Starting a Business

Sugarfhen ร้านเค้กออนไลน์ที่มีแต่คนรุมซื้อ ออกบูธที่ไหนขายหมดภายใน 3 ชั่วโมง

 

Text : Yosita T. 

     การเปิดร้านขายเค้ก ดูเป็นความฝันและความสุขของใครหลายๆ คน รวมไปถึง เฟ๋น - สุภาณี กองไพบูลย์ ผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่ชื่นชอบการทำเค้กเป็นชีวิตจิตใจ จนวันหนึ่งได้เปิดร้านขายเค้กเป็นของตัวเองที่มีชื่อว่า Sugarfhen ซึ่งเป็นร้านที่ขายจากช่องทางออนไลน์ตั้งแต่แรกเริ่ม จนถึงปัจจุบันก็มีลูกค้าประจำเป็นทั้งคนไทยและชาวจีน และไม่ว่าเค้กของ Sugarfhen จะไปออกบูธที่งานไหน ลูกค้าก็จะไปรุมซื้อจนเค้กขายหมดภายใน 3 ชั่วโมงเท่านั้น ผู้หญิงเพียงคนเดียวที่สามารถพาให้แบรนด์เค้กของตัวเองเติบโตมาได้ขนาดนี้ ภายในเวลาเพียงแค่ 2 ปี เธอทำได้ยังไง ไปร่วมพูดคุยกับเธอกัน

Sugarfhen ไม่ได้ขายเค้ก แต่ขายประสบการณ์การกินเค้กใหม่ๆ

     Sugarfhen เป็นร้านขายเค้กออนไลน์ที่เริ่มต้นจากที่เฟ๋นและครอบครัวชอบกินเค้กกาโตว์มากๆ แต่ค่อนข้างหาซื้อยากเพราะร้านประจำปิดตัวไป เธอจึงเริ่มหาสูตรและฝึกทำเองจนได้รสชาติที่อร่อย เพื่อนๆ ก็สั่งออร์เดอร์ไปฝากคนรู้จัก จนหลายคนเริ่มติดใจฝีมือการทำเค้กของเธอ หลังจากนั้นก็เลยลองทำขายด้วยการเปิดเพจขายทางออนไลน์ ปรากฏว่าแค่เริ่มต้นก็ปังแล้ว มีลูกค้าเข้ามาสั่งซื้อไม่ขาดสายแถมกลายเป็นลูกค้าประจำด้วย ถึงแม้ว่าจะเพิ่งเริ่มขาย แต่เฟ๋นก็เลือกที่จะตั้งราคาสูงๆ ตามคุณภาพของวัตถุดิบที่ใช้ หลายคนอาจคิดว่าการตั้งราคาสูงอาจทำให้ลูกค้าไม่กล้าซื้อ แต่สำหรับเฟ๋น เธอมีความมั่นใจในฝีมือของเธอ และมั่นใจในคุณภาพ วัตถุดิบต่างๆ ที่นำมาให้ลูกค้าได้กิน เธอมั่นใจว่าลูกค้าจะต้องไม่เสียดายเงิน แถมยังจะต้องติดใจจนกลับมาซื้ออีกแน่นอน เพราะความตั้งใจของเธอไม่ใช่แค่ขายเค้กเหมือนร้านทั่วไป แต่อยากมอบประสบการณ์รสชาติ รสสัมผัสใหม่ๆ ให้กับลูกค้านั่นเอง

     “พอเราเริ่มรับออร์เดอร์แบบจริงจัง ก็มีคนสนใจเยอะมาก ตอนแรกๆ ก็มีขายบราวนี่ด้วยสลับกันไปกับเค้ก คือลูกค้าที่ซื้อไปทุกคนจะรู้ว่าร้านเราใช้แต่ของพรีเมียม ใช้สิ่งที่ดีที่สุด ลูกค้าหลายคนจะติดตามเราในเฟซบุ๊คส่วนตัวด้วย เวลาเราลงวีดิโอหรือรูปภาพทำบราวนี่ เค้าก็จะเห็นวัตถุดิบที่เราใช้ พอเปิดรับออร์เดอร์บราวนี่ตอนนั้นก็ปังมาก บางคนสั่งไป 50 กล่อง 80 กล่อง แล้วประเด็นคือเราขายแพงมากนะ กล่องละ 150 ลูกค้าก็ยอมจ่าย เพราะของร้านเรามันอร่อยจริงๆ มั่นใจมากคือมาเถอะ ใครจะใช้เนยตัวไหน เรามั่นใจกับเนยที่ใช้มากเพราะไปหาแบบดีที่สุดของที่สุดมาเลย บางคนงงเลยขายราคานี้ได้ไง เรายอมขายราคานี้นะเพราะอยากให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ใหม่ เค้กมันมีขายเยอะมาก แต่เราไม่ได้อยากขายเค้กอย่างเดียว เราอยากขายประสบการณ์มากกว่า แบบว่ากินแล้วมันไม่มีแป้ง ไม่มีถั่วแต่ทำไมอร่อยขนาดนี้ ทำไมมันหอมเนยจัง อะไรประมาณนี้ นี่คือสิ่งที่เราตั้งใจ แล้วลูกค้าชอบเราก็แฮปปี้”

