Text : flymetothemoon

     หลายคนอาจเคยยอมแพ้เพราะผลลัพธ์ไม่เป็นแบบที่หวังแต่ไม่ใช่สำหรับผู้ประกอบการกลุ่มนี้ ซึ่งเป็น 5 ธุรกิจที่เคยร่วมแข่งขันในรายการ Shark Tank แล้วถูกฉลามนักลงทุนปฏิเสธ แต่พวกเขาก็ไม่ยอมแพ้เดินหน้าหาทางพัฒนาธุรกิจจนประสบความสำเร็จ มีกำไรมหาศาล 

     ก่อนจะดูแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จ ขอแนะนำรายการ Shark Tank รายการเรียลลิตี้ที่ผู้ประกอบการที่ต้องการเงินทุนหรือคอนเนคชั่นจะได้รับโอกาสให้นำเสนอธุรกิจต่อหน้าเหล่าฉลาม ซึ่งก็คือกลุ่มผู้ประกอบการและกลุ่มนักลงทุนที่มีชื่อเสียงและประสบความสำเร็จ หากได้ความสนใจจากเหล่าฉลามผู้ประกอบการก็จะได้เงินทุนตามที่ตกลงเพื่อนำไปพัฒนาธุรกิจต่อไป

     ปัจจุบันรายการ Shark Tank ทำข้อตกลงกับผู้ประกอบการมากกว่า 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ รายการ Shark Tank ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากและมีการซื้อลิขสิทธิ์การถ่ายทำจากหลายประเทศรวมถึงประเทศไทย   

 

 

1. Ring

     Jamie Siminoff ผู้ก่อตั้ง Ring บริษัทผลิตกริ่งประตูอัจฉริยะที่เชื่อมต่อ WiFi ได้และติดตั้งกล้อง HD อุปกรณ์ตรวจจับการเคลื่อนไหว ไมโครโฟน ลำโพงสำหรับการสื่อสารไว้กับกริ่งประตูทำให้เจ้าของบ้านสามารถมองเห็นคนกดกริ่งได้ผ่านทางโทรศัพท์ Jamie ได้ขอเงินลงทุน 700,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ แลกกับหุ้น 10% แต่ไม่มีชาร์คคนไหนสนใจร่วมลงทุน แต่หลังออกรายการเพียงเดือนเดียว Ring สามารถทำกำไรได้มากถึง 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ต่อมา Jamie ได้ขายกิจการต่อให้ Amazon เป็นจำนวนเงิน 1 พันดอลลาร์สหรัฐฯ

 

 

2. Copa Di Vino

     James Martin ผู้ก่อตั้ง Copa Di Vino บริษัทผลิตไวน์ในขวดพลาสติกขนาดเล็กที่มีรูปร่างคล้ายแก้วไวน์ มีฝาปิดป้องกันไวน์หกเหมาะสำหรับการดื่มครั้งเดียว James ได้เข้าร่วมรายการถึง 2 รอบ ในรอบแรกเขาได้ขอเงินลงทุน 600,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อแลกกับหุ้น 30% เขาถูกฉลามนักลงทุนปฏิเสธ แต่ด้วยยอดขายที่เติบโตอย่างรวดเร็วจาก 600,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ เป็น 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ภายในปีเดียวทำให้ James ถูกเชิญมาร่วมรายการอีกครั้ง ในครั้งนี้ฉลาม Cuban, O'Leary, และ Herjevic ได้ตกลงกับข้อเสนอที่ James เคยเสนอไว้เมื่อคราวก่อนแต่ James กลับปฏิเสธข้อเสนอนี้ไป ต่อมาในปี 2558 Copa Di Vino  มียอดขายถึง 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ปัจจุบันบริษัท Copa Di Vino ได้ถูกซื้อกิจการโดย Splash Beverage Group

 

 

