ลูกคุณหนูตกสวรรค์ ทำเกษตรโดนหลอกจนช้ำ ใช้ AI ยกระดับ กาลครั้งหนึ่งฟาร์ม เป็นไอดอลของเด็กรุ่นใหม่

Text: จีราวัฒน์ คงแก้ว

 

 

     เมื่อลูกคุณหนู “ต๊อบ-รสิตา จรดล” ทายาทเจ้าของโรงงานผลิตอาหารและเครื่องดื่มที่มีรายได้หลักล้านบาทต่อวัน  ต้องเจอกับปัญหาธุรกิจครอบครัว เธอตัดสินใจแยกออกมาทำฟาร์มโคนมของตัวเอง ใช้ชื่อว่า “กาลครั้งหนึ่งฟาร์ม” บนพื้นที่นับ 4 ไร่ ใน อ.บำเหน็จณรงค์ จ.ชัยภูมิ โดยมีทุนทรัพย์มีความตั้งใจแต่ไม่มีความรู้ ประสบการณ์เลี้ยงวัวเท่ากับศูนย์ เลยเล่นใหญ่ เจ็บเยอะ โดนหลอกจนช้ำ มีแต่เสียงปรามาสว่าทำไม่เกิน 2 ปีเจ๊ง! ใครจะคิดว่าธุรกิจใต้คำดูถูกจะอยู่มาได้ถึง 7 ปี และยังกลายเป็นฟาร์มไอดอลของเด็กรุ่นใหม่ที่โตรุ่งด้วยเทคโนโลยีและ AI อีกด้วย  

 “โดนหลอกจนช้ำ” เมื่อคุณหนูตกสวรรค์มาทำธุรกิจ

     ปีแรกในการเริ่มต้นธุรกิจของแต่ละคนเป็นอย่างไร สำหรับรสิตาถ้าจะให้รีวิวชีวิตตัวเองในวันนั้น เธอสรุปสั้นๆ ว่า เล่นใหญ่ เจ็บเยอะ โดนหลอกจนช้ำ เป็นหมูให้เขาเชือดอยู่บ่อยครั้ง เพราะคำว่า “ลูกคุณหนู”  

    “ตอนเริ่มทำฟาร์มอายุ 25 ปี ตอนนั้นก็ซื่อๆ คิดว่าวงการเกษตรกรคงต้องช่วยๆ กัน ไม่มีอะไรน่ากลัวหรอก ปรากฏโดนหลอกสารพัด เริ่มตั้งแต่หาวัวเลย ความบันเทิงเริ่มจากตรงนั้น ตอนนั้นที่ฟาร์มมีแต่แม่วัวสาวท้อง คุณแม่ก็อยากให้ลูกได้เงินเร็วๆ เลยไปให้คนรู้จักช่วยหาซื้อวัวที่พร้อมรีดนมมาให้ ล็อตนั้นได้มา 10 ตัว ปรากฏสภาพแย่มาก เป็นวัวแก่ปลดระวาง และยังเป็นเต้านมอักเสบอีก มีตัวเดียวที่ไม่เป็นเต้านมอักเสบก็ให้น้ำนมแค่ 1.5-2 กิโลกรัมต่อวัน ซึ่งน้อยมาก เลยต้องตัดสินใจขายทิ้งทั้งหมด ตอนนั้นใช้เงินซื้อมา 500,000 บาท คัดออกขายได้แค่ 230,000 บาท ก็คือขาดทุนไปแล้ว 270,000 บาท ภายใน 3 วันต้องผลาญเงินแม่ทิ้งไปแล้วในพริบตา ยอมรับว่าช็อก...ช็อกมาก” เธอเล่า

     ถ้าคิดว่าเท่านี้หนักแล้ว บอกได้แค่นี่เป็นแค่...จุดเริ่มต้น เพราะเมื่อเคยตกเป็นหมูให้ใครเชือดครั้งหนึ่งแล้วก็มักจะถูกบอกต่อรอให้ใครต่อใครเข้ามาเชือดซ้ำอีกหลายครั้ง ตามเสียงลือเสียงเล่าอ้าง ฟาร์มนี้มีตังค์ ฟาร์มนี้หลอกง่าย เพราะคนทำมีเงิน แต่ไม่มีความรู้  

     สิ่งที่เธอต้องเจอมีตั้งแต่โดนหลอกขายวัว หลอกขายอาหารวัว หลอกรักษาวัว หลอกขายซากวัว หันไปทางไหนก็มีแต่ความหลอนความระแวงกลัวถูกหลอกซ้ำ เพราะไม่มีความรู้เกี่ยวกับวัวนมเลย ปีแรกเลยเป็นปีแห่งการถูกหลอก วัดใจว่าจะสู้ต่อหรือพอแค่นี้

