Earworm Marketing ทำเพลงให้หลอนหูลูกค้า การตลาดที่ SME ไซส์เล็กก็ทำได้     

Text: VaViz


     ลองพูด “แตงโม แตงโม แตงโม” โดยไม่มีทำนองเพลงของสาวจินตหรา พูนลาภ แทรกขึ้นมาในหัวดูสิ

     หรือว่าลองนึกถึง “นปโปะหม่ำๆ” เพลงฮิตติดหูเมื่อปีที่แล้ว ที่ใครได้ยินก็ต้องต่อด้วย “หม่ำๆ กู๊ดบอย” ที่ปังถึงขนาดมีการนำเพลงนี้ไปประกอบการสอนทำ CPR หรือการปั๊มหัวใจเลยทีเดียว

     หรืออย่างปีนี้กับ “เยลลี่ยึดเมืองสุรินทร์ ใครได้เห็นก็ต้องอยากกิน โคตรอร่อยเคี้ยวเพลินนุ่มลิ้น จะไปบอกแม่ว่าหนูอยากกิน” มีมเสียงสุดไวรัลที่ทำเอาคนเล่น TikTok และ TikToker ชื่อดังหลายคนเล่นคอนเทนต์ด้วยแผ่นเสียงนี้กันมากมาย

ว่าแต่...อะไรที่ทำให้เนื้อเพลง / ทำนองเหล่านี้ชอบผุดขึ้นมาในหัวเราทุกที?

    ปรากฏการณ์นี้มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Involuntary Musical Imagery หรือเรียกง่ายๆ ว่า Earworm ซึ่งหมายถึง อาการที่มีเพลงหรือจังหวะเสียงติดอยู่ในหูแบบเอาออกไปไม่ได้สักที วนลูปซ้ำๆ จนบางครั้งเราก็เผลอฮัมเพลงออกมาโดยไม่รู้ตัว

     “หลอนติดหนึบแบบนี้ = โอกาสดีของแบรนด์”

     ถึงไม่ได้มีหนอนตัวเป็นๆ มาดุ๊กดิ๊กอยู่ในหู แต่การสลัดเพลง ทำนอง หรือวลีออกจากหัวไม่ได้นั้น นำมาสู่กลยุทธ์สุดเด็ดอย่าง “Earworm Marketing” หรือการตลาดเพลงติดหู ที่สามารถช่วยสร้างการเชื่อมโยงระหว่างแบรนด์กับผู้บริโภค และกระตุ้นให้แบรนด์หรือสินค้าเป็นที่จดจำ รวมถึงสร้างประสบการณ์และความประทับใจให้กับผู้คนได้ง่ายขึ้น

ไม่ต้องเป็นถึง Studio…SME ไซส์เล็กก็แต่งเพลงเองได้

     สำหรับใครที่กังวลว่า เราเป็นแค่คนตัวเล็กๆ แต่งเพลงก็ไม่เป็น จะใช้ Earworm Marketing กับเขาได้หรอ? ขอบอกเลยว่า ได้ ยิ่งอยู่ในยุคที่มีเทคโนโลยีอย่าง AI ยิ่งไม่ต้องหนักใจ เพราะมีเครื่องมือมาให้เลือกหยิบใช้แต่งเพลงได้หลายตัว เช่น

          ตัวนี้รู้จักกันดีกับการเป็น AI Chatbot ที่สามารถใช้ขอไอเดียการทำเพลง คิดแนวเพลง ช่วยคิดคอร์ด หรือช่วยแต่งเพลงให้ได้ทั้งเนื้อเพลง ทำนอง หรือแนวเพลงที่ต้องการ โดยจะให้คำแนะนำหรือปรับแต่งตามความต้องการของผู้ใช้ เพียงแค่พิมพ์อธิบายหรือถามสิ่งที่ต้องการลงไปเท่านั้น ซึ่งสามารถใช้ได้แบบฟรีๆ หรืออยากขยับไปใช้ฟีเจอร์ที่พรีเมียมมากขึ้นก็ได้ โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 20 ดอลลาร์ต่อเดือน

  • AIVA (Artificial Intelligence Virtual Artist)

          ถัดมาที่ AI Music Creator ตัวนี้ ที่นอกจากจะทำเพลงต่างๆ ให้แล้ว ผู้ใช้ยังสามารถแก้ไขโน้ตในแต่ละท่อนได้ด้วย และสามารถสร้างแทร็กเพลงแบบกำหนดเองได้ โดยไม่ต้องมีความรู้ด้านดนตรีแต่อย่างใด เวอร์ชันฟรีอนุญาตให้ใช้งานส่วนตัวและให้ดาวน์โหลด 3 ครั้งต่อเดือน แต่เพลงต้องเป็นลิขสิทธิ์และให้เครดิต AIVA ขณะที่เวอร์ชันแบบชำระเงินเริ่มต้นที่ประมาณ 11 ยูโรต่อเดือน

          แอปมาสเตอริ่งเพลงด้วย AI เป็นอีกเครื่องมือที่สามารถช่วยปรับแต่งให้เสียงเพลงดูเป็นมืออาชีพมากขึ้น มีทั้งบริการฟรีและแบบเสียค่าใช้จ่ายสนนราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 6 ดอลล่าร์ต่อเดือน

