สปาองค์เทพ บริการเสริมความงาม ให้มวลเทพ ธุรกิจแจ้งเกิดใหม่ยุคสายมูบูม คิวแน่น! ข้ามปี ทำรายได้หกหลักต่อเดือน

Text : Nittaya Su.

Photo : Sunun Lorsomsab


     กำลังเป็นกระแสดังบนโซเชียลเลย กับคลิปสปาแม่นางกวักที่ถูกนำมาขัดสีฉวีวรรณใหม่ แถมติดขนตางอนให้โดดเด้ง ปัดแก้มสีชมพู่ระเรื่อ ทาปากสีแดงสดใส

     เห็นแล้วก็พาลให้นึกถึงหญิงสาวที่เดินเข้าร้านเสริมสวย แล้วกลับออกมาด้วยหน้าตาสวยแบบ Full Option  ที่พร้อมจะไปเดินเฉิดฉายที่ไหนก็ได้

     ใครจะคิดว่าอยู่ดีๆ วันหนึ่งองค์เทพที่เรานับถือกันจะมีบริการเสริมสวย เสริมหล่อไม่ต่างจากคนอย่างเราๆ ได้

จากศรัทธา สู่ดลบันดาลใจ

     ฐนกร โพธิกมล หรือ “แชมป์เปี้ยน” อดีตหนุ่มพนักงานอสังหาริมทรัพย์ เจ้าของร้าน “ศรีคชานัน คายะตรีมันตรา” ผู้ผันตัวมาทำธุรกิจ “สปาองค์เทพ” บริการเสริมความงามให้หมู่มวลเทพ เล่าที่มาของไอเดียให้ฟังว่า เกิดขึ้นมาด้วยความบังเอิญ จากวันหนึ่งที่เขาได้ไปเจอกับองค์พระพิฆเนศที่กำลังจะถูกนำไปจำเริญลอยน้ำ ด้วยความที่ถูกชะตาและศรัทธา จึงได้ขอกับเจ้าของเดิม เพื่อนำกลับมาบูชาต่อ แต่ด้วยสภาพเดิมที่เก่าและชำรุด ฝุ่นเกาะเต็มไปหมด จึงนำมาล้างทำความสะอาด และลองนำมาทำสีใหม่ และโพสต์ลงโซเชียล เปรียบเทียบก่อนและหลังทำ จากนั้นไม่นานก็เริ่มมีคนสนใจสอบถามเข้ามา อยากให้ทำให้บ้าง เริ่มจากคนใกล้ตัวก่อน จนวันหนึ่งก็เริ่มขยายออกสู่ภายนอก จนทำให้เขามองเห็นลู่ทางโอกาส  จึงเปิดเป็นธุรกิจขึ้นมา

     “ทุกอย่างเกิดขึ้นมาจากความบังเอิญ โดยที่ไม่ได้ตั้งใจจริงๆ เราทำขึ้นมาครั้งแรก ก็เพราะศรัทธา แต่พอคนอื่นเห็นก็อยากให้ทำให้บ้าง เราก็ทดลองทำให้ โดยที่ไม่ได้เรียนจบศิลปะ หรือมีพื้นฐานด้านงานศิลป์มาก่อนเลย จากคนใกล้ตัว พอเริ่มทำเยอะเข้า ก็มีคนข้างนอกให้ความสนใจด้วย จนทำให้ฉุกคิดขึ้นมาได้ว่า เออ จริงๆ มันก็เป็นอาชีพได้เนอะ เลยลองเสิร์ชหาข้อมูลเพิ่มเติมในอินเตอร์เน็ตว่าสิ่งที่เราทำอยู่นี้ จริงๆ มันมีอยู่ไหม มีชื่อเรียกว่าอะไร จนไปสะดุดกับคำหนึ่งเข้า “สปาองค์” ก็เลยปิ๊งไอเดียว่า มันมีอาชีพนี้อยู่จริงๆ เพียงแต่ตอนนั้นยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จัก บวกกับตอนนั้นงานประจำเริ่มมีปัญหา ก็เลยลองอธิฐานในใจกับท่านว่า ถ้าอยากให้เรามาทางนี้จริงๆ ก็อยากให้ลองทำอะไรให้เรารับรู้ได้ ตอนนั้นงานประจำที่ทำอยู่ผมได้เงินเดือน 2-3 หมื่นบาท แต่ปรากฏว่าพอทดลองทำควบคู่กันไปด้วยแค่เดือนแรกก็ได้เงินมาถึง 5 หมื่นบาท เลยทำให้ตัดสินใจลาออกและมาเริ่มทำงานตรงนี้แบบจริงจัง ซึ่งแรกๆ คนรอบข้างก็ไม่เห็นด้วย แต่จนวันนี้เราก็พิสูจน์ให้เขาเห็นแล้วว่า สามารถทำได้จริง เป็นอาชีพเลี้ยงตัวเองได้”