     “มันเป็นเหมือนความคับแค้นใจบวกกับอะไรหลายๆ อย่าง  ช่วงที่เริ่มทำใหม่ๆ ใครมาเห็นก็จะมองว่าเราเป็นลูกคุณหนู เชื่อเถอะไม่รอดหรอก ภายใน 2 ปีเจ๊ง! ตอนนั้นก็บอกตัวเองว่า โอเค เดี๋ยวรู้กัน ใช้คำพูดที่เขาดูถูกมาเป็นแรงผลักดันพิสูจน์ตัวเองให้เขาเห็น”

เจ็บแล้วจำ อย่าโง่ซ้ำสอง ต้องทำเป็นทุกอย่าง

     รสิตาบอกเราว่า ปีแรกเงินออกอย่างเดียว จ่ายหนักจนเริ่มท้อ เลยไปปรึกษาผู้เป็นพ่อว่าจะทำยังไงต่อดี

     “พ่อจะเป็นคนที่ให้กำลังใจตลอด ไม่ว่าจะเจอกับเรื่องอะไรมาก็ตาม พ่อบอกว่าพ่อเองก็เคยโดนหลอก แต่พ่อเป็นคนเจอแล้วจำ เราจะไม่โง่ซ้ำสอง พ่อจะบอกตลอดว่า คนเราโดนแล้วต้องจำ ห้ามเจ็บซ้ำสอง ฉะนั้นเราต้องทำเองให้ได้ก่อน ใครจะได้หลอกเราไม่ได้”   

     นั่นเองที่ทำให้ลูกคุณหนูผู้มีความรู้ในการเลี้ยงวัวเท่ากับศูนย์ ตัดสินใจลงมาศึกษาหาความรู้ในการทำฟาร์มโคนมแบบจริงๆ จังๆ ทั้งการปรึกษาอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญ ปรึกษาผู้รู้ทุกครั้งที่เกิดปัญหาหน้างาน และการหาข้อมูลเพิ่มเติมด้วยตัวเอง เจอปัญหาอะไรก็ไปหาคำตอบ อาศัยครูพักลักจำ ทำทุกทางให้รู้และเข้าใจทุกกระบวนการ จนสามารถทำได้ตั้งแต่ เลี้ยงวัว รีดนมวัว รักษาวัว ให้ยาวัว วิเคราะห์เบื้องต้น-ปลาย คำนวณโภชนาการอาหารวัว ไล่ไปจน ระบบการจัดการฟาร์ม และการแปรรูปนมวัว แม้แต่ทำคลอดลูกวัวที่คลอดผิดท่าเธอก็เคยทำมาแล้ว โดยวิดีโอคอลถามผู้รู้ จนได้ลูกวัวตัวผู้นามว่า “ฟิลลิปส์” ซึ่งยังคงโลดแล่นอยู่ในฟาร์ม ย้ำเตือนว่าแม้จะเริ่มแบบลูกคุณหนูที่โดนหลอกจนช้ำ แต่จากนี้เธอจะทำทุกอย่างให้เป็น ไม่ให้โดนใครหลอกอีกแล้ว

     “ปีนี้ที่สองเลยเป็นปีที่เริ่มมีภูมิคุ้มกันมากขึ้น เพราะศึกษาเองหมดตั้งแต่เรื่องอาหาร เรื่องยา การปฐมพยาบาลทุกอย่าง เรียกว่าถ้าไม่เจ็บก็คงไม่ได้รู้ เหมือนได้เรียนรู้ทางลัด และเรียนรู้เร็วกว่าคนอื่นจากปัญหาหนักๆ ที่พบ”

สร้างฟาร์มอัจฉริยะ สนองความขี้เกียจ เพิ่มคุณภาพชีวิตวัว

     แม้จะเป็นเกษตรกรแต่ก็ไม่ได้สลัดภาพคุณหนูทิ้งไปทั้งหมด เธอบอกว่าแม้ทำทุกอย่างเป็นแต่ก็ไม่จำเป็นต้องทำเองทุกอย่าง เพราะหลายอย่างในฟาร์มสามารถใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยผ่อนแรงได้

     “ที่เริ่มนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้เพราะความขี้เกียจของตัวเอง เป็นคนถือคติว่า เราทำเองได้ทุกอย่างแต่ไม่ใช่ว่าจะต้องทำตลอดไป ก็เริ่มจากเจอปัญหาหน้างานนี่แหล่ะ อย่างเช่น จำนวนวัวขยายเพิ่มขึ้นทุกปี แต่พอมันเยอะขึ้นแล้วเป็นคอกดิน หน้าฝนก็จะเฉอะแฉะ วัวนอนในโคลนก็เป็นเต้านมอักเสบอีก เวลาเดินเข้าไปในคอกรองเท้าบูทนี่หายไปกับโคลนเลย  เละเทะไปหมด เลยมาคิดว่าทำยังไงถึงจะทำให้ชีวิตเราและวัวดีขึ้น

