เอิร์ธบอร์น เปิดแนวคิดสร้างมูลค่าเพิ่ม แทนลดต้นทุน

 

 
 
ความสำเร็จจากการมุ่งมั่นสร้างนวัตกรรมใหม่ให้แก่น้ำมันมะพร้าว โดยการแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกต่างๆ ซึ่งไม่เพียงเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าเกษตรอย่างมะพร้าวไทย แต่ยังนำส่วนที่เหลือจากกระบวนการผลิตมาเพิ่มคุณค่าในเชิงธุรกิจ 
 
“จากราคาผลผลิตทางการเกษตรที่ผันผวนตามสภาวะเศรษฐกิจ ทำให้ส่งผลกระทบต่อต้นทุนในการผลิต เราจึงต้องพยายามทำให้มีของเสียจากกระบวนการผลิตน้อยที่สุด เพราะที่ผ่านมาในการผลิตน้ำมันมะพร้าว จะมีวัตถุดิบที่เหลือจากกระบวนการผลิตจำนวนหนึ่ง แต่แทนที่จะขายในรูปแบบของเสีย เราเอามาแปรรูปให้เป็นสินค้าที่ราคาสูงขึ้น ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนได้มากกว่าการไปลดเงินเดือนพนักงาน หรือการกดราคาวัตถุดิบจากเกษตรกรเสียอีก การทำธุรกิจสมัยใหม่จึงต้องสร้างมูลค่าเพิ่ม ไม่ใช่ไปลดต้นทุน เพราะการลดต้นทุนด้วยวิธีการแบบนั้น สุดท้ายก็จะกระทบมาถึงเราที่เป็นผู้ผลิต”
 
พิสิษฐ์ วีระไวทยะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอิร์ธบอร์น จำกัด กล่าวถึงที่มาของแนวคิดในการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้า โดยในการเริ่มต้นธุรกิจของพิสิษฐ์นั้น เขาเริ่มจากการผลิตน้ำมันมะพร้าวธรรมชาติบริสุทธิ์ ซึ่งพิสิษฐ์มองเห็นโอกาสในการทำตลาดสินค้าประเภทนี้ โดยอาศัยช่องว่างจากการเป็นผู้บุกเบิกตลาดรายแรก ถึงแม้จะมีเงินทุนไม่มาก แต่จุดแข็งของเขาคือการมีแหล่งวัตถุดิบและพื้นที่ตั้งโรงงานเป็นของตัวเอง
 
“ในการผลิตสินค้าอะไรก็ตาม คนส่วนใหญ่จะมองแค่การตลาด แต่เราก็ต้องคำนึงถึงเรื่องการผลิตด้วย เพราะถึงแม้จะทำการตลาดดี แต่ถ้าหากไม่มีวัตถุดิบให้ผลิตสินค้า เราก็ขายไม่ได้ พืชผลทางการเกษตรอย่างอื่นอาจจะมีเป็นฤดูกาล แต่มะพร้าวนั้นให้ผลผลิตเกือบตลอดทั้งปี และมีพื้นที่เพาะปลูกในเมืองไทยจำนวนมาก นั่นหมายความว่า เราสามารถมีวัตถุดิบรองรับในการผลิตหากตลาดของเราขยายในอนาคต”
 
ด้วยการวางแผนงานธุรกิจที่ดี ทำให้ผลิตภัณฑ์ที่แปรรูปจากมะพร้าวของเอิร์ธบอร์นมียอดส่งออกเป็นอันดับต้นๆ และจากประสบการณ์การทำตลาดในต่างประเทศนี่เอง ทำให้พิสิษฐ์เห็นว่าผู้บริโภคต้องการทางเลือกใหม่ๆ อย่างสินค้าประเภท Non-Dairy Product หรือผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีส่วนผสมของนมเพิ่มขึ้น จึงออกผลิตภัณฑ์โยเกิร์ตพร้อมดื่มจากมะพร้าว เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของตลาด พร้อมวางแผนพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่มจากหางกะทิ ซึ่งเป็นส่วนที่เหลือจากการผลิตน้ำมันมะพร้าวธรรมชาติของบริษัท เพื่อลดภาระในการกำจัดของเสียที่เป็นต้นทุนในการผลิต
 
