Starting a Business

กระแสโปรตีนทางเลือกมาแรงจริงๆ! แม้แต่อาหารสัตว์จากแมลงก็ยังติดเทรนด์ Startup ตั้งแถวจ่อผลิตป้อนตลาด

 

Text : Vim Viva 

     นอกเหนือจากเรื่องของการดูแลสุขภาพ อีกปัจจัยหนึ่งที่ ทำให้ผู้คนหันมาบริโภคอาหารจากพืช และอาหารจากแมลงก็เห็นจะเป็นสำนึกต่อการมีอยู่ของปัญหาสิ่งแวดล้อม เช่น มลภาวะต่างๆ และภาวะโลกร้อน อย่างที่ทราบกัน ช่วงหลายปีที่ผ่านมา โปรตีนจากแมลงกลายเป็นกระแสที่มาแรงและเป็นทางเลือกจากเนื้อสัตว์ที่เป็นผลผลิตจากปศุสัตว์เนื่องจากใช้พื้นที่ ใช้น้ำ และทรัพยากรต่างๆ น้อยกว่า ทำให้ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสู่บรรยากาศเมื่อเทียบกับการทำฟาร์มปศุสัตว์ทั่วไป

     การผลิตอาหารจากแมลงจากที่เคยพุ่งเป้าไปที่มนุษย์ มาบัดนี้ได้ขยายขอบเขตไปยังอาหารสัตว์เลี้ยงแล้ว โดยหลายบริษัททั้งที่เป็นบริษัทขนาดใหญ่ และรายเล็กได้เข้ามาพัฒนาและผลิตอาหารสุนัขและแมวที่ทำจากแมลง อาทิ บริษัทเนสเล่ที่เปิดตัวผลิตภัณฑ์อาหารสุนัขและแมว Purina Beyond Natureเมื่อปลายปีที่แล้วที่มีส่วนผสมของหนอนแมลงวันลาย หรือบริษัทมาร์ส ผู้ผลิตขนมและอาหารสัตว์เลี้ยงก็แนะนำ Lovebug อาหารแมวที่ทำจากหนอนแมลงวันลายเช่นกัน

     ที่น่าสนใจคือมี Startup เข้าร่วมชิงส่วนแบ่งในตลาดนี้ด้วยจำนวนไม่น้อย หนึ่งในนั้นคือโยร่า เพ็ทฟู้ดส์ สตาร์ทอัพจากอังกฤษที่ปี 2019 ได้วางตลาดอาหารสุนัขที่ทำจากธัญพืชและหนอนแมลงวันลาย และโฆษณาสรรพคุณว่านอกจากให้รสชาติเหมือนคุกกี้เนยและชีส ยังอุดมด้วยโปรตีน และสารอาหารต่างๆ รวมถึงกรดไขมันโอเมก้า6  วิตามิน และแร่ธาตุทั้งหลาย ไม่เท่านั้น มีสารต้านอนุมูลอิสระสูงทำให้สุขภาพสัตว์เลี้ยงแข็งแรงอีกด้วย





     ที่ผ่านมา โยร่าจัดส่งสินค้ากว่า 200 ตันไปยัง 200 กว่าประเทศทั่วโลก และทำรายได้ไม่ต่ำกว่า 2.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ  เกล็นน์ แรนกิ้น ซีอีโอโยร่า เพ็ทฟู้ดส์ให้สัมภาษณ์ว่าผลิตภัณฑ์ของบริษัทเจาะกลุ่มผู้บริโภคที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม แต่เธอก็คาดหวังให้ผู้บริโภคหันมาสนใจเรื่องนี้มากขึ้นด้วย โปรตีนจากแมลงจะเข้ามามีบทบาทต่อเจ้าของสัตว์เลี้ยงมากขึ้นในรูปของอาหารสัตว์ นอกจากอาหารสุนัขแล้ว ล่าสุด โยร่ายังได้ผลิตอาหารแมวออกมาด้วยโดยมีส่วนผสมของแมลง 62.5 เปอร์เซนต์ซึ่งมากกว่าทุกยี่ห้อที่วางจำหน่ายในตลาด   

     Startup อีกรายที่ไปได้สวยกับธุรกิจผลิตอาหารสัตว์คือ “จิมมี่’ส” ในสหรัฐฯ แอนน์ คาร์ลสัน ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งบริษัทเมื่อ 3 ปีก่อนเล่าว่าเธอได้แรงบันดาลใจจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศจนทำให้คนรุ่นใหม่ไม่ต้องการมีลูกเพราะไม่อยากให้ลูกหลานต้องเผชิญปัญหาเหล่านี้ เนื่องจากแอนน์ทำธุรกิจเกี่ยวกับการให้คำปรึกษาในอุตสาหกรรมอาหารสัตว์ เธอจึงเกิดความคิดว่าเจ้าของสัตว์เลี้ยง และสัตว์เลี้ยงสามารถมีส่วนร่วมในการลดทอนปัญหาได้ด้วยการเปลี่ยนมาอุดหนุนอาหารสัตว์เลี้ยงที่ทำจากแมลง