          เว็บไซต์ที่ใช้ AI ช่วยแต่งเพลงได้ง่ายๆ เพียงแค่ป้อนข้อมูลหรือคำอธิบายสั้นๆ ที่ต้องการ ระบบของ Suno จะสร้างทำนอง เนื้อเพลง และเรียบเรียงให้โดยอัตโนมัติ นอกจากนี้ ยังสามารถสร้างเพลงได้หลายเวอร์ชั่นจากธีมเดียวกันอีกด้วย ซึ่งมีให้เลือกใช้ทั้งแบบฟรี (ห้ามนำไปใช้เพื่อการค้า) และแบบเสียค่าใช้จ่ายเริ่มต้นที่ 8 ดอลลาร์ต่อเดือน  

          ปิดท้ายที่ AI สุด Cool! ที่เปลี่ยนตัวหนังสือให้เป็นเพลงได้ แค่กำหนดว่า อยากให้ช่วยสร้างอะไร เลือกได้ว่าอยากให้เป็น Track หรือเป็น Loop แถมเลือกระยะเวลาหรือความยาวของเพลงได้ด้วย แต่รองรับแค่ภาษาอังกฤษเท่านั้น มีให้ใช้ทั้งแบบฟรีและเสียค่าใช้จ่ายเริ่มต้นที่ 14 ดอลลาร์ต่อเดือน

เพลงแบบไหน...ที่จะฮิตจนติดหู

      มีตัวช่วยแล้วแบบนี้ ถึงเวลามาเช็กว่า เพลงและองค์ประกอบแบบไหนที่จะดันให้เกิด Earworm ได้ง่ายขึ้น

     - ใช้คำง่ายๆ เพื่อให้เกิดการจดจำได้ง่ายขึ้น การนำคำที่ใช้กันในชีวิตประจำวันมาใส่ในเนื้อเพลง จะสร้างความคุ้นเคยให้กับคนที่ได้ยินได้ ซึ่งจะดีมากขึ้นไปอีก ถ้า SME เลือกใช้คำให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายหรือลูกค้าที่ต้องการจะสื่อสารด้วย

     - ใช้คำที่กำลังเป็นกระแส ถ้าข้อแรกมันดูธรรมดาเกินไป ลองหยิบคำพูดที่กำลังฮิตหรือเป็นไวรัลมาปรับใช้ให้เข้ากับแบรนด์หรือสินค้าดู เพื่อให้เพลงดูมีความทันสมัย และขยายการเข้าถึงคนได้มากขึ้น

     - ใช้คำแปลก สะดุดหู หรือจะฉีกแนวไปเลย ด้วยการใช้คำหรือวลีใหม่ๆ ที่คิดขึ้นเอง หรือไม่มีความหมาย สร้างความรู้สึกเอ๊ะให้คนว่า ที่ได้ยินไปเมื่อกี้คือคำว่าอะไรนะ?

     - ใช้คำซ้ำๆ เพื่อให้สมองผู้ฟังเกิดความเคยชิน การใช้คำซ้ำๆ ร้องซ้ำไปซ้ำมาในเนื้อเพลงจะช่วยได้มาก จนคนไม่ได้จดจำชุดคำเหล่านั้นด้วยเหตุผล แต่จะจดจำในเชิงความรู้สึกแทน พูดง่ายๆ เรียกว่าซึมซับจนเคยชิน ไม่ต้องนึกมันก็ผุดขึ้นมาเอง  

     - ใช้เมโลดี้สูง-ต่ำ-สูง นอกจากเพลงที่มีจังหวะเร็วจะทำให้หลอนหูได้ง่ายแล้ว การออกแบบทำนองหรือเมโลดี้ให้ช่วงแรกๆ ใช้โน้ตที่ค่อนข้างสูง ถัดมาเป็นโน้ตที่ต่ำลง แล้วก็เป็นโน้ตสูงขึ้นอีกทีช่วงเข้าใกล้ท่อนฮุก และวนแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนจบเพลง จะช่วยพาคนให้อินและอยู่กับเพลงได้แบบไม่รู้สึกเบื่อ

     - ใช้เสียงที่ไม่คุ้น เช่นเดียวกับการใช้คำแปลก การสร้างเสียงหรือจังหวะแปลกๆ ให้คนเอะใจ รวมไปถึงแทรกเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ในเพลง จะทำให้เพลงนั้นน่าสนใจมากขึ้น แถมยังทำให้คนจดจำได้แม่นขึ้นด้วย

     - ใช้การสร้างภาพจำเข้าช่วย สุดท้ายนอกจากเนื้อเพลงและทำนองแล้ว การสร้างเพลงที่สามารถ “เต้น” หรือนำไป “Cover Dance” ต่อได้ ยิ่งจะทำให้เกิด Earworm ได้แบบสุดๆ เพราะท่าเต้น + เพลง จะทำให้เกิดการเชื่อมโยงกันและเกิดภาพปรากฏขึ้นในหัว ซึ่งก็ควรเป็นท่าแบบง่ายๆ หรือจะครีเอทให้ไม่เหมือนใครก็ขึ้นอยู่กับความบรรเจิดของแต่ละแบรนด์ได้เลย