“ตอนแรกเราตั้งเป้าหมายการเป็น Zero-Waste Manufacture ที่ผลิตแล้วออกมาไม่มีของเสีย ซึ่งเราสามารถทำได้แล้ว เป้าหมายต่อไปของเราคือ ทำการตลาดสินค้าอย่างเต็มที่เพื่อให้ผู้บริโภครู้จักและเข้าใจสินค้ามากขึ้น ในส่วนของการพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างอื่น เราจะต่อยอดจากอาหารเพื่อสุขภาพ ไปสู่ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องด้านความงามเพิ่มขึ้น”
 
นอกจากนี้ พิสิษฐ์ยังวางแผนทำตลาดโดยการเปิดร้านจำหน่ายสินค้าเป็นของตัวเอง โดยเน้นเจาะตลาดกลุ่มผู้รักและใส่ใจในการดูแลสุขภาพ และเน้นการสร้างแบรนด์ให้ผู้บริโภคเกิดความเชื่อมั่น โดยการผลิตสินค้าให้มีคุณภาพดีที่สุด แม้จะพัฒนาช้าและใช้เวลานาน แต่พิสิษฐ์เชื่อว่าสุดท้ายผู้บริโภคจะมองเห็นความตั้งใจอย่างแน่นอน
 
เคล็ดลับความสำเร็จของเอิร์ธบอร์น จึงไม่ใช่แค่การสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้า แต่รวมถึงการพัฒนาคุณภาพให้ดีที่สุดด้วย
 

RECCOMMEND: ENTREPRENEUR

ขายดีจนต้องจำกัดการซื้อ! LoafyCo Bakery ขายขนม 2,000 ชิ้นต่อวัน เพราะคนต่อคิวซื้อไม่หยุด

ไม่ง่ายเลยที่ร้านเบเกอรี่เล็กๆ ย่านชานเมืองจะมีคิวแน่นหน้าร้านทุกวัน จนต้องจำกัดจำนวนการซื้อ แต่ LoafyCo Bakery House คือข้อยกเว้นนั้น จากจุดเริ่มต้นเล็กๆ สู่ยอดขายวันละ 1,000-2,000 ชิ้น และรายได้ 4 ล้านต่อเดือน..ทำได้อย่างไร?

“แหนมวาสนา” จากรสมือแม่..สู่แบรนด์อาหารอีสาน ที่มุ่งมั่นพัฒนาส่งต่อวัฒนธรรมอาหารอีสานสู่ครัวโลก

ในทุกคำของแหนมวาสนา ไม่ได้มีแค่รสเปรี้ยวกลมกล่อมของอาหารอีสาน แต่ยังเต็มไปด้วยความรักและความตั้งใจของครอบครัว ที่ส่งต่อจากรุ่นแม่สู่รุ่นลูก นิชา-ณัฐธีรยา ชัยวิสิทธิ์  ที่พลิกโฉมแหนมวาสนาให้กลายเป็นแบรนด์อาหารพื้นถิ่นที่ก้าวสู่เวทีระดับโลก

ปณิธาน มีไชยโย กับภารกิจปั้นเกษตรไทยให้คนทั้งโลกจดจำ จากตลาดท้องถิ่น สู่ชั้นพรีเมียมโลก

วันนี้ อ.ต.ก. กำลังเปลี่ยนบทบาทครั้งใหญ่ ไม่ใช่แค่ “จัดตลาด” แต่กลายเป็น “นักการตลาดระดับประเทศ” ที่ช่วยให้เกษตรกรไทยปั้นแบรนด์ เจาะตลาดพรีเมียม และพาของไทยไปยืนเคียงสินค้าระดับโลก