​เตือน SME ปรับตัวหนีตายยุคดิจิทัล

Text : กองบรรณาธิการ



   

     อย่างที่ทราบกันดีวันนี้โลกเราเปลี่ยนไปอย่างมาก จากการถาโถมเข้ามาของกระแสดิจิทัล ทั้งนี้ ในมุมมองของ ทรงยศ คันธมานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เรดดี้แพลนเน็ต จำกัด บอกว่า นอกจากโอกาสที่จะมีเข้ามามากมายแล้ว ในทางกลับกันก็มีความน่ากลัวไม่น้อยสำหรับธุรกิจที่ปรับตัวไม่ทัน หรือยังไม่ได้คิดจะปรับตัว เนื่องจากปัจจุบันผู้บริโภคเปลี่ยนไป โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ที่มีพฤติกรรมการใช้สื่อดิจิทัลมากขึ้นเรื่อยๆ อีกทั้ง ยังเป็นกลุ่มที่มีอิทธิพลต่อตลาดในแง่ของกำลังซื้อ ดังนั้นธุรกิจแบบดั่งเดิมอาจจะพบว่า ลูกค้าจะค่อยๆ น้อยลงไปเรื่อยๆ และถ้าธุรกิจไม่พยายามจะเรียนรู้ว่า ปัจจุบันวิธีการทำธุรกิจนั้นเปลี่ยนไปอย่างไร หรือไม่พยายามที่จะแสวงหาเครื่องมือใหม่ๆ มาช่วยในการทำธุรกิจ สุดท้ายตลาดที่เคยมีก็จะหดตัวหายไป ในทำนองเดียวกัน อาจจะมีธุรกิจใหม่ที่สามารถอ่านเกมได้ดีกว่าเข้ามาเติบโตแทนที่


     “ปัจจุบันผู้ประกอบการจะมี 2 กลุ่มด้วยกัน คือ กลุ่มที่รู้ตัวเองว่าขาดอะไร รู้ว่าธุรกิจเริ่มมีคู่แข่ง รู้ว่าต้องเริ่มใช้เครื่องมือใหม่ๆ มาช่วยในการทำตลาด รู้ว่าถ้าไม่ปรับตัว จะเสียโอกาสทางการตลาดทันที แน่นอนว่ากลุ่มนี้ไม่น่าห่วงอะไร แต่ที่น่าเป็นห่วงมากกว่า คือ กลุ่มที่ไม่รู้ตัวเองว่าขาดอะไร ยังคิดว่าเพราะเศรษฐกิจไม่ดี จึงขายไม่ได้ แต่จริงๆ แล้ว อาจจะไม่ใช่แค่เรื่องของเศรษฐกิจไม่ดี แต่เป็นเพราะพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไปอย่างมาก แล้วเขาปรับตัวไม่ทัน ไม่รู้ว่ามีโซลูชั่น หรือวิธีการใหม่ๆ ที่จะช่วยเขาได้ คนกลุ่มนี้ผมว่าน่ากลัว และที่สำคัญผมว่ามีเยอะนะ อาจเป็นคนกลุ่มใหญ่ด้วยซ้ำ เพราะเขาคิดว่าเป็นเรื่องไกลตัว คิดว่าธุรกิจแบบ SME ไม่ต้องคิดไกล ไม่ต้องมีอะไรมากมาย ยังคิดว่าทุกวันนี้ที่ขายไม่ดี เป็นเพราะเศรษฐกิจ แต่หารู้ไม่ ว่าบางคนขายดีนะ เติบโตได้ท่ามกลางเศรษฐกิจที่ดูชะลอตัว”