กระแสมูบูม เศรษฐกิจแย่ ลูกค้ายิ่งเยอะ

    แชมป์เปี้ยนเล่าให้ฟังว่า ตั้งแต่ที่เขาเริ่มต้นเปิดธุรกิจมาได้ 2 ปีกว่า กระแสตอบรับดีขึ้นเรื่อยๆ คิวล่าสุดจนถึงตอนนี้ คือ ยาวข้ามไปถึงกลางเดือนมกราคมปีหน้า (2569) แล้ว โดยเขามองว่าส่วนหนึ่งมาจากกระแสความความเชื่อสายมูในยุคปัจจุบันที่ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ อีกส่วนหนึ่งก็จากสภาพเศรษฐกิจ ยิ่งเศรษฐกิจไม่ดี คนยิ่งต้องการที่พึ่งทางใจมากขึ้น ไม่ว่าใครก็อยากได้สิ่งดีๆ สวยๆ งามๆ เห็นแล้วสบายใจ เสริมสิริมงคลให้กับตัวเอง

ได้มูด้วย ได้รักษ์โลกด้วย

    โดยเล่าต่อว่าอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้ได้รับผลตอบรับที่ดี ก็คือ การเปิดบริการสปาองค์เทพ ไม่เพียงเป็นรูปแบบธุรกิจใหม่ที่น่าสนใจในยุคนี้เท่านั้น แต่ยังถือเป็นการช่วยแก้ Pain Point ให้กับลูกค้าหลายคนที่มีองค์เทพ หรือรูปสักการะที่เก่าชำรุด อยากนำมาซ่อมแซม แต่ไม่รู้ว่าต้องนำไปที่ไหน บางครั้งจึงจบลงด้วยการนำไปทิ้งไว้ใต้ต้นไม้ หรือตามข้างทางที่เราเคยเห็นกันมา

    “มันเหมือนเป็นความต้องการที่มีอยู่ แต่เมื่อก่อนเขาไม่รู้จะต้องนำไปที่ไหน ต้องทำยังไง แต่พอเราเปิดให้บริการขึ้นมา ทำให้หลายคนเห็นว่า เออ มันมีบริการรูปแบบนี้ด้วยนะ พอเขารู้ ก็เลยเอามาทำ บางคนมีนางกวักเป็นองค์ไม้อายุร้อยกว่าปี สืบทอดกันมาหลายรุ่นแล้ว พอเขารู้ว่าเราทำได้ ก็ดีใจ เพราะเป็นสิ่งที่เขาผูกพันมา หรืออย่างบางคนแทนที่จะนำไปทิ้ง ตามความเชื่อว่าถ้าแตกหัก ชำรุดแล้วไม่ดี เขาก็เอามาให้เราซ่อม และทำสปาให้ใหม่แทน และนำกลับไปบูชาต่อ จนบางพูดว่าจริงๆ  ถือเป็นการรักษ์โลกรูปแบบหนึ่งได้เลย ช่วยลดปริมาณรูปเคารพบูชา รูปสักการะที่เรานับถือ ไม่ให้ถูกนำไปทิ้งกลายเป็นขยะได้ ซึ่งผมว่าก็เป็นสิ่งที่ดี เพราะเคยมีลูกค้าบางคนไปเก็บองค์พระจากใต้ต้นไม้ที่ถูกนำไปทิ้งไว้ ร่วมสิบกว่าองค์เลย มาให้ซ่อมและทำสปาให้ใหม่ เสร็จแล้วก็เอาไปถวายวัดต่อ สามารถนำไปใช้ประโยชน์ต่อได้”

ต้อนรับทุกองค์ ทุกศาสนา

    เห็นเปิดให้บริการสปาองค์เทพแบบนี้ เราถามว่า เขามีจำกัดไหมว่ารับเฉพาะองค์นี้ ไม่รับองค์นั้น แชปม์เปี้ยนเล่าถึงจะเริ่มต้นมาจากองค์พระพิฆเนศ แต่ปัจจุบันเขาก็เปิดรับหมด โดยไม่จำกัด ดังนั้นงานสปาองค์เทพของเขา จึงมีค่อนข้างหลากหลาย ตั้งแต่องค์พระพิฆเนศ, พระแม่ลักษมี, พระแม่กาลี, นางกวัก ไปจนถึงองค์พระ เรียกว่าเกือบทุกรูปเคารพที่คนส่วนใหญ่นับถือบูชา

