ผลักดันซอฟต์แวร์ยกระดับเอสเอ็มอี

 


    
     ภายใต้ทิศทางในการก้าวสู่ Thailand 4.0 นั้น ภาครัฐได้หยิบยก Digital Economy เป็นแกนหลักในการผลักดันภาคธุรกิจของประเทศเพื่อเพิ่มขีดความสามารถ และยกระดับศักยภาพในการแข่งขันของประเทศให้ทัดเทียมกับประเทศชั้นนำของโลก

    
    และเพื่อเป็นการสนับสนุนการดำเนินงานตามแนวนโยบายดังกล่าว ภาครัฐจึงดำเนินการสนับสนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอี และ Startup Business ซึ่งเป็นหัวใจหลักในการสร้างฐานเศรษฐกิจนวัตกรรมในหลาย ๆ ด้าน เพื่อให้ผู้ประกอบการเหล่านี้สามารถเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง


    หนึ่งในมาตรการสนับสนุนที่สำคัญของภาครัฐ คือ การสนับสนุนให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีและ Startup Business ได้ใช้เทคโนโลยีช่วยในการดำเนินธุรกิจ โดยการผลักดันให้มีมาตรการลดภาษีสำหรับผู้ประกอบการซอฟต์แวร์ที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายซึ่งคาดว่าจะส่งผลให้ซอฟต์แวร์มีราคาถูกลง เพื่อจูงใจให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีหันมาใช้ซอฟต์แวร์ที่ถูกลิขสิทธิ์มากขึ้น


การยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับการใช้ซอฟต์แวร์

    ภายใต้การผลักดันดังกล่าวภาครัฐระบุว่าผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่ซื้อหรือจ้างทำซอฟต์แวร์จากผู้ประกอบการที่ขายหรือรับจ้างทำซอฟต์แวร์ หรือใช้บริการซอฟต์แวร์จากผู้ประกอบการที่ให้บริการซอฟต์แวร์ ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนจากสำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือซิป้า เพื่อนำมาใช้ในการประกอบกิจการในรอบระยะเวลาบัญชีที่กำหนด มีสิทธิ์นำค่าใช้จ่ายมาหักเป็นรายจ่ายในรอบระยะเวลาบัญชีดังกล่าวได้เต็มจำนวน หรือ 100% ของมูลค่าที่ซื้อหรือจ้างทำซอฟต์แวร์หรือของมูลค่าบริการที่ใช้แต่ไม่เกินค่าใช้จ่ายสูงสุดที่กระทรวงการคลังร่วมกับซิป้าในสังกัดของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเป็นผู้กำหนด

    ทั้งนี้ การซื้อหรือการจ้างทำซอฟต์แวร์ หรือการใช้บริการซอฟต์แวร์ ไม่นับรวมค่าบำรุงรักษารายปีและค่าใช้จ่ายที่ไม่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการใช้ซอฟต์แวร์โดยสิทธิประโยชน์ในการหักลดค่าใช้จ่านั้น สามารถเลือกใช้สิทธิได้เพียงครั้งเดียวใน 3 รอบปีบัญชีคาดว่าจะสามารถผลักดันและเริ่มใช้ในปี 2560 

    ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่จะได้รับสิทธิประโยชน์ทางด้านภาษีจะต้องเป็นบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่มีทุนที่ชำระแล้วในวันสุดท้ายของรอบระยะเวลาบัญชีไม่เกิน 5 ล้านบาท และมีรายได้จากการขายสินค้าและการให้บริการในรอบระยะเวลาบัญชีไม่เกิน 30 ล้านบาท หรือตามที่กรมสรรพากรกำหนดทั้งนี้ซอฟต์แวร์หรือแอพพลิเคชันที่ซื้อหรือจ้างทำหรือใช้บริการจะต้องเป็นซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการบริหารจัดการธุรกิจด้านต่าง ๆ เช่น ระบบบัญชี ลูกค้าสัมพันธ์ ระบบคลังสินค้า การผลิต เงินเดือน การทำเว็บไซต์ e-Commerce ระบบเครือข่าย เป็นต้น

