Starting a Business

Aumza จากแม่ค้าสู่ธุรกิจถ่ายรูปสินค้าที่จับทางคนขายออนไลน์จนรายได้ 6 หลัก!

   

      คงปฏิเสธได้ยากว่าการขายของออนไลน์ในทุกวันนี้มีเรื่องของรูปถ่ายเป็นหัวใจสำคัญและนั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมธุรกิจรับถ่ายรูปสินค้าจึงมาแรงแบบแซงทางโค้งและสร้างรายได้แตะ 6 หลักให้แก่ใครบางคน! 

 

 

     วันนี้เราจะพาคุณไปพูดคุยกับผู้บุกเบิกธุรกิจรับถ่ายรูปสินค้าสไตล์ไอจีที่มาตั้งแต่ยุคเริ่มต้น อุ้ม-พรสวรรค์ ภูเรียนคู่ แม่ค้าออนไลน์ที่ผันตัวมารับถ่ายรูปสินค้าเพราะเข้าใจหัวอกของคนขายของว่าเขาต้องการอะไร อยากได้ภาพแบบไหน ทำให้ Aumza studio เติบโตอย่างรวดเร็วจนสร้างรายได้หลักแสนต่อเดือน แม้จะต้องรอคิวนานเป็นเดือน ลูกค้าก็ยอมรอ เป็นเพราะอะไร ตามเราไปคุยกับเธอกัน 

     อุ้มเล่าย้อนถึงการเป็นแม่ค้ามาเกือบ 9 ปีที่แล้ว โดยเธอเป็นตัวแทนของแบรนด์และได้มองเห็นว่าการขายสินค้านั้นต้องมีการใช้รูปโพสต์ แต่จะทำอย่างไรให้รูปของเธอแตกต่าง นั่นเป็นจุดเริ่มต้นเล็กๆ ของการถ่ายรูปสินค้าของเธอ

     “ก่อนหน้านี้เราเป็นแม่ค้า แล้วขายของมันต้องใช้รูป แต่ย้อนกลับไปมันยังไม่เป็นที่นิยมหรือก็รอใช้รูปจากแบรนด์อย่างเดียว แล้วเรารู้สึกว่าเราชอบกล้อง เลยเริ่มจากการซื้อกล้องตัวเล็กๆ มาลองเล่นก่อน ฝึกถ่าย กลายเป็นว่าพอเราถ่ายภาพ ทีมเราก็จะมีรูปมาเรื่อยๆ ทีมอื่นไม่มีรูปเลย อุ้มก็จะถ่ายภาพให้ตัวแทนอาทิตย์ละ 1 ครั้ง เขาก็สามารถเอาไปใส่เครดิตตัวเองได้ คนที่จะมาสมัครตัวแทนก็จะมองว่าเขาจะอยู่ทีมไหนดีที่ช่วยซัพพอร์ตเขา ทีมเรากลายเป็นจุดเด่นของแบรนด์”

 

 

     จากการถ่ายรูปสินค้าของตัวเองในวันนั้น สู่การรับถ่ายรูปสินค้าให้คนอื่นในวันนี้ เริ่มมาจากที่ Facebook ปิดกั้นการมองเห็น ทำให้เธอหนีมาสู่สนาม Instagram และมองว่าในแพลตฟอร์มนี้ “รูปคุมโทน” คือสิ่งสำคัญ นี่คือจุดที่ทำให้คนอื่นเริ่มมองเห็นสไตล์การถ่ายรูปที่เป็นเอกลักษณ์จนมาจ้างให้เธอถ่ายรูปให้ 

     “การที่เราถ่ายรูปเป็นอาชีพเริ่มจากตรงที่เรารู้สึกว่า Facebook ปิดกั้น ขายของโพสต์ตรงๆ ไม่ได้แล้ว เลยลองไปเล่น Instagram ดีกว่า 2ปีที่แล้ว เราก็ลองโพสต์ใน Instagram ถ่ายรูปสไตล์เราลงไปสัก 2 เดือน มีน้องคนหนึ่งแอดไลน์ที่เราขายของมาว่าชอบผลงานจังเลย รับถ่ายภาพไหม ตอนนั้นที่ถ่ายรูปมา 9 ปี ไม่เคยรู้ว่ามีแบบนี้ด้วยเหรอ เราก็เลยลองทำ นี่เป็นลูกค้าคนแรกของอุ้ม พอเรารู้ว่ามันทำได้ก็ลองมาดู ตอนนั้นมีคนรับถ่ายภาพแค่ 2-3 คนเอง ที่ไม่ใช่ภาพแบบสตูดิโอใหญ่ๆ เหมือนเราถ่ายเก่งแล้วมารับ อุ้มเลยคิดว่า งั้นเราลองทำดูดีกว่า โชคดีที่เราเป็นแม่ค้า เราจะเข้าใจคนที่มาจ้าง รู้ว่าเราควรโชว์ตรงไหนของผลิตภัณฑ์ พอเป็นแม่ค้ามาถ่ายรูปเองเลยรู้ใจลูกค้าที่มาจ้าง”

 

 

     จุดเด่นของ Aumza Studio ที่ทำให้ลูกค้าแบรนด์ติดใจ จนต้องรอคิวนานเป็นเดือน นอกจากที่อุ้มจะมีความเข้าใจความต้องการของลูกค้าเป็นพิเศษแล้ว นั่นเป็นเพราะสไตล์ของรูปที่เธอเรียกว่า “สไตล์บล็อกเกอร์รีวิวสินค้า” ไม่เหมือนรูปขายของกันแบบโต้งๆ ซึ่งจับกลุ่มลูกค้าที่มาซื้อของได้ดีกว่า