    ซึ่งแต่ละครั้งก่อนเริ่มชิ้นงานแต่ละครั้ง เขาจะทำการศึกษาประวัติความเป็นมา เพื่อให้รู้จักคาแรกเตอร์ขององค์เทพนั้นๆ ก่อน และถึงแม้จะไม่ได้ร่ำเรียนทางด้านศิลปะโดนตรง แต่เขาก็ใช้วิธีศึกษาเรียนรู้ และลองผิดลองถูกด้วยตัวเองจากประสบการณ์ที่ได้จากทำชิ้นงานแต่ละชิ้น

     รูปแบบการให้บริการจะมี 2 ส่วน คือ 1.งานสปาองค์ เพื่อทำความสะอาด ทำสี เปลี่ยนเครื่องแต่งกาย เครื่องประดับ แต่งหน้าให้ดูดีเหมือนใหม่ และ 2.งานซ่อมแซม+สปาองค์ เพื่อซ่อมแซมส่วนที่ชำรุดก่อน จากนั้นจึงค่อยเริ่มขั้นตอนการสปาต่อ โดยองค์บูชาที่มีลูกค้านำมาทำสปาเยอะที่สุด ก็คือ องค์พระพิฆเนศ ราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 499 บาท สำหรับทำสีปกติ (องค์เล็กขนาดฐาน 10 ซม.) และ 899 บาท สำหรับทำสี+เครื่องประดับ ไปจนถึงหลัก 2-3 หมื่นบาทก็มี ขึ้นอยู่กับขนาดและความยากง่ายของชิ้นงาน โดยเบื้องต้นจะให้ลูกค้าส่งรูปภาพ ขนาด และรายละเอียดงานที่ต้องการมาให้ก่อน เพื่อประเมินราคาให้

     ทุกครั้งก่อนเริ่มต้นทำงานจะมีการไหว้เพื่อขออนุญาตก่อน สำหรับขั้นตอนการสปาจะเริ่มต้นด้วยการล้างทำความสะอาดให้เรียบร้อยก่อน จากนั้นมีการนำน้ำยามาเช็ดล้างสีออก เพื่อรองพื้นใหม่ด้วยสีขาว เปรียบเหมือนขั้นตอนการแต่งหน้า จากนั้นจึงทำสีใหม่ตามรายละเอียดที่ลูกค้าแจ้งมา รวมไปถึงการเลือกโทนสีเสื้อผ้า เครื่องประดับใหม่ ซึ่งหลายชิ้นก็ออกแบบเฉพาะของแบรนด์เอง จุดเด่นอีกอย่างที่ทำให้ร้านศรีคชานันฯ ได้รับความนิยม ก็คือ โทนการแต่งสีผิวและแต่งหน้าที่ดูทันสมัย สดใส น่ารักเหมือนการแต่งหน้าของสาวๆ ยุคนี้ ทำให้ไม่ดูเคร่งขรึม น่ากลัว รวมถึงการสร้างความแปลกใหม่ที่ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน เช่น การติดขนตาปลอม ให้งอนเด้ง เป็นต้น

     โดยในแต่ละสัปดาห์เฉลี่ยทำได้ประมาณ 4-7 คิว หรือประมาณไม่เกิน 10 องค์ ซึ่งปัจจุบันคิวล่วงหน้าจองยาวไปถึงต้นปีหน้าเดือนมกราคมอย่างที่แจ้งไว้ในตอนแรกแล้ว รายได้เฉลี่ยทุกวันนี้อยู่ที่ราวเกือบ 2 แสนบาทต่อเดือนเลยทีเดียว และอนาคตอันใกล้นี้ เขามองว่าอยากหาพื้นที่เปิดหน้าร้านเพื่อให้ลูกค้าสามารถแวะมาดูชิ้นงานจริงที่หน้าร้านได้ด้วย

