังกล่าวไว้ใช้เป็นทางเลือกในอนาคต


www.smethailandclub.com ศูนย์รวมข้อมูลเพื่อธุรกิจ SME (เอสเอ็มอี)






RECCOMMEND: MARKETING

ส่งออกหลักล้านไม่ใช่เรื่องไกลตัว เปิดสูตรลับ 2 แบรนด์ไทยบุกอาเซียน ด้วย Shopee International Platform

ความท้าทายในการขยายตลาดสู่ต่างประเทศ ไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับผู้ประกอบการไทย เพราะช่องทางออนไลน์เป็นโอกาสที่เปิดกว้างขึ้น วันนี้จะพาไปรู้จัก Shopee International Platform (SIP) โปรแกรมที่เป็นมากกว่าช่องทางขายสินค้าออนไลน์ต่างประเทศ

ยิ่งให้ ยิ่งโต 3 กลยุทธ์ธุรกิจแห่งอนาคตที่ได้ใจผู้บริโภครุ่นใหม่

เพราะธุรกิจที่เติบโตอย่างแข็งแรงในวันนี้ ไม่ใช่แค่แบรนด์ที่ “ขายของดี” แต่คือแบรนด์ที่ “มีความหมายให้ลูกค้าอยากจ่าย”มาดู 3 กลยุทธ์จากแบรนด์ระดับโลกที่กล้าให้…และเติบโตอย่างยั่งยืนด้วยหัวใจ

5 เทคนิคสร้าง “กระแสแบบไม่เปลืองงบ” ทำให้ลูกค้าอยากพูดถึงแบรนด์คุณ…แบบปากต่อปาก!

มีสินค้าดี บริการเด่น แต่ไม่มีใครพูดถึง นี่คือสิ่งที่เจ้าของธุรกิจหลายคนเจอ โดยเฉพาะเมื่อไม่อยากทุ่มงบโฆษณา วันนี้จะพาคุณไปรู้จักเทคนิคสร้าง Buzz สำหรับคนทำธุรกิจ ที่งบน้อยแต่กระบวนท่าไม่ธรรมดา