ไปออกบูธแต่ละครั้งใช้เวลาแค่ 3 ชั่วโมงก็ขายหมดเกลี้ยง

     การไปออกบูธแต่ละครั้งบางร้านต้องใช้เวลาทั้งวันกว่าสินค้าจะหมด หรือบางครั้งก็ไม่หมดด้วยซ้ำ แต่สำหรับ Sugarfhen ใช้เวลาแค่ 3 ชั่วโมงเท่านั้นก็สามารถเก็บของกลับบ้านไปเติมสต๊อกวันต่อๆ ไปได้แล้ว นี่อาจเป็นเครื่องพิสูจน์ว่า Sugarfhen เป็นร้านเค้กที่ไม่ได้มาเล่นๆ และลูกค้าทุกคนรับรู้ถึงความคุ้มค่าของเงินที่จ่ายไปว่าพวกเขาจะต้องได้ของที่มีคุณภาพกลับมา

     “ไปออกบูธมาล่าสุดเริ่มขาย 10 โมง หมดตั้งแต่บ่ายโมง หมดปุ๊บรีบกลับมาทำต่อเพื่อเอาไปขายวันถัดไป เราเพิ่มของไปเท่าไหร่ก็หมดไวอีก เพราะคนที่เค้าเคยมาชิมวันแรกเค้ารู้ละว่าซื้อไม่ทัน วันถัดมาก็รีบมาจองกันไว้ตอนเช้าไปเดินงานเสร็จเค้าก็ค่อยมารับกลับไป คือคนที่เป็นแฟนคลับร้านเราอยู่แล้วก็จะมีปัญหาเรื่องอยู่ไกลกว่าจะได้กินต้องรอขนส่ง พอร้านเราไปออกงานแล้วเค้าได้ไปเจอร้านเราพอดีก็จะซื้อทีละเยอะๆ เลย บางคนก็เหมาหมดเลยนะ เพราะเค้กร้านเรามันไม่เหมือนใครจริงๆ ไม่ซื้อไม่ได้ ไม่ซื้อเช้านี้บ่ายเดินกลับมาอดกินละ มันเกลี้ยง”

มัดใจลูกค้าชาวจีนด้วยเค้กทุเรียนจนกลายเป็นลูกค้าประจำ

     หลังจากที่ขายออนไลน์ได้สักพัก เฟ๋นเริ่มไปออกบูธตามงานต่างๆ เพื่อขยายฐานลูกค้า ทำให้ลูกค้ารู้จักร้าน Sugarfhen มากขึ้น ซึ่งการออกบูธครั้งนั้นไม่ได้ขยายฐานลูกค้าคนไทยเท่านั้น แต่ทำให้ได้ลูกค้าคนจีนเพิ่มมา ด้วยเมนูเค้กทุเรียน ตั้งแต่วันนั้นจนถึงปัจจุบัน Sugarfhen ก็มีลูกค้าประจำเป็นคนจีนที่ติดใจในรสชาติจนออร์เดอร์เค้กเข้ามาอยู่เสมอ

     “ปีที่แล้วไปออกงานมา จำได้เลยตอนนั้นยืนอยู่ที่ร้านแล้วได้ยินเสียงคนจีนกำลังเดินผ่านหน้าร้าน วิญญาณแม่ค้าเข้าสิงทันที เรารีบพรีเซนต์เลยว่าขายอะไร แล้วก็เอาเค้กทุเรียนให้เค้าลองชิม พอชิมเข้าไปเท่านั้นแหละรีบเรียกเพื่อนมารุมซื้อกันกลับไปคนละตั้ง 4 กล่อง ด้วยความที่คนจีนจะชอบกินทุเรียนกันมากๆเราขายดีมากจนตกใจ เพราะเวลาไปออกงานพวกนี้คนไทยที่ไม่ใช่ลูกค้าประจำจะแวะซื้อกันคนละกล่องด้วยราคาที่ค่อนข้างสูง หลังจากนั้นก็มีติดต่อกลับมาสั่งออร์เดอร์อีกเยอะเลย แต่ออเดอร์หลักๆจะเป็นคนไทยเชื้อสายจีนที่เป็นเจ้าของธุรกิจในไทย ถ้าเป็นช่วงเทศกาลสำคัญอย่างตรุษจีนเค้าก็จะสั่งไปเยอะๆ เอาไปแจกลูกค้า แจกญาติๆ ซึ่งเฟ๋นคิดว่าการไปออกงานของเรามันก็ง่ายต่อผู้บริโภคนะ เพราะลูกค้าที่ชอบกินขนม ชอบเค้กอร่อยๆ เค้าก็จะได้มาเจอประสบการณ์ใหม่ๆเจอร้านใหม่ๆ แล้วอย่างร้านเราที่ขายแต่ในออนไลน์ พอลูกค้าที่ไม่เคยรู้จักได้มาลองชิมเค้าก็จะเข้าใจสิ่งที่เราพยายามทำ แล้วเราก็จะได้ลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้น มันคือการขยายโอกาสออกไป ยังไงก็คิดว่าการได้มีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้ายังดีอยู่มันยังใช้ได้ผลสำหรับธุรกิจที่เราทำ”