3. Kodiak Cakes

     Joel Clark และ Cameron Smith ผู้ก่อตั้ง Kodiak Cakes บริษัทผลิตแป้งแพนเค้กที่มีส่วนประกอบของธัญพืชเต็มเมล็ดไม่ขัดสีและโปรตีนเสริมทำให้คนที่รับประทานอิ่มนานขึ้น Joel Clark และ Cameron Smith ได้ขอเงินลงทุน 500,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ แลกกับหุ้น 10% แต่ชาร์คได้ปฏิเสธเพราะปัจจุบันวงการอาหารสุขภาพมีการแข่งขันสูง ภายหลังการออกอากาศเพียง 6 สัปดาห์ Kodiak Cakes มีรายได้เพิ่มถึง 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2559 Kodiak Cakes ได้รับเงินลงทุนจาก Sunrise Strategic Partners พวกเขาได้ขยายธุรกิจและสร้างกำไรได้มากกว่าที่พวกเขาคาดการณ์ไว้ โดยตอนที่ Joel Clark และ Cameron Smith ออก Shark Tank พวกเขาคาดการณ์ว่าภายในปี 2561 จะมีรายได้ 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แต่ในความเป็นจริง Kodiak Cakes ทำรายได้ได้ถึง 54 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปัจจุบัน Joel Clark และ Cameron Smith ได้ขายกิจการแล้ว

 

 

4. Hammer and Nails

     Michael Elliot เจ้าของธุรกิจ Hammer and Nails เป็นร้านทำเล็บสำหรับผู้ชาย ร้าน Hammer and Nails มีการออกแบบให้เข้ากับบุคลิกของผู้ชายส่วนใหญ่ทำให้ลูกค้าผู้ชายสามารถผ่อนคลายในสภาพแวดล้อมที่คุ้นชิน ไม่ว่าจะเป็นเก้าอี้หนังขนาดใหญ่ การตกแต่งที่มีแสงน้อยพร้อมทีวีที่เปิดให้รับชมรายการระดับพรีเมียมทำให้ลูกค้าผู้ชายรู้สึกเหมือนอยู่บ้าน Michael Elliot ได้ขอเงินลงทุน 200,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ แลกกับหุ้น 20% แต่ก็ไม่มีฉลามนักลงทุนคนไหนสนใจ ภายหลังมีนักลงทุนที่ได้ดูรายการสนใจและร่วมลงทุนกับ Michael เขาประสบความสำเร็จ Michael ขยายบริการให้ครอบคลุมมากขึ้นตั้งแต่โกนหนวดและตัดผม ในปี 2565 Hammer and Nailsl มีสาขาแฟรนไชส์ถึง 41 แห่ง จากปี 2564 ที่มีอยู่ 26 แห่งและคาดว่าจะขยายสาขาแฟรนไชส์เพิ่มอีกในอนาคต 

 

 

5. BedJet

     Mark Aramli เจ้าของธุรกิจ BedJet ธุรกิจผลิตเครื่องควบคุมอุณหภูมิของเตียงนอน ผู้ใช้สามารถควบคุมอุณหภูมิได้ผ่านแอปฯ และสามารถปรับแยกอุณหภูมิระหว่าง 2 ฝั่งของเตียงนอนได้ด้วย Mark ได้ขอเงินลงทุน 250,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ แลกกับหุ้น 10% แต่ด้วยตอนที่ Mark ออกรายการ BedJet ยังอยู่ในขั้นตอนการผลิต ยอดขายยังไม่มีให้เห็นอย่างชัดเจนทำให้ไม่มีฉลามนักลงทุนคนไหนสนใจ ในปี 2563 BedJet มียอดสั่งซื้อถึง 100,000 เครื่อง ในปี 2565 BedJet ทำรายได้ถึง 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และวางแผนที่จะผลิต BedJet 3   

ที่มา : 

https://finance.yahoo.com/news/shark-tank-rejects-became-super-110008433.html?guccounter=1&guce_referrer=aHR0cHM6Ly93d3cuZ29vZ2xlLmNvbS8&guce_referrer_sig=AQAAAJxtC-kunzMi5shEU_W7g91wZtnX0Tz9tM42yUZpbN8CrWlwh_plyc1EmmIkfZIRInhfNMNMxdHkM6nRFgdmDJHURSmwaX3pq24an0StoZdJjgXht_lb6m4ezsaBBYUe7RIAdrBtv98YfPol2tGTQydkHpwcHUNcsFj7PL7OH07O

 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจ Startup