สอท.คาดใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 6 เดือนผุดรัฐบาลใหม่ หวั่นช่วงสุญญากาศ หน่วยงานรัฐเกียร์ว่าง กระทบต่อการขอบีโอไอและขอเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ ทำเอสเอ็มอีกระทบหนัก ชี้การเมืองทุบบรรยากาศการค้าขาย 2 ปี เอสเอ็มอีรายได้หด 25% วอนการเมืองเบรกปัญหาให้ได้ภายใน 2-3 เดือน ให้เอสเอ็มอีท่องเที่ยวได้มีโอกาสฟื้นตัว บีโอไอเร่งศึกษาลู่ทางการค้า กลาง-อีสาน-ใต้
นายธวัชชัย อรัญญิกผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่าททท.เตรียมเรียกผู้อำนวยการสำนักงานททท.ที่ประจำในเอเชียทั้ง 18 แห่งมาประชุมเพื่อสรุปตัวเลขนักท่องเที่ยวในแต่ละประเทศเนื่องจากขณะนี้มีสัญญาณชะลอตัวในนักท่องเที่ยวเอเชียอย่างชัดเจนแล้วเพราะเป็นกลุ่มที่มีความอ่อนไหวต่อข่าวการเมืองจึงต้องมีการหารือว่าจะต้องปรับตัวเลขนักท่องเที่ยวให้ลดลงหรือไม่ รวมถึงจะต้องวางแผนทำการตลาดใหม่ด้วยโดยจะเน้นการเข้าไปเจาะตลาดกลุ่มที่นักท่องเที่ยวหายไปจำนวนมาก เช่น ฮ่องกง จีนทั้งนี้จะต้องเรียกประชุมหลังเทศกาลตรุษจีนเพราะเป็นช่วงที่จะเห็นผลได้ชัดเจนมากที่สุด
นายธนิต โสรัตน์ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) กล่าวว่าได้สำรวจข้อมูลสมาชิกในต่างจังหวัดของส.อ.ท. ซึ่งส่วนใหญ่เป็นธุรกิจเอสเอ็มอีล่าสุดพบว่า กำลังประสบปัญหาการขาดสภาพคล่องอย่างหนักโดยเฉพาะธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการค้าขายพืชเกษตรโดยเฉพาะข้าวเช่น โรงสีร้านขายปุ๋ย ร้านขายอุปกรณ์ทางการเกษตรและเมล็ดพันธุ์พืชเนื่องจากเกษตรกรผู้ปลูกข้าวยังไม่ได้รับเงินจำนำข้าวมานานส่งผลให้เงินในระบบที่เกี่ยวข้องในกรณีนี้หยุดชะงักการใช้จ่าย และสิ่งที่น่าห่วง คือเมื่อชาวนาไม่ได้เงินจึงหันไปกู้เงินนอกระบบ ที่มีดอกเบี้ยสูงมากขึ้น
นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ในวันที่ 3 กุมภาพันธ์2557 นี้ จะมีการประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน(กกร.)ประกอบด้วย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ,ส.อ.ท.และ สมาคมธนาคารไทย ในส่วนของ ส.อ.ท.จะเสนอให้ที่ประชุมพิจารณาช่วยเหลือผู้ประกอบการรายเล็กที่ได้รับผลกระทบจาการชุมนุมได้อย่างไรบ้าง
เอสเอ็มอีแบงก์จ่อยื่นหนังสือขอคลังออกจากแผนฟื้นฟูในไตรมาสแรก ปี 2557 หลังผลงานเติบโตดี บีไอเอสแข็งแกร่ง พร้อมเดินหน้าแผนดูดเงินทุนใน-นอกประเทศ
