Text: Wipawan In.
ทุกวันนี้ชีวิตเต็มไปด้วยความเร่งรีบ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงานที่กดดัน สังคมที่ต้องแข่งขัน หรือแม้แต่การใช้ชีวิตประจำวันก็มีสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ที่สะสมกลายเป็นความเครียดโดยไม่รู้ตัว หลายคนจึงเริ่มมองหาวิธีคลายความเหนื่อยล้า ทั้งการออกกำลังกาย เข้าสปา นวดผ่อนคลาย หรือแม้กระทั่งหางานอดิเรกใหม่ๆ ที่ช่วยให้ใจสบายขึ้น แต่สิ่งหนึ่งที่หลายคนอาจไม่ทันคิดถึง คือ “ความสุขจากสิ่งเล็กๆ” อย่างเช่นการเกาหลัง ที่แทบทุกคนเคยมีโมเมนต์ฟินๆ แบบนี้ตั้งแต่เด็ก
ความสุขเล็กๆ นี้เองกลายมาเป็นแรงบันดาลใจของ GaoGao Therapy Studio ธุรกิจที่กล้าหยิบไอเดียธรรมดามาต่อยอดให้กลายเป็นบริการที่ตอบโจทย์ได้จริงในชีวิตประจำวัน นำความชอบมาบวกรวมกับความกล้าและมุมมองใหม่ๆได้ผลลัพธ์ออกมาเป็นธุรกิจที่ไม่เหมือนใคร
เมื่อชีวิตเปลี่ยน จึงต้องหาเส้นทางใหม่
หลังจากก้าวเข้าสู่ชีวิตการเป็นคุณแม่ ออม ดุสิตา มงคลพาณิชย์ จึงเริ่มมองหาเส้นทางอาชีพใหม่ๆ โดยต้องสร้างรายได้ ไม่ไกลบ้าน และยังมีเวลาดูแลลูกไปพร้อมๆกัน และนี่คือโจทย์ที่เป็นจุดเริ่มต้นนำไปสู่การสร้างธุรกิจ
“ด้วยการที่เรามีโจทย์ของความเป็นแม่ลูกอ่อนเลยอยากทำอะไรที่ไม่ต้องห่างลูก สามารถดูแลลูกได้ จึงเริ่มมองหาอะไรใกล้ๆตัว เลยมานั่งคิดว่าเราเป็นคนชอบให้คนเกาหลังเกาแขน ขา ให้มากๆ มันเพลิน มันรู้สึกผ่อนคลาย ปกติจะชอบไปนวดหน้า สปาเวียดนาม เคยแจ้งทางร้านว่าเปลี่ยนจากสปาเป็นเกาหลังให้ได้ไหม ก็ไม่มีที่ไหนรับ และได้เจอคอนเทนต์ต่างประเทศมีร้านบริการเกาหลัง อยากให้ที่ไทยมีเปิดบ้างเราต้องเป็นลูกค้าประจำแน่ๆ”
หลังจากคิดไปมาอยู่หลายรอบ ออม จึงคิดได้ว่าต้องไม่ใช่เธอคนเดียวที่ชอบการเกาหลัง ถ้าหาร้านที่ให้บริการเกาหลังในไทยไม่ได้ มองอีกมุมก็เปรียบเสมือนช่องว่างในการสร้างรายได้ จากแค่ความต้องการจึงต่อยอดสู่ไอเดียธุรกิจ Gao Gao Therapy Studio ร้านเกาหลังเจ้าแรกของไทย
เพราะไม่เหมือนใคร จึงต้องพิสูจน์
จากโจทย์ที่ตั้งไว้ Gao Gao Therapy Studio สามารถตอบได้เกือบทุกข้อ ทั้งไม่ต้องห่างลูก สามารถมีเวลาให้ลูกได้เหมือนเดิม ได้ทำในสิ่งที่ชอบ อย่างเดียวที่ไม่มีใครการันตีได้คือธุรกิจนี้จะสามารถสร้างรายได้จริงหรือไม่