     เลยไปดูในต่างประเทศว่าทำไมเขาเลี้ยงวัวแล้วรวย เลี้ยงแล้วดูสุขสบายกันจัง เลยเริ่มมองหาระบบการจัดการเข้ามาใช้ จนไปเจอตัวที่เป็นพระเอกของฟาร์มเราตอนนี้ นั่นคือเครื่องผลิตมูลโคแห้ง เป็นเครื่องที่พอเราเอามูลวัวเปียกๆ เข้าไป เขาจะบีบน้ำออกแล้วก็แยกออกมาเป็นปุ๋ยแห้งเลย มองว่าระบบนี้เวิร์ค เพราะจะทำให้เราขายมูลวัวได้ด้วย สามารถคุ้มทุนค่าเครื่องได้ภายใน 1 ปี เครื่องนี้ปกติขายกันอยู่หลักล้านบาท แต่ด้วยความที่เราใช้เงินกับการถูกหลอกไปเยอะแล้ว เลยไปสั่งเครื่องจากจีนมา เขาขายที่ 120,000-200,000 บาท ปรากฏว่า ใช้ไม่ได้ เครื่องไม่เดิน พอเอามาต่อปั้มเครื่องไม่ออกมาเป็นปุ๋ย แต่เป็นขี้วัวพุ่งระเนระนาดเลย เละเทะไปหมด แม่มาเห็นก็ได้แต่เวทนาลูกตัวเอง (หัวเราะ)”

     รสิตาเล่าจุดเริ่มต้นของการนำนวัตกรรมเข้ามาใช้ ที่มาของการนำเครื่องมาปรับปรุงพัฒนา เพื่อให้เข้ากับสภาพการเลี้ยงโคนมแบบไทยๆ สุดท้ายก็ได้เครื่องผลิตมูลโคที่เวิร์ค ตอบโจทย์ และยังเป็นสินค้าพระเอกที่สร้างรายได้ให้กับฟาร์มในตอนนี้ โดยเครื่องผลิตมูลโคแห้งจากกาลครั้งหนึ่ง ราคาเริ่มต้นที่ 200,000-500,000 บาท ขึ้นกับขนาดและฟังก์ชัน

     วัวฟาร์มอื่นอาจเลี้ยงยังไงก็ได้ แต่วัวกาลครั้งหนึ่งติดปลอกคอ AI มีเซนเซอร์จับความรู้สึกของวัว ทำให้สามารถวิเคราะห์ได้ว่า วัวกำลังทำอะไรอยู่ อยู่ในช่วงที่พร้อมผสมเทียมหรือไม่ หรือกำลังป่วย เพื่อรักษาได้อย่างทันท่วงที ซึ่งข้อมูลทั้งหมดจะแจ้งเตือนไปยังมือถือ แค่เปิดดูก็บริหารจัดการวัวได้  

ธุรกิจยั่งยืนด้วยสินค้านวัตกรรมและผลผลิตแปรรูปจากฟาร์ม

     ปัจจุบัน กาลครั้งหนึ่งฟาร์ม เป็นฟาร์มโคนมต้นแบบที่นำเอาเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาจัดการฟาร์มอย่างครบวงจร  ซึ่งเทคโนโลยีที่ใช้หลัก Copy & Development ไม่ได้ถูกนำมาใช้เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับคนและวัวในฟาร์มของพวกเขาเท่านั้น แต่ยังเป็นสินค้าที่จำหน่ายให้กับเกษตรกรผู้รักความสะดวกสบายรายอื่นๆ ด้วย เช่น เครื่องผลิตมูลโคแห้ง , ซองนอน สำหรับจัดระเบียบวัว , แปรงเกาตัวโคไฟฟ้า ที่ใช้เซนเซอร์ควบคุมการทำงาน , อ่างกินน้ำลูกลอย ป้องกันวัวทำพัง, รถทีเอ็มอาร์ขับเคลื่อนด้วยตัวเอง, อุปกรณ์ใบเจียกีบเท้า ที่แม้แต่ผู้หญิงตัวเล็กๆ ก็ใช้ได้ และถังดูดนมลูกวัว ลดการเมื่อยล้าและเสียเวลาจากการป้อนโดยขวดนมแบบเก่าๆ เหล่านี้เป็นต้น  ในขณะเดียวกันก็ยังมีผลิตภัณฑ์แปรรูปจากนม ทั้งนมพาสเจอร์ไรส์ โยเกิร์ต และมอสซาเรลล่าชีส อีกด้วย

