Starting a Business

COZEE มีดีที่ดีไซน์และงานคราฟท์ จนดังไกลในต่างแดน

Text :  Marisa S. Photo : กิจจา อภิชนรจเรข
 



Main Idea
 
  • COZEE เป็นแบรนด์กระเป๋าหนังที่ผสมผสานงานดีไซน์กับงานคราฟท์ งานจึงมีลักษณะเรียบง่าย ให้ความรู้สึกอบอุ่น
 
  • งานที่มีเอกลักษณ์ชัดเจนเช่นนี้ เป็นที่ถูกตาต้องใจของชาวต่างชาติอย่างมาก จึงทำให้ในวันนี้ แบรนด์ COZEE ขายดีในกลุ่มไต้หวันและฮ่องกง 




     การใช้ความรู้ที่มีอยู่นำมาปรับใช้จนเกิดเป็นโปรดักต์ใหม่ เป็นส่วนหนึ่งของการเริ่มต้นธุรกิจของ กานต์-วรกานต์ กิตติสยาม และ ยีน-อภิวัฒน์ พัฒนะอเนก คู่รักผู้ประกอบการหน้าใหม่ ที่ได้นำความรู้จากการเรียนด้านสถาปัตยกรรมมาเริ่มต้นทำแบรนด์กระเป๋าหนังที่ไม่ได้มีแค่ลูกค้าคนไทย แต่ยังโกอินเตอร์ดังไปไกลถึงไต้หวันและฮ่องกงอีกด้วย

     วรกานต์ เล่าให้ฟังถึงการเริ่มต้นก่อตั้งแบรนด์ COZEE ว่าเกิดจากการที่พวกเขาทำงานเป็นสถาปนิกอยู่หลายปี จนเริ่มมีความคิดที่อยากจะมีธุรกิจเป็นของตัวเอง ซึ่งด้วยความที่ชื่นชอบกระเป๋าหนังอยู่แล้ว จึงเอาเรื่องการดีไซน์มาผสมกับงานคราฟท์ เพื่อสร้างเอกลักษณ์ให้กับแบรนด์ COZEE  โดยคอนเซปต์ดีไซน์จะเน้นไปในทิศทางของคลีนดีไซน์ที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นอยู่ในตัวชิ้นงาน มีความเป็นตัวเองสูง และเป็นกระเป๋าที่ทนทานใช้ได้นาน  

     มาถึงวันนี้พวกเขาได้ทำธุรกิจกระเป๋าหนังมาได้ประมาณ 1 ปีกว่าๆ ธุรกิจสามารถเติบโตได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าต่างประเทศ อย่างไต้หวันกับฮ่องกงที่มีชื่นชอบงานคราฟท์และสินค้าที่มีความทนทานเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ประกอบกับราคาที่เอื้อมถึงได้ จึงทำให้ผลตอบรับดีมาก นอกจากนี้ยังมีลูกค้าจากประเทศญี่ปุ่น สิงคโปร์ และมาเลเซีย ที่ชื่นชอบในกระเป๋า COZEE ด้วย





     “เริ่มเลยคือเราดีไซน์เองทุกอย่างเลย กานต์จะเป็นคนออกแบบเองทั้งหมด ส่วนผมช่วยเรื่องการผลิต เลือกสีหนังกระเป๋า พอออกแบบได้แล้ว ก็ไปคุยกับช่าง และด้วยความที่เป็นสถาปนิกมาก่อนทำให้ดีไซน์เองได้ เข้าใจดีไซน์เป็นอย่างดี แต่เรื่องการตลาดในตอนแรกค่อนข้างเป็นศูนย์ ไม่มีความรู้เรื่องนี้เลย จะมีแค่เรื่องการเสนองานกับดีไซน์เป็นจุดแข็ง แต่ว่าเราโชคดีที่มีคนคอยให้คำปรึกษาเรื่องการตลาดตลอด บางครั้งก็ออกไปศึกษาเองตามงานสัมมนา ไม่ก็คอร์สเรียนที่ต้องจ่ายเงิน และยังมีเพื่อนที่มาแนะนำให้ขายใน Pinkoi เว็บไซต์ของไต้หวันที่เป็นที่รู้จักดีในแถบเอเชีย เขาบอกว่าสินค้าของเราคนไต้หวันกับคนฮ่องกงจะชอบ แล้วมันก็เป็นแบบนั้นจริงๆ” อภิวัฒน์ กล่าว