นายชนินทร์ จิตต์โกมุท นายกสมาคมรองเท้าไทย เปิดเผยว่า ปัญหาการชุมนุมทางการเมืองที่เกิดขึ้นในประเทศ ส่งผลกระทบให้ลูกค้าต่างชาติไม่มีความเชื่อมั่นกับสถานการณ์ในประเทศไทย และห่วงว่าจะไม่สามารถผลิตสินค้าได้ตามปกติ จึงหันไปสั่งผลิตสินค้าจากประเทศเพื่อนบ้านของไทยแทน ทำให้ยอดคำสั่งซื้อสินค้าจากลูกค้าต่างประเทศลดลงประมาณ 10-20% โดยเฉพาะคำสั่งซื้อจากประเทศสหรัฐ และกลุ่มประเทศในยุโรป
นายรุ่งโรจน์ บุนฑารักษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ.เบสท์ อินเตอร์โปรดักส์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่ผลิตเครื่องสำอางในกลุ่มเอสเอ็มอี เปิดเผยว่า จากเหตุความวุ่นวายทางการเมือง และการปิดกรุงเทพฯในช่วงที่ผ่านมา บริษัทยังไม่ได้รับผลกระทบมากนัก เพราะโรงงานตั้งอยู่นอกกรุงเทพฯ และคำสั่งซื้อ (ออเดอร์) สินค้าต่างๆทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ก็ยังไม่ลดลง แต่หากเหตุการณ์ยืดเยื้อไปอีก 1-2 เดือน ข้างหน้าก็อาจจะมีผลกระทบต่อคำสั่งซื้อของบริษัท เนื่องจากลูกค้าต่างประเทศขาดความเชื่อมั่น และกำลังซื้อ ภายในประเทศก็จะลดลง เพราะผู้บริโภคในประเทศก็ไม่กล้าใช้จ่ายมากนัก
นายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้ส่งหนังสือสอบถามไปยังสมาชิกหอการค้าฯ ทั่วประเทศ 4,000-5,000 ราย เกี่ยวกับผลกระทบจากปัญหาการชะลอตัวของเศรษฐกิจและความขัดแย้งทางการเมือง เนื่องจากทราบว่าผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็ก (เอสเอ็มอี) หลายราย เริ่มประสบปัญหาขาดแคลนสภาพคล่องและยอดขายสินค้าลดลงต่อเนื่อง ซึ่งหากรวบรวมข้อมูลทั้งหมดแล้ว หอการค้าไทยจะเร่งหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการออกมาตรการช่วยเหลือต่อไป
นางอรรชกา สีบุญเรือง อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) เปิดเผยว่า ปัจจุบันกลุ่มผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) กำลังประสบปัญหารุมเร้าหลายด้าน ทั้งด้านต้นทุนค่าแรงที่ปรับขึ้น ต้นทุนสินค้าเพิ่มมากขึ้น และต้องเตรียมรับมือกับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ในปลายปี 2558 ด้วย ซึ่งทำให้เอสเอ็มอีต้องต่อสู้ทางธุรกิจหนักขึ้น ดังนั้น เพื่อเป็นการช่วยเหลือเอสเอ็มอีให้สามารถอยู่ได้ ทาง กสอ.จึงจัด โครงการจัดการพลังงานแบบสมบูรณ์ เพื่อยกระดับประสิทธิภาพการใช้พลังงานสำหรับอุตสาหกรรม หรือทีอีเอ็ม ประจำปี 2557 ขึ้น ซึ่งจะใช้งบประมาณ 10 ล้านบาท เพื่อให้ที่ปรึกษาเข้าไปช่วยอบรมให้ความรู้และแนะแนวทางการลดใช้พลังงานในโรงงานลงให้ได้อย่างต่ำ 5% ของการใช้พลังงานทั้งหมดในโรงงาน คาดว่ามีเอสเอ็มอีสนใจร่วมโครงการกว่า 100 ราย เตรียมเปิดรับต้นเดือน ก.พ.2557 ระบุ 3 ปีที่ผ่านมาช่วยผู้ประกอบการลดใช้พลังงานได้ 900 ล้านบาท