     “ตอนนี้ฟาร์มเรามีวัวอยู่ประมาณ 80 ตัว เป็นวัวที่รีดนมประมาณ 35-45 ตัว ผลิตน้ำนมได้อยู่ที่ประมาณ 300-600 กิโลกรัมต่อวันขึ้นกับฤดูกาล ซึ่งการแปรรูปเป็นอีกทางเลือกที่ทำให้ธุรกิจยั่งยืน เพราะอย่างที่ทราบว่า ปัญหาหลักๆ ของการเลี้ยงวัวคือวัตถุดิบทุกอย่างขึ้นราคา ต้นทุนขึ้น แต่ราคาน้ำนมดิบยังยืนพื้นอยู่แค่นี้ เราเลยเริ่มแปรรูปผลิตภัณฑ์ ซึ่งการแปรรูปเป็นความยั่งยืนอย่างหนึ่งของฟาร์ม มันช่วยเพิ่มมูลค่า อย่างเราขายน้ำนมดิบได้กิโลกรัมละ 18-19 บาท พอนำมาแปรรูปราคาจะพุ่งเป็นกิโลกรัมละ 40-60 บาท ได้ทั้งกำไรและได้ใจด้วย เพราะเราตั้งใจทำฟาร์มนี้มาก แล้วนมของเราก็ค่อนข้างพรีเมียมมาก จึงอยากให้ทุกคนได้กิน และการมีสินค้าของเราเองก็ทำให้ตลาดใหญ่ขึ้นด้วย”

     ปัจจุบันรายได้ของกาลครั้งหนึ่งฟาร์ม อยู่ที่ประมาณ 400,000 บาทต่อเดือน โดยมาจากการขายสินค้านวัตกรรมประมาณ 50 เปอร์เซ็นต์ ส่วนอีกครึ่งมาจากผลผลิตจากฟาร์ม เป็นธุรกิจที่อยู่ได้และยั่งยืน เดินทางเข้าสู่ปีที่ 7 ได้อย่างงดงาม ลบคำปรามาสเจ๊งใน 2 ปีของใครหลายคนเป็นที่เรียบร้อย

     สำหรับคนรุ่นใหม่ ที่มีกาลครั้งหนึ่งฟาร์มเป็นไอดอล รสิตาย้ำในตอนท้ายว่า ธุรกิจนี้ไม่ได้เหมาะกับทุกคน ถ้าจะทำ “ใจ” ต้องมาก่อน

     “ธุรกิจนี้ไม่ใช่ใครก็ทำได้ หนึ่งเลย “ใจ” ต้องมีเยอะกว่าอาชีพอื่น อย่างตัวเองเคยทำโรงงานมาก่อน มันไม่ต้องใช้ใจ ใช้พลังเยอะขนาดนี้ เพราะว่าธุรกิจนี้มันเกี่ยวกับชีวิตของวัว เวลาเจอปัญหาอะไรมันตัดสินกันด้วยชีวิต อย่างโรงงานเป็นเครื่องจักร เครื่องพังก็ซ่อมได้ ไม่มีปัญหาอะไร แต่ถ้าวัวพัง วัวมันไม่ได้ซ่อมง่ายขนาดนั้น ฉะนั้น ใจต้องมาก่อน ใจต้องรัก อาชีพนี้ต้องใช้พลังงานเยอะ แต่ก็ให้ความสุขกับเราเยอะมากเช่นกัน อย่างเวลาเข้าไปในคอกวัว ต่อให้จะอารมณ์เสียมาจากไหน แค่ได้มองหน้าพวกมัน ก็ทำให้เราอ่อนโยนและอารมณ์ดีขึ้นแล้ว นี่คงเป็นกำไรที่ได้จากธุรกิจนี้”

 

ข้อมูลติดต่อ

FB : กาลครั้งหนึ่งฟาร์ม www.facebook.com/onceuponatimedairy

เบอร์โทร 094 829 7936

 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: ENTREPRENEUR

HEH ร้านอาหารย่านภูเก็ต เชฟใช้เวลาในครัวให้เหมือนอยู่ในสนามแข่ง ไม่อยากเป็นแค่ Just Another Restaurant

“HEH (เห)” ร้านอาหารสไตล์  Australian Contemporary กลางเมืองภูเก็ต สร้างเมนูอาหารให้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เพราะไม่อยากเป็นเพียง แค่ร้านอาหารร้านหนึ่ง

จงปังนมสด ร้านดังแห่งสุราษฎร์ธานี แจ้งเกิดเพราะแบรนด์ดิ้ง และไอเดียทำคอนเทนต์จนเป็นไวรัล

"จงปังนมสด" ร้านดังเมืองสุราษฎร์ธานี ที่กำลังโด่งเป็นไวรัลขณะนี้ จากคลิปตัดต่อที่นำเสียงของเจ้าของเจ้าของร้านขนมปังชื่อดังย่านกทม. อย่าง "มนต์นมสด" มาเป็นแรงบันดาลใจในการทำธุรกิจ