    ตัวอย่างการใช้สิทธิประโยชน์ของผู้ประกอบการเอสเอ็มอีกรณีซื้อหรือจ้างทำซอฟต์แวร์สมมติว่าผู้ประกอบการเอสเอ็มอีมีการซื้อหรือจ้างทำซอฟต์แวร์มูลค่า 100,000 บาท ในวันที่ 1 มกราคม 2559 รอบระยะเวลาบัญชีของกิจการคือ 1 มกราคม 2559-31 ธันวาคม 2559 คิดค่าตัดจำหน่าย (ค่าเสื่อมราคา) 10% ต่อปี เท่ากับ 10,000 บาทต่อปี โดยได้สิทธิประโยชน์ทางภาษีไม่เกิน 200,000 บาท


 
  กรณีทั่วไป (บาท)
 
กรณีใช้สิทธิประโยชน์ (บาท)
 
รายได้
 
3,000,000 3,000,000
ต้นทุนขาย
 
2,400,000 2,400,000
กำไรขั้นต้น
 
600,000 600,000
ค่าใช้จ่าย ฯลฯ
 
300,000 300,000
ค่าตัดจำหน่ายซอฟต์แวร์
 
10,000 10,000
กำไรสุทธิ
 
290,000 290,000
หักค่าใช้จ่ายในการซื้อซอฟต์แวร์ - 100,000

กำไรสุทธิที่ต้องเสียภาษี

 

290,000
 

190,000
 


    มาตรการในการช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอีนั้น นอกจากจะเป็นการผลักดันให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีก้าวสู่ Digital Economy แล้วยังเป็นการส่งเสริมผู้ประกอบการเอสเอ็มอีในกลุ่มอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ที่มีศักยภาพ ให้สามารถเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งอีกด้วย 

    ที่ผ่านมาประเทศไทยต้องสูญเสียเงินตราให้กับผู้ประกอบการซอฟต์แวร์จากต่างประเทศเป็นจำนวนมาก ยุทธศาสตร์ที่สำคัญอันหนึ่งของภาครัฐคือ ทำอย่างไรจึงจะผลักดันให้เกิดการพัฒนาซอฟต์แวร์ขึ้นใช้ในประเทศได้ ซึ่งซอฟต์แวร์ดังกล่าวควรจะมีมาตรฐานที่เทียบเท่าระดับสากล

    บทบาทดังกล่าวเป็นหน้าที่ของ สำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือซิป้า ที่ต้องมีมาตรการส่งเสริมและสนับสนุนให้เกิดการพัฒนาซอฟต์แวร์อย่างจริงจังขึ้นในประเทศ มาตรการลดภาษีเป็นเพียงมาตรการหนึ่งที่เกิดขึ้นจากนี้คงต้องจับตาดูอย่างต่อเนื่องว่าซิป้าจะผลักดันมาตรการอะไรออกมาอีก



www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี



 

RECCOMMEND: TECH

“จุลินทรีย์คึกคัก” นวัตกรรมกำจัดสารเคมีตกค้างบนดิน ตัวช่วยเกษตรกรประหยัดทุน ได้ธุรกิจยั่งยืน

จุลินทรีย์คึกคัก ตัวช่วยแก้ปัญหาสารเคมีตกค้าง สร้างความยั่งยืนให้กับเกษตรกร ด้วยฝีมือคนไทยจากบริษัท ไบโอม จำกัด บริษัทที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงตอบโจทย์การทำธุรกิจแบบยั่งยืน

เทคนิคขายของออนไลน์อย่างไร ให้สต็อกไม่จม ออร์เดอร์ไม่หลุด

ปฏิเสธไม่ได้ว่าช่วง Double day หรือเทศกาลต่างๆ เป็นโอกาสให้พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ได้ตักตวงออร์เดอร์มากกว่าช่วงเวลาปกติ แต่จะทำอย่างไรให้โอกาสเหล่านี้ไม่กลายเป็นวิกฤตสร้างปัญหาทางธุรกิจ เช่น สต็อกจม ส่งของไม่ทัน ทำให้สูญเสียลูกค้าในที่สุด

รู้จักเทรนด์ Hyper Automation ช่วย SME กำจัดงานซ้ำๆ น่าเบื่อให้หมดจากองค์กร

Automation หรือ "ระบบอัตโนมัติ" ไม่ใช่สิ่งใหม่ แต่อนาคตจะพัฒนาไปสู่ Hyper automation เพื่อช่วยกำจัดความยุ่งยากของการทำงานที่ซ้ำซากน่าเบื่อ และก่อนจะสายเกินไป เพื่อให้ธุรกิจตามทันเทคโนโลยี ลองมาทำความรู้จักกับเทรนด์นี้พร้อมกัน