    ซีอีโอแห่งเรดดี้แพลนเน็ต ยังบอกด้วยว่า ที่ผ่านมาเวลาทำธุรกิจผู้ประกอบการอาจจะสนใจแค่ตลาดของตัวเอง  สนใจแต่คู่แข่งของตัวเอง มองทางซ้ายเจอคู่แข่ง มองทางขวาเจอคู่แข่ง แต่ปัจจุบันด้วยเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไปเร็วมาก ผู้บริโภคบิดเบี้ยว ฉะนั้นคู่แข่งอาจจะไม่ได้มาจากข้างๆ แต่อาจจะมาจากบนฟ้า หรือโผล่มาจากใต้ดินก็ได้ อย่างเช่นปัจจุบันนี้ ใครจะคิดว่า ธุรกิจที่ทำโมบายแอพพลิเคชั่น จะมาทำให้เกิดการสั่นคลอนในธุรกิจรถแท็กซี่ได้ หรือใครจะคิดว่าธุรกิจบ้านเช่ารายวัน จะทำให้ธุรกิจโรงแรมยักษ์ใหญ่สะเทือนได้ จะเห็นได้ว่า ธุรกิจเหล่านี้ไม่ได้อยู่ในสายตาคนทำธุรกิจมาก่อน และไม่คิดว่าจะเป็นคู่แข่งด้วยซ้ำ เรียกได้ว่า รูปแบบการทำธุรกิจใหม่ๆ จะเกิดขึ้นมาโดยที่ไม่รู้ และอาจทำให้ล้มเหลวได้อย่างไม่รู้ตัวเช่นกัน


     ถึงตรงนี้เชื่อว่าหลายคนเริ่มตระหนักแล้วว่า การปรับตัวรับมือกระแสดิจิทัล เพื่อเปิดไปสู่โอกาสทางธุรกิจนั้นเป็นสิ่งสำคัญอย่างเร่งด่วน ซึ่งในเรื่องนี้ ทรงยศแนะนำไว้ว่า อย่างแรกคือ ผู้ประกอบการต้องยอมรับก่อนว่า วิธีการทำธุรกิจได้เปลี่ยนไปแล้วและจะเปลี่ยนอยู่เรื่อยๆ ถ้าผู้ประกอบการยอมรับได้ ก็ต้องเริ่มเรียนรู้ว่า จริงๆ แล้วมีวิธีการทำธุรกิจแบบไหนบ้าง แล้วเอาปรับประยุกต์ใช้ให้เหมาะกับธุรกิจตัวเอง จากนั้นให้เริ่มทำ การธุรกิจในปัจจุบันก็เหมือนกับการทำห้องทดลอง ที่ต้องลองผิดลองถูก แม้บางอย่างทำแล้วล้มเหลว ก็จะกลายเป็นประสบการณ์ แต่หากบางอย่างทำแล้วได้ผล  แม้จะโตขึ้นมาแค่ตัวเดียว แต่อาจจะสร้างมูลค่าได้เกินกว่าธุรกิจที่ทำมาก่อนหน้านี้ทั้งหมด


 ​www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: ENTREPRENEUR

เพราะทุกการขนส่ง คือการเติบโต เมื่อมีพาร์ทเนอร์ที่ใช่ ธุรกิจก็ไปได้ไกลกว่าเดิม

ในยุคที่โลกธุรกิจหมุนเร็วกว่าเดิม การดำเนินธุรกิจเพียงลำพังคนเดียวอาจเป็นไปได้ยาก แต่หากมีพาร์ทเนอร์ที่รู้ใจเข้ามาช่วยต่อยอด ธุรกิจคงไปได้ไกลมากกว่าที่คิด

5 เหตุผลที่ SME ต้อง Recode ธุรกิจ   ก่อนจะถูกเกมใหม่กลืนปี 2026

ไม่ว่าคุณจะเป็นร้านเล็กหรือแบรนด์ใหญ่ ต่างต้องเผชิญคลื่นใหม่พร้อมกัน ตั้งแต่การตลาดที่ขับเคลื่อนด้วยคอนเทนต์ ความเร็วของเทคโนโลยี พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป และนี่คือ 5 เหตุผลที่ SME ทุกคนควร ‘Recode’ ธุรกิจของตัวเอง ก่อนจะสายเกินไป

2 คำที่ทายาทต้องเข้าใจก่อนทุกอย่างพัง ศิลปะการสืบทอดธุรกิจครอบครัวให้รอด จากเจ้าของเพจ ‘ทำที่บ้าน’

กวาง–เสสินัน นิ่มสุวรรณ์ ทายาทธุรกิจปั๊มน้ำมันในลพบุรี และเจ้าของเพจ “ทำที่บ้าน” มีผู้ติดตามกว่า 2 แสนคน หลังสัมภาษณ์ทายาทกว่า 100 ครอบครัว พบว่าทายาททุกคนต้องเจอกับ “สามก้อนปัญหาใหญ่” ที่ไม่มีสูตรสำเร็จใดแก้ได้