นายสมเกียรติ ศิริชาติไชย รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ธนาคารกสิกรไทยได้พัฒนาเครือข่ายการให้บริการในภูมิภาคอาเซียนอย่างต่อเนื่อง ภายใต้ยุทธศาสตร์การเป็นอาเซียนแบงก์(Asian Bank) ล่าสุด ธนาคารได้เปิดสำนักงานผู้แทนกรุงย่างกุ้งประเทศพม่า อย่างเป็นทางการ เพื่อเป็นศูนย์กลางการให้บริการแก่ลูกค้านักธุรกิจไทยที่ต้องการเข้าไปลงทุน หรือต้องการหาตลาดใหม่เพื่อส่งสินค้าไปยังประเทศพม่า ด้วยบริการข้อมูลและคำปรึกษาแบบครบถ้วนสมบูรณ์ ณ จุดเดียว (One Stop Service) ทั้งเรื่องการตลาดเชิงลึกข้อมูลการค้าการลงทุน กฎหมาย เครือข่ายธุรกิจที่สำคัญต่างๆ
นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ รองปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังได้ดำเนินโครงการคลินิกภาษี ซึ่งเป็นนวัตกรรมการรูปแบบใหม่ในการให้บริการความรู้ด้านภาษีผ่านระบบออนไลน์ ONE STOP SERVICE โดยเชื่อมโยงองค์ความรู้ด้านภาษีอากร 3 กรม ได้แก่ กรมสรรพากร กรมศุลกากร และ กรมสรรพสามิต มาไว้ ณ จุดเดียว เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพการให้บริการ สะดวก รวดเร็ว ตอบสนองความต้องการของประชาชนและภาคธุรกิจ และพร้อมรองรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในปี 2558 โดยขณะนี้ได้เริ่มนำร่องในพื้นที่ จ.ชลบุรี ซึ่งผู้ที่สนใจสามารถใช้บริการคลินิกภาษีได้ที่ http://taxclinic.mof.go.th ตลอด 24 ชั่วโมง
นายวัลลภ วิตนากร รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท. ) กล่าวว่า วันที่ 14 ธันวาคม 2555 นี้ คณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน (กรอ.) จะพิจารณามาตรการชดเชยผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่ได้รับผลกระทบจากนโยบายค่าจ้างขั้นต่ำวันละ 300 บาท หลังจากในสัปดาห์ที่ผ่านมากระทรวงการคลังและกระทรวงแรงงานรับข้อเสนอของคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) เช่นตั้งกองทุนชดเชยส่วนต่างของค่าจ้างที่เพิ่มขึ้น, การปรับลดอัตราเงินสมทบประกันสังคมจาก 5%เหลือ 2% และลดภาษีหัก ณ ที่จ่ายสำหรับการเหมาช่วงการผลิต จาก3% เหลือ 1-1.5% เป็นต้น แนวทางทั้งหมดจะช่วยลดต้นทุนการผลิตให้เอสเอ็มอี 6-7%
นายอมร งามมงคลรัตน์ รองผู้อำนวยการสถาบันอาหาร เปิดเผยว่า มูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมเบื้องต้น (GDP) ของเวียดนาม มาจากภาคอุตสาหกรรมเป็นหลัก คิดเป็นสัดส่วน 41.1% รองลงมาคือ จากภาคธุรกิจบริการ 38.3% และภาคเกษตรกรรมมีสัดส่วน 20.6% ตามลำดับ และแม้ว่าเวียดนามจะได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัวเช่นเดียวกับนานาประเทศทั่วโลก แต่สำนักงานสถิติแห่งชาติของเวียดนาม (General Statistics Office : GSO) ก็รายงานว่า ในปี 2555 นี้ เวียดนามมีแนวโน้มที่จะเกินดุลการค้าเป็นครั้งแรกในรอบ 20 ปี โดยในช่วง 11 เดือนแรกของปี 2555 เกินดุลการค้าแล้ว 14 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยได้รับอานิสงส์จากมูลค่าส่งออกสินค้าไฮเทคโนโลยีที่เพิ่มขึ้นมาก ซึ่งเป็นผลจากการเข้ามาลงทุนของบริษัทต่างชาติรายใหญ่