     ส่วนแบบกระเป๋าที่ออกมาวางขาย ตอนนี้มีกระเป๋าสะพาย 6 แบบ กระเป๋าสตางค์ 2 แบบ ถือว่าแบบของกระเป๋าที่ออกมายังน้อยอยู่มาก จึงตั้งเป้าหมายไว้ว่าปีหนึ่งจะออกกระเป๋ามาใหม่ 2 คอลเลคชั่น หนึ่งคอลเลคชั่นจะมี 3 แบบ ส่วนกระเป๋าเล็กๆ หรือพวกกระเป๋าสตางค์จะออกมาเรื่อยๆ ไม่ได้เป็นคอลเลคชั่น





     “เราออกกระเป๋ามา 2 รุ่นก่อน ลูกค้าค่อนข้างให้ความสนใจ แต่เรายังรู้สึกว่ามันยังดีไม่พอที่จะทำให้แบรนด์ขับเคลื่อนไปได้ แบรนด์ยังดูไม่มีเอกลักษณ์ ที่คนเขาชอบกันเพราะว่ามันเรียบร้อย มันสวย เราก็เลยมานั่งคุยกันว่าจะทำยังไงให้แบรนด์แตกต่างจากคนอื่น แล้วยังคงความเป็นตัวเองอยู่ แล้วเราก็ได้ค้นพบแรงบันดาลใจจากตัวสถาปัตยกรรม ด้วยความที่เราชอบอิลิเมนต์ของสถาปัตยกรรมต่างๆ เราก็เลยเอามาใช้ในงานออกแบบกระเป๋าด้วย พวกเคิร์บขอบประตู ผนัง และตอนนั้นอินกับงานออกแบบภายใน เลยทำให้งานของเรามีความแตกต่างจากแบรนด์อื่น” 

     วรกานต์ กล่าวเสริมว่า สัดส่วนของลูกค้า COZEE แบ่งเป็นต่างประเทศ 80 เปอร์เซ็นต์ และในประเทศไทย 20 เปอร์เซ็นต์ จึงวางแผนที่จะเจาะกลุ่มลูกค้าในไทยมากขึ้น เพื่อให้ขยับเป็นสัดส่วน 60:40  





     “ตอนไปออกบูธได้สังเกตแล้วว่าก็มีคนไทยไม่น้อยที่สนใจในแบรนด์ของเรา แล้วก็คิดไว้แล้วว่าจะเพิ่มบริการหลังขาย อย่างพวกทรีทเม้นท์ ทำความสะอาด ซ่อมและทำสี ซึ่งเป็นคอนเซปต์ของแบรนด์ตั้งแต่แรกแล้วว่าอยากให้กระเป๋าใช้ได้นานๆ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้ามากยิ่งขึ้น”

     ทั้งนี้จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเรื่องของโรคระบาดโควิด -19 ในปัจจุบันพวกเขามองวิกฤตินี้ให้เป็นโอกาสเพื่อมานั่งทบทวนตัวเองและวางแผนสำหรับอนาคตว่าจะให้แบรนด์ไปต่อเรื่อยๆ ได้อย่างไร โดยวรกานต์ บอกว่าการขายออนไลน์ทำให้โชคดี ไม่ต้องเสียจ่ายค่าเช่าพื้นที่ทุกเดือนจึงทำให้ไม่เดือดร้อนมากนัก โดยส่วนตัวเธอมองว่า ตอนนี้เป็นยุคที่ใช้ไอเดียขับเคลื่อนมากกว่า ต่อให้เรามีเงินทุนน้อยก็ยังใช้ไอเดียแทน และขอให้ผู้ประกอบการมีความเข้มแข็งเพื่อผ่านวิกฤตนี้ไปให้ได้ด้วยกัน
 
     IG : c.ozee 
     Line@ : @cozee
     FB : cozee
 
 
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจ Startup