รู้ว่าเสี่ยง...แต่ SME ต้องกล้าที่จะลอง

     รู้แบบนี้แล้ว ผู้ประกอบการคนไหนที่ยังกล้าๆ กลัวๆ ว่า จะลองทำสักเพลงดูดีไหมคงตัดสินใจได้ง่ายขึ้น แต่ถ้ายังไม่ชัวร์ มาดูกันให้เห็นไปเลยว่า Earworm Marketing นั้นทรงพลังขนาดไหน

      - สร้างการรับรู้ ปลุกกระแสไวรัล เพราะเพลงที่ติดหูจะถูกแชร์ผ่านโซเชียล โดยเฉพาะบน TikTok หรือ Reels ได้แบบที่แบรนด์ไม่ต้องซื้อโฆษณา แถมยังเข้าถึงผู้ชมได้กว้างขึ้น ยิ่งมีคนร้องตาม เต้นตาม หรือเอาไปทำ Challenge ยิ่งส่งต่อการเป็น Earworm ได้แบบไม่สิ้นสุด

     - ภาพลักษณ์ดี ดูแสน Friendly ยิ่งเพลงมีความน่ารัก สนุกสนาน เด็กร้องได้ผู้ใหญ่ร้องดี จะทำให้คนฟังรู้สึกดีกับแบรนด์ รู้สึกว่าเป็นแบรนด์ที่เข้าถึงง่าย และเกิดความผูกพันกับแบรนด์มากขึ้น

     - กระตุ้นยอดขาย คนยอมควักกระเป๋าจ่าย แบรนด์หรือสินค้าที่เคยฝังอยู่ในหัวผู้คนผ่านเสียงหรือเพลงนั้น จะทำให้ลูกค้าตัดสินใจเลือกที่จะซื้อได้ง่ายขึ้น เพราะรู้สึกว่ารู้จักและคุ้นเคยมากกว่าแบรนด์ที่ไม่เคยเห็นหรือไม่เคยได้ยินมาก่อน

     เจ้าของธุรกิจคนไหนที่กำลังมองหากลยุทธ์มาช่วยเพิ่มสีสันและดึงดูดใจลูกค้า เชื่อว่า Earworm Marketing จะเป็นอีกหนึ่งการตลาดที่คนตัวเล็กๆ อย่าง SME ก็สามารถเริ่มต้นทำได้ด้วยตัวเอง เพราะของแบบนี้ ไม่ลองก็ไม่รู้ คุณอาจจะเป็นหนึ่งในเพลงสุดฮอทที่ฮิตไปทั่วบ้านทั่วเมืองก็เป็นได้.....

 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: MARKETING

เสื้อยืดไก่ทอดหาดใหญ่ แฟชั่นอร่อย ไอเดียขายเสื้อสุดครีเอท ใครเห็นก็อยากลองซื้อไปกิน เอ้ย! ลองใส่

ไอเดียเสื้อยืดลายไก่ทอดหาดใหญ่ ที่หยิบเอากระดาษห่อข้าวเหนียวไก่ทอด หมูทอด มาทำเป็นแพ็กเกจจิ้งสินค้า และเพิ่มความเหมือนอารมณ์ข้าวเหนียวไก่ทอดแท้ๆ ยิ่งเข้าไปอีก ด้วยการปริ้นกระดาษเป็นรูปห่อน้ำจิ้มติดเอาไว้ด้วย

ทำไมผู้ประกอบการไทยถึงสนใจลงทุน ธุรกิจร้านซักผ้าอัตโนมัติ 24 ชม. ไม่มีพนักงาน ไม่มีสต็อก แต่อยู่ได้ด้วยระบบอัตโนมัติ

ร้านซักผ้าหยอดเหรียญอัตโนมัติ เป็นธุรกิจที่ได้รับความนิยมและถูกยกให้เป็น “อาชีพที่สอง” ที่สร้างรายได้ต่อเนื่อง ด้วยจุดเด่นคือ ไม่ต้องมีสต็อกสินค้า ไม่ต้องกังวลเรื่องวันหมดอายุ ไม่ต้องบริหารพนักงาน และสามารถสร้างรายได้ตลอด 24 ชั่วโมง

รู้จัก 4 พลังซื้อใหม่ ตัวเปลี่ยนเกมธุรกิจปี 2026 ที่ Hakuhodo เผยให้คุณรู้ก่อนใคร!  

เมื่อปี 2026 กำลังจะกลายเป็นสมรภูมิใหม่ของโลกธุรกิจ! แบรนด์ไหนที่ยังหลับใหลต้องรีบตื่น เพราะ 4 พลังซื้อใหม่ กำลังจะเปลี่ยนเกมการตลาดแบบไม่ทันตั้งตัว มาฟังเฉลยจาก อรุณโรจน์ เหล่าเจริญวงศ์ สถาบันวิจัยความเป็นอยู่ฮาคูโฮโด อาเซียน (ประเทศไทย)