นางศรีรัตน์ รัษฐปานะ อธิบดีกรมการค้าระหว่างประเทศ ระบุว่า กรมฯ ได้จัดทำแผนในการผลักดันการส่งออกสำหรับปี 2556 โดยเน้นเป้าหมายใน 8 ภารกิจหลัก เพื่อสนับสนุนการส่งออกสินค้าไทย โดยมีแผนที่จะดำเนินการชัดเจน และต้องการให้ทูตพาณิชย์และที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ของไทย (HTAs) ช่วยกันทำงานเพื่อสนับสนุนแผนดังกล่าว
รายงานข่าวจากกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่าช่วง 10 เดือนของปี 2555 (มกราคม-ตุลาคม )มีโรงงานที่จำหน่ายทะเบียนต่อกรมโรงงานอุตสาหกรรมหรือปิดกิจการ 904 รายมูลค่า 27,574 ล้านบาทและมีการเลิกจ้างงาน 28,164 คน ส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมใหญ่ปลายปี 2554 รวมถึงไม่สามารถแข่งขันได้จากต้นทุนที่ปรับตัวสูง และถูกผู้ประกอบการที่มีความเข้มแข็งทั้งในและต่างประเทศแย่งตลาดสินค้าเช่นกลุ่มซ่อมยานยนต์ และมอเตอร์ไซต์, ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์และอิเล็กทรอนิกส์, ออกแบบแม่พิมพ์ผลิตชิ้นส่วน, ขุดลอกดินในโครงการก่อสร้าง, โรงสีข้าว, เครื่องนุ่งห่ม เป็นต้น
นายพิศาล ธรรมวิเศษ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีดีเฮ้าส์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือ ศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ และเอคิวโฮม กล่าวว่า ปี 2555 นี้ ถือเป็นอีกปีหนึ่งที่ภาคธุรกิจรับสร้างบ้าน ต้องเผชิญกับสถานการณ์วิกฤติอีกครั้ง ภายหลังจากปีที่แล้วเจอกับวิกฤติน้ำท่วมใหญ่ ทำตลาดรวมรับสร้างบ้านลดวูบกว่า 20% มาปีนี้เจอกับกับวิกฤติแรงงานขาดแคลน
นายสมเด็จ สุสมบูรณ์ นักวิชาการพาณิชย์เชี่ยวชาญ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ พร้อมคณะผู้บริหารภาครัฐและเอกชน ร่วมงานแสดงสินค้าไทยแลนด์ เทรด เอ็กซิบิชั่น ณ กรุงย่างกุ้ง ประเทศพม่า ระหว่างวันที่ 6 - 9 ธันวาคม 2555และที่เมืองมัณฑะเลห์ ระหว่างวันที่ 13-16 ธันวาคม 2555 เพื่อเพิ่มช่องทางการกระจายสินค้าและแสดงศักยภาพสินค้าและบริการไทยให้เป็นที่รู้จักและนิยมอย่างกว้างขวางในตลาดพม่า คาดว่าจะมีมูลค่าการซื้อขายภายในงานทันทีและภายหลังการจัดงานตลอด 1 ปีกว่า 41 ล้านบาท ซึ่งจะส่งผลให้การส่งออกในอาเซียนขยายตัวในปี 2556 ไม่น้อยกว่า 10%
นายปัณณพงศ์ อิทธิอรรถนนท์ กรรมการค่าจ้างฝ่ายนายจ้าง กล่าวว่า มาตรการบรรเทาผลกระทบจากการปรับอัตราค่าจ้าง 300 บาท ที่คณะรัฐมนตรีเห็นชอบในส่วนที่ให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอีนั้น ยังไม่ตรงกับเป้าหมายความต้องการอย่างแท้จริง อาทิ มาตรการเพิ่มการเข้าถึงแหล่งเงินกู้ เพราะในทางปฏิบัติค่อนข้างเป็นไปได้ยาก เนื่องจากมีข้อจำกัดในสัญญาค้ำประกันสินเชื่อตามเงื่อนไขของแต่ละธนาคาร โดยก่อนหน้านี้ที่ประชุมพิจารณาร่วมภาครัฐและเอกชนชุดใหญ่ไม่ได้มีผู้แทนจากฝ่ายนายจ้างเข้าประชุมด้วย มีเพียงการเข้าร่วมประชุมในคณะกรรมการชุดเล็กเท่านั้น