     “โจทย์ของร้านเราคือไม่ใช่รูปแบบ Official รูปของอุ้มจะต่างจากภาพของสตูดิโอใหญ่ๆ เพราะเราชอบดูรีวิวของบล็อกเกอร์ จะมีความสบายๆ เราเลยรู้สึกว่านี่แหละจุดเด่นของร้านเรา การถ่ายภาพของอุ้มจะเรียกมันว่า สไตล์บล็อกเกอร์รีวิวสินค้า เราอยากสื่อสารว่าเรามาพูดคุยกับลูกค้าผ่านรูปภาพ บอกเล่าผ่านรูปภาพ ฉันมารีวิวให้เธอดูนะ ไม่ได้มาขายตรงๆ นี่คือคีเวิร์ดของเรา อีกโทนที่เด่นๆ คือคาเฟ่ ให้ความรู้สึกว่าเอาสินค้าไปถ่ายที่คาเฟ่เอง กลายเป็นว่าภาพแบบนี้มันเข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น พอมีร้านที่มารับถ่ายภาพแนวนี้ แต่มีภาพคมชัด ไฟล์มีคุณภาพ เขาเลยเลือกที่จะมาจ้าง”

     นอกจากนี้ ทาง Aumza Studio ยังจับกลุ่มแบรนด์ใหญ่ที่มีการจัดตั้งบริษัท ด้วยการออกใบกำกับภาษีให้ นี่เป็นอีกหนึ่งจุดแข็งของธุรกิจจนมีลูกค้าต่อคิวถ่ายรูปกับเธอยาวเป็นเดือน และสร้างรายได้ให้เธอแตะ 6 หลัก

     “บางเดือนก็มี 70 งาน 80 งาน หรือ 90 งานเลยที่เรารับ บางทีลูกค้ารอคิวนานสุด 2-3 เดือน รายได้เดือนหนึ่งประมาณ 3-4 แสน แต่ขึ้นอยู่กับว่าเราจะรับงานอย่างไร เดือนนี้เราแพลนว่าจะไปเที่ยวภาคเหนือ 10 วัน ก็อาจจะรับงานน้อยลงหน่อย แต่เดือนไหนที่รับงานเต็มๆ ก็ได้ประมาณ 3-4 แสน ”

 

 

     เพราะรายได้ดีบวกกับการทำงานอยู่ที่บ้านได้ ทำให้อาชีพรับถ่ายรูปสินค้านั้นมาแรงสุดๆ ซึ่งนี่เป็นโอกาสของอุ้มอีกหนึ่งทางในการรับสอนถ่ายรูปสินค้าโดยเฉพาะ และมีคนมาเรียนกับเธออย่างต่อเนื่องจนสามารถเปิดร้านถ่ายรูปของตัวเองได้

     “เราเริ่มเปิดคลาสสอน ตอนนี้เป็นออนไลน์ มีนักเรียนมาเรียน 80 คน ราคาเราก็ไม่ได้ถูกด้วยนะ ช่วงต้นปีก็มีสอนแต่ตอนนั้นเป็นการมาเจอตัวกัน แต่ตอนนี้คือออนไลน์ 100% ตอนนี้มันมาแรงมาก อุ้มมองว่าเป็นโอกาส ไม่ได้มองว่าเป็นคู่แข่ง แม่ค้าออนไลน์มีเยอะมากๆ อย่างโควิดมา คนที่เคยเป็นช่างภาพก็ต้องผันตัวเองมา เพราะออกไปถ่ายคนไม่ได้ นักเรียนอุ้มบางคนก็เป็นตากล้องอยู่แล้ว เขาทำได้หมด ตั้งค่ากล้อง จัดไฟ แต่เขามาเรียนเพราะไม่รู้จะเจาะกลุ่มลูกค้าใน Instagram ยังไงก็มี”

     กว่า 2,000 แบรนด์ ที่อุ้มเคยถ่ายรูปให้ นี่เป็นจำนวนที่การันตีได้ว่าเธอยืนหนึ่งในวงการรับถ่ายรูปสินค้าบน Instagram และสิ่งที่ทำให้เธออยู่ได้นานขนาดนี้นั่นเป็นเพราะคุณภาพของงานรวมถึงความเข้าใจในสิ่งที่ลูกค้าต้องการได้จริงๆ 

     “สิ่งที่อุ้มเห็นตอนนี้ หลายคนมีจุดบอด จุดพลาดที่เราเคยเป็นหมดเลย สังเกตว่าแค่มีกล้อง ถ่ายภาพเป็น ก็รับงานได้ แต่จริงๆ มันต้องเริ่มจากการตั้งค่าเป็นก่อนเลย เราเคยพลาด เช่น เราอยากให้หน้าชัดหลังเบลอ แต่กลายเป็นขอบสินค้าของลูกค้าหาย แสงจ้าเกินไป สินค้าละลายไปกับฉากหลัง เราเคยโดนคอมเมนต์มา เพราะฉะนั้น คุณภาพคือสิ่งสำคัญที่จะทำให้คุณอยู่ได้นานหรือไม่ได้นาน ความคมชัดของภาพ อีกอย่างคือเรื่องสไตล์ เราต้องมีสไตล์เป็นของตัวเองแล้วลูกค้าจะเข้ามาแน่นอน กว่าที่อุ้มจะหาสไตล์เจอก็ลองผิดลองถูกมาเยอะ แต่สุดท้ายมุมมองของเราและสไตล์ของเราจะดึงลูกค้าไว้ได้”




www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจ Startup