     แอนน์เน้นไปที่จิ้งหรีดเนื่องจากเป็นซูเปอร์ฟู้ดที่มนุษย์บริโภคแพร่หลายอยู่แล้ว จากการศึกษาพบว่าสุนัขในสหรัฐฯจำนวนมากมีอาการแพ้โปรตีนจากไก่ เนื้อวัว และไข่ การแพ้อาหารในสัตว์เลี้ยงอาจนำไปสู่การอักเสบเรื้อรังในหู รวมถึงปัญหาเกี่ยวกับลำไส้ เช่น ท้องเสีย ท้องอืด และอื่นๆ อย่างไรก็ตาม โปรตีนจากจิ้งหรีดไม่มีปฏิกิริยาต่อระบบภูมิคุ้มกันจึงไม่ก่อให้เกิดการแพ้ใดๆ  

     แอนน์จึงได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์จิมมี่’สออกมา เป็นคุกกี้ทำจากจิ้งหรีดผสมธัญพืชต่างๆ บางสูตรจะเป็นหนอนแมลงวันลาย แต่โดยมากเน้นที่โปรตีนจากจิ้งหรีด หลังเปิดตัวได้ไม่นานก็เป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมจากเจ้าของสุนัขในสหรัฐฯ อย่างรวดเร็ว   





     ธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงจากแมลงถือเป็นธุรกิจที่น่าจับตามอง บริษัทราโบรีเสิร์ช บริษัทวิจัยด้านธุรกิจเกษตรและอาหารในเนเธอร์แลนด์คาดการณ์ราวปี 2030 ความต้องการโปรตีนจากแมลงเพื่อให้ในการผลิตอาหารสัตว์เลี้ยง และอาหารสัตว์ทั่วไปมีแนวโน้มเพิ่มเป็น 500,000 ตัน ขณะเดียวกัน ธุรกิจเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงในสหรัฐฯ ก็เติบโตอย่างมากช่วงที่เกิดการระบาดของโควิด-19 เหตุจากมีคนรับสัตว์มาเลี้ยงมากขึ้น ส่งผลให้การจับจ่ายสินค้าสัตว์เลี้ยงเพิ่มตามจนทุบสถิติปี 2020

     แน่นอนว่าหนึ่งในสินค้าที่ได้รับความนิยมคืออาหารสัตว์จากแมลง นำร่องโดยผลิตภัณฑ์จากจิ้งหรีด หลังจากนั้นก็มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ตามๆ กันมา แม้กระทั่งมหาวิทยาลัยโตรอนโต แคนาดายังตั้ง HOPE Pet Foods ธุรกิจในเครือเมื่อปีที่แล้วเพื่อแนะนำอาหารสัตว์เลี้ยงทางเลือกทำจากสาหร่ายและหนอนแมลงวันลาย

     ด้านฟิลิป คูเปอร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านอุตสาหกรรมสัตว์เลี้ยงซึ่งประจำที่แคลิฟอร์เนียแสดงความเห็นว่ายอดขายอาหารที่ทำจากแมลงในสหรัฐฯ อาจมีสัดส่วนไม่ถึง 2 เปอร์เซนต์ แต่บรรดาผู้ผลิตอาหารสัตว์ก็กำลังมองหาแหล่งโปรตีนทางเลือกที่ใหม่และดีกว่าเดิม เขาคาดหวังจะมีการขยายตัวของตลาด แต่ดูเหมือนโปรตีนจากจิ้งหรีดจะยังครองความนิยมสูงสุด และหาซื้อได้ง่ายสุด ทั้งนี้ สัตว์เลี้ยงไม่เกี่ยงอาหารอยู่แล้ว ตลาดจะโตหรือไม่จึงขึ้นอยู่กับเจ้าของสัตว์เลี้ยงว่าจะเปิดใจยอมรับการกินแมลงได้มากแค่ไหน   
 

ที่มา : 
www.cnbc.com/2021/06/12/more-pets-eating-insect-food-to-fight-climate-change-for-owners.html
https://issuu.com/petcompanionmag/docs/pcm_spr21.web/s/11893640
 
 
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจ Startup