ค้นพบความสุขที่มาพร้อมกับอาชีพนี้

     เพราะไม่ใช่ทุกคนที่จะมีความสุขและรักอาชีพที่ตัวเองทำ เฟ๋นก็เคยเป็นคนนั้น คนที่ทำงานประจำแล้วรู้สึกเบื่อ จนได้มาทำเค้กจริงจังเปิดร้านเป็นของตัวเอง เฟ๋นบอกกับเราว่านี่คือความสุขที่แท้จริง ซึ่งกว่าจะมาค้นพบความสุขนี้ เธอก็หลงทางมานาน การได้มีร้านเค้กเป็นของตัวเองจึงเป็นสิ่งที่เข้ามาเติมเต็มชีวิตและจิตใจให้กับเธอ ถึงแม้จะเหนื่อยและปวดเมื่อยบ้างแต่ก็ไม่เคยเบื่อและอยากทิ้งอาชีพนี้ได้เลยสักวินาทีเดียว

     “ย้อนไปก่อนจะมาขายเค้ก เราก็เคยทำงานประจำมา 2 ปีนะแล้วรู้สึกมันตันๆ เบื่อๆ พอเก็บเงินได้สักพักก็เหมือนที่หลายคนอยากเป็นเนอะ อยากเกษียณ ไปท่องโลกก็เลยลาออก ไปท่องเที่ยวถ่ายรูปต่างประเทศจริงจังจนได้ลงคอลัมน์ของ A DAY ด้วย ไปแข่งถ่ายรูปอะไรต่างๆ นานา สักประมาณ 4-5 ปี ก็เริ่มดังอยู่ในวงการท่องเที่ยวแต่ก็กลับมารู้สึกตันๆ อีกแล้ว เหมือนเราหลงทาง แล้วพอมาทำเค้กทำขนมปังมันเหมือนได้บำบัดจิตใจไปด้วย ตอนทำจะรู้สึกดีมาก ตอนทำกินเล่นๆ มันก็ยังรู้สึกหลงทางอยู่นะ แต่พอมาทำขายจริงจังแล้วได้ไปส่งเค้กให้ลูกค้าเองได้เห็นลูกค้ามีความสุขที่ได้กินเค้กร้านเรา มันเหมือนถูกเติมเต็มเลยรู้สึกว่านี่แหละคือสิ่งที่ใช่ อ๋อ เราเกิดมาเพื่อสิ่งนี้สินะ เราคิดว่าเราชอบสิ่งนี้จริงๆเพราะไม่เคยรู้สึกเบื่อเลย เราเคยได้ยินประโยคที่บอกว่า ทำงานให้เหมือนเป็นงานอดิเรก คือทำงานที่ตัวเองรู้สึกเอ็นจอยที่ได้ทำซึ่งตอนฟังเราก็ไม่เข้าใจหรอก มันจะไปทำได้ไงก็มันคืองาน แต่พอเราเจอแล้วเราก็รู้สึกว่าไม่ตะขิดตะขวงใจกับมันเลยว่าจะต้องนอนเที่ยงคืน หรือหมกมุ่นอยู่กับการหาสูตร เรารู้สึกว่ามีความสุข แล้วยิ่งสิ่งที่ทำแล้วมีความสุขมันสร้างเงินให้เราได้มันก็ยิ่งใช่หนักเข้าไปอีกนะ เลยคิดว่าธุรกิจเราก็น่าจะเติบโตไปได้มากกว่านี้ในอนาคต ตอนนี้กำลังซุ่มทำอีกหลายอย่าง ไอเดียเยอะมากอยากให้ทุกคนรอดูค่ะ”

 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจ Startup