การสื่อสารหัวใจสำคัญ คนทำธุรกิจออนไลน์ยุคนี้

     นอกจากความจริงใจ และตั้งใจทำผลงานให้ออกมาดีแล้ว แชมป์เปี้ยนบอกว่าการสื่อสารออกไปยังลูกค้า ว่า “เราเป็นใครและกำลังทำอะไรอยู่” ก็ถือเป็นอีกสิ่งที่สำคัญที่ช่วยทำให้คนรู้จักได้มากขึ้น โดยเฉพาะธุรกิจที่ต้องพึ่งพาช่องทางออนไลน์เป็นหลัก ซึ่งในทุกวันเขาจะลงคลิปเฉลี่ยประมาณ 2 คลิปต่อวันผ่านช่องทาง TikTok และ Facebook ของแบรนด์  โดยมีหลายคลิปที่กลายเป็นไวรัล คนเข้ามาดูนับล้าน ยกตัวอย่างเช่น คลิปสปานางกวัก เป็นต้น

     “การที่ลูกค้าจะเชื่อใจว่าทำ หรือไม่ทำกับเรา เขาต้องอยากรู้จัก อยากเห็นตัวตนของเราก่อน ผมมองว่าสิ่งนี้สำคัญมาก นอกจากนี้เวลามีคนมาคอมเมนต์ ผมพยายามจะเข้าไปตอบทุกอัน ถ้าไม่ตอบก็ส่งเป็นรูปอีโมจิ เหมือนเขาให้เกียรติเรามา เราก็ให้เกียรติเขากลับไป วันนั้นเขาอาจไม่ใช่ลูกค้าเรา แต่อนาคตเขาเป็นลูกค้าเราแน่นอน”

     สุดท้ายแชมป์เปี้ยนได้ฝากแง่คิด สำหรับคนที่อยากเริ่มต้นทำธุรกิจจากสิ่งที่ตัวเองชอบ เชื่อ และศรัทธาว่า

    “วันนี้ถือว่ามาไกลมากเกินกว่าที่คิดเอาไว้มาก ทั้งค่าตอบแทน และความสุขที่ได้รับ ผมดีใจและภูมิใจทุกครั้งที่ได้ทำผลงานออกไป สำหรับใครที่อยากเริ่มต้นทำอะไรสักอย่าง อยากให้เชื่อมั่นในตัวเองก่อน มีใจรัก และศรัทธาที่จะทำ และทำออกมาให้เต็มที่ อย่าเพิ่งคิดถึงผลตอบแทน แค่ลองเริ่มก่อนจากจุดเล็กๆ ถ้าเราตั้งใจจริง วันหนึ่งมันจะขยายใหญ่ขึ้น และเติบโตขึ้นได้เอง” เจ้าของธุรกิจสปาองค์เทพ กล่าวทิ้งท้ายเอาไว้

     ข้อมูลติดต่อ : 

     FB : ศรีคชานัน คายะตรีมันตรา

     โทร. 094 591 7987

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: ENTREPRENEUR

Lobban กราโน(รา)ล่า จากแดนใต้ ชูวัตถุดิบข้าวไทย พร้อมลงสนามอาหารสุขภาพ

หลบบ้าน ตัวอย่างของผู้ประกอบการรุ่นใหม่ที่มองเห็นโอกาสจากวัตถุดิบท้องถิ่นและหยิบมาเล่าเรื่องได้อย่างมีเอกลักษณ์ นอกจากจะตอบโจทย์ด้านสุขภาพและสิ่งแวดล้อมแล้ว ยังผสมผสานกลิ่นอายความเป็นไทยผ่านรสชาติและดีไซน์อย่างลงตัว

Terra เก้าอี้ปลูกได้ ไอเดียทำสวนให้กลายเป็นเฟอร์นิเจอร์ อยากนั่งตรงไหน ก็ปลูกตรงนั้น

Terra ไม่ใช่แค่เฟอร์นิเจอร์ในสวน แต่คือเฟอร์นิเจอร์ที่กลายเป็นสวนจริงๆ โดยมีรูปทรงเป็นเก้าอี้อาร์มแชร์ หรือโซฟาที่มีที่พักแขน ที่สามารถเลือกได้ตั้งแต่นั่งคนเดียว จนถึง 2-4 คนได้

น้ำพริกโรยข้าวบ้านสองช่อ รสมือจากครัวบ้าน สู่ผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ชีวิตคนยุคใหม่

“บ้านสองช่อ” คือน้ำพริกโรยข้าวที่เกิดจากความตั้งใจของ ภัชดาพร มากูล ผู้มองเห็นโอกาสในการพัฒนาน้ำพริกอาหารคู่ครัวไทยให้กลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่พกพาสะดวก รับประทานง่าย และเข้ากับวิถีชีวิตที่เปลี่ยนไปของผู้บริโภคในปัจจุบัน