“เราได้ทำงานในแบบที่ต้องการเพราะร้านเราเปิดให้บริการในบ้านที่จังหวัดอยุธยา แต่สิ่งที่ตามมาคือบทพิสูจน์จากคนรอบตัว กับคำถามที่ว่า ใครจะมาจ่ายเงินกับเรื่องแค่นี้? จะทำได้จริงๆหรือเปล่า? แต่เรามั่นใจว่าถ้าเรายังยอมจ่ายเงินได้ถ้ามีร้านแบบนี้ยังไงก็ต้องมีคนแบบเราอีกแน่นอน ตอนแรกตั้งเป้าไว้วันละ 1-2 คน รายได้วันละ 3-400 ก็พอแล้ว”
Gao Gao Therapy Studio เริ่มเปิดเมื่อเดือน 3 เดือนที่แล้ว โดยทำคอนเทนต์ลง TIKTOK ได้เพื่อนๆช่วยแชร์ลงโซเชียล ออม เล่าว่าทำมาเรื่อยๆก็ไม่ดีเท่าที่ตั้งใจ จึงเริ่มทำคลิปพร้อมยิงแอดทำให้คลิปเป็นไวรัลยอดวิวแตะหลักล้านภายใน 1 คืน เกิดการแชร์ การส่งต่อ หลังจากคืนนั้นมีลูกค้าทักมาจองคิวถล่มทลาย
แม้จะเกิดจากจุดเล็กๆ แต่ฝันไม่เล็ก
วันที่ลูกรายแรกเข้ามาใช้บริการ และร้านกลายเป็นที่รู้จัก มีลูกค้าจากหลายๆจังหวัดติดต่อเข้ามาจองคิวทั้งกรุงเทพ พิษณุโลก ภูเก็ต ด้วยความต้องการของลูกค้าที่เยอะขึ้น จากที่อยากทำร้านเล็กๆพอมีรายได้รายวันก็เริ่มมีแผนที่จะต่อยอดให้เติบโตมากยิ่งขึ้น
“ตอนนี้เรารับลูกค้าได้มากสุดวันเสาร์ - อาทิตย์ 6 คน ถ้าเป็นวันธรรมดา 3 – 4 คน เพราะเราอยากให้บริการเต็มที่ให้ลูกค้าได้รับความสบายคุ้มค่ากับเงินที่จ่าย เราให้บริการเกาหลัง เกาศีรษะ ผ่านอุปกรณ์ต่างๆ เช่น เล็บฟ้อน แปรงขนอ่อน ร่วมกับการใช้เสียง ASMR เพื่อเพิ่มความผ่อนคลาย และสิ่งที่เราได้ความสำคัญไม่น้อยกว่าการบริการคือความสะอาดและปลอดภัยของสถานที่ ผลตอบรับของลูกค้าเป็นไปในทิศทางที่เราตั้งใจไว้ ช่วยให้รู้สึกสบาย เพลิดเพลิน และช่วยผ่อนคลายความเครียดจากการทำงานและการใช้ชีวิต”
เมื่อร้านกลายเป็นที่รู้จัก ลูกค้าเริ่มเข้ามาเพิ่มมากขึ้น ออม จึงเริ่มวางแผนพา Gao Gao Therapy Studio ขยายพื้นที่เพิ่มเตียงเพื่อรองรับความต้องการของลูกค้า และในอนาคตอยากขยายธุรกิจไปยังจังหวัดใกล้เคียงอย่างกรุงเทพ แต่ต้องวางระบบร้านให้ดี และพร้อมกว่านี้เพื่อไม่ว่าลูกค้าจะรับบริการจากที่ไหนก็ต้องได้รับความสบายและผ่อนคลายเหมือนกัน
สุดท้ายนี้ Gao Gao Therapy Studio ทำให้เห็นว่าแทนที่จะเดินตามเส้นทางที่ใครๆ ทำกัน เปลี่ยนเป็นกล้าที่จะสร้างมิติใหม่ โดยเลือกเจาะจุดที่ตรงใจคน คือการคลายเครียดผ่านการสัมผัสที่คุ้นเคย นี่จึงไม่ใช่แค่ธุรกิจ แต่คือการพิสูจน์ว่าถ้ากล้าที่จะลองสิ่งใหม่ๆ ความสุขเล็กๆ ก็อาจกลายเป็นโอกาสใหญ่ได้เหมือนกัน
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี
