ไอเดียเปลี่ยนโลก! MALAPINN การ์ดทำมือสุดคูลจากแพ็กเกจจิ้งเหลือทิ้ง

Text : WAN. K
Photo : MALAPINN



Main idea
 
  • หลายคนอาจเห็นว่ากระดาษเหลือๆ ชิ้นเล็กชิ้นน้อยนั้นเอาไปทำอะไรไม่ได้ แต่ไม่ใช่กับ MALAPINN ที่ใช้ความครีเอทเปลี่ยนกระดาษเหลือจากการทำแพ็กเกจจิ้งของสินค้าหลักของแบรนด์ มาเป็นการ์ดอวยพรแฮนด์เมดแบบอาร์ตๆ
 
  • การ์ดแต่ละใบจะถูกบรรจง ลงลายเส้นภาพวาดเด็กจ้ำม่ำหน้าตาน่ารักน่าชัง ดอกไม้และข้อความภาษาอังกฤษเก๋ๆ เอาไว้ เพื่อสื่อถึงการส่งมอบความหวังดีและเจริญเติบโตไปด้วยกัน
 
  • ไอเดียเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเช่นนี้ นอกจากจะทำให้แบรนด์ไม่สร้างภาระให้กับโลกแล้ว ยังช่วยสร้างความแตกต่างให้กับตลาดการ์ดที่ยังมีช่องว่างอีกมากรอให้ผู้เล่นเข้ามาเติมเต็มได้


     กระแสความกรีนและ Zero Waste ยังคงแรงต่อเนื่องไปทั่วโลก หลายต่อหลายแบรนด์ต่างก็ลุกขึ้นมาผลิตสินค้าหรือบริการที่สามารถตอบโจทย์และสอดคล้องไปกับเทรนด์รักษ์โลกเช่นนี้ ในบ้านเราเองก็เช่นเดียวกัน ผู้ประกอบการหลายรายไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ต่างพากันปรับตัวรับกับความเปลี่ยนแปลงที่ว่า หนึ่งในนั้นก็คือ MALAPINN แบรนด์ที่มองเห็นคุณค่าและแปลงโฉมให้กับกระดาษเหลือใช้จากบรรจุภัณฑ์ มาเป็นการ์ดอวดพรแฮนด์เมดแบบสุดอาร์ต
 
     “อย่างน้อยให้สิ่งที่จะเป็นขยะ กลายเป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์ได้ไม่มากก็น้อย ต่อคนอื่น ต่อสังคม และต่อสิ่งแวดล้อม...เราไม่อยากให้ทุกๆ ส่วนเป็นภาระ ไม่อยากให้เป็นของเหลือ ถึงแม้ว่าจะเป็นจุดเล็กๆ แต่ถ้าเป็นประโยชน์ได้ เราก็อยากจะทำ”
 




     โจ-สิรินทร์ ยงพัฒนาสิน เจ้าของแบรนด์ MALAPINN เล่าให้ฟังว่า “พรมาลา” หรือพรจากดอกไม้ เป็นการ์ดอวยพรทำมือที่ทำมาจากเศษกระดาษเหลือทิ้งจากการทำแพ็กเกจจิ้งของแบรนด์ ซึ่งเป็นโปรเจกต์ล่าสุดที่เพิ่งเปิดตัว โดยเป็นไอเดียที่ต่อยอดมาจากโปรดักต์หลักของแบรนด์อย่างศิลปะกระดาษที่สามารถกระจายกลิ่นได้ ซึ่งกลิ่นที่ว่านั้นมาน้ำมันสกัดของดอกไม้และสมุนไพร ทำให้มีสรรพคุณในการบำบัด ปรับคลื่นสมองและเพิ่มความผ่อนคลายให้กับผู้ใช้
 



     เพราะส่วนที่เหลือ...ไม่ใช่ส่วนที่เสีย...และไม่มีคำว่าเป็นส่วนเกิน 

     เวลาเจาะกล่องกระดาษเพื่อเอามาทำเป็นแพ็กเกจจิ้งให้กับสินค้าหลักของแบรนด์ จะเหลือในส่วนของขอบอยู่ ซึ่งถ้าเป็นคนทั่วไปก็จะนำไปทิ้ง แต่ด้วยปริมาณที่มากและคุณภาพของกระดาษที่เราใช้ ซึ่งเป็นกระดาษปอนด์ 300 แกรมอย่างดี ทำให้ถ้าจะต้องทิ้งไปเฉยๆ ก็รู้สึกเสียดาย ทั้งยังกลายเป็นขยะและสร้างภาระให้กับสิ่งแวดล้อมอีก เราเลยหยิบเอามาทำเป็นการ์ดอวยพร ซึ่งนอกจากจะเป็นประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อมแล้ว รายได้ส่วนหนึ่งจะส่งต่อให้กับมูลนิธิชัยพัฒนาด้วย เพราะอยากให้ผลงานของเรา ที่นอกจากทำด้วยใจส่งผ่านให้กับลูกค้าซื้อไปให้คนพิเศษแล้ว ยังสามารถช่วยเหลือผู้อื่นผ่านมูลนิธิได้อีกด้วย
 

      เพราะเด็กคือสัญลักษณ์ของการเติบโต...การ์ดทุกใบเลยต้องมีเด็กหน้าตาน่ารักอยู่ด้วยเสมอ


     การ์ดของเราไม่ใช่การ์ดเปล่าๆ แต่จะมีหน้าของเด็กน้อยน่ารักๆอยู่ด้วย เพราะเด็กแสดงถึงการเจริญเติบโต ความก้าวหน้าและการเริ่มต้นใหม่ๆ ที่สำคัญการ์ดแต่ละใบจะมีภาพวาดของดอกไม้ เพื่อสื่อถึงการเป็นพรจากดอกไม้ที่จะส่งต่อไปให้ยังผู้รับ บวกกับข้อความภาษาอังกฤษเก๋ๆที่มีความหมายดีๆ เช่น Today is a Great Day โดยภาพวาดและข้อความทั้งหมดนั้นเป็นฝีมือของเราเอง วาดเอง เขียนเองและลงสีเองทั้งหมดแบบสดๆไม่ได้ร่างไว้ก่อนเลย ถ้าสังเกตดีๆ จะเห็นว่าเด็กที่วาดแต่ละคนจะไม่เหมือนกัน และเป็นเด็กที่ดูอ้วนท้วนสมบูรณ์ ซึ่งเราอยากจะสื่อให้เห็นว่า เวลาที่มอบการ์ดนี้ให้กับคนพิเศษก็เหมือนเป็นการมอบความเจริญเติบโตและการเริ่มต้นที่ดีให้   

 



   เพราะตัวเลือกที่มีอยู่ในตลาดยังตอบโจทย์ไม่พอ...การ์ดอวยพรแบบแฮนด์เมดเลยต้องเข้ามาสร้างสีสัน


     เราทำออกมาตีตลาด Niche หรือกลุ่มคนที่ต้องการการ์ดอวยพรแบบไม่หมือนใคร เป็นงานแฮนด์เมดแบบ 100 เปอร์เซ็นต์ ถ้าเราไปดูการ์ดที่มีอยู่ในตลาดทั่วไป จะเห็นว่ามีราคาแพงแต่กลับไม่มีอะไรเลย บางครั้งเป็นแค่การพิมพ์ลาย 2 หน้า ไม่ได้มีลูกเล่นหรือความแปลกใหม่อะไร นอกจากนี้ ด้วยความที่เคยทำงานบริษัทมาก่อน เวลาที่ต้องสั่งดอกไม้ไปให้ลูกค้า การ์ดที่มีก็ไม่ค่อยน่ารัก หรือที่น่ารักก็ไม่ค่อยมี ทางเลือกเลยน้อย ทำให้เรารู้สึกว่าจะดีกว่าไหมถ้าจะทำการ์ดที่สามารถสร้างความแตกต่างให้กับตลาดและตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้ ซึ่งถ้ามองในบ้านเรา ตลาดการ์ดเมืองไทยอาจจะยังไม่ค่อยโตนัก ซึ่งเป็นข้อดีสำหรับเรา ที่สำคัญ อย่ามองว่าเป็นสินค้าที่ขายได้เฉพาะช่วงเทศกาลเท่านั้น เพราะตราบใดที่คนยังซื้อของขวัญและใช้การ์ดอยู่ ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่สามารถใช้ได้ในทุกโอกาส


 

     เพราะทุกลายเส้นเกิดจากความตั้งใจ...เลยอยากให้คนรับได้เห็นความจริงใจ


     ประเด็นสำคัญอีกอย่างของไอเดียนี้ก็คือ เราอยากทำการ์ดอะไรก็ตามที่คนรับไปแล้ว หรือลูกค้าซื้อของเราไปแล้วให้กับคนอื่น เห็นว่ามันยังพอมีค่าที่จะเก็บรักษาไว้ ไม่อยากให้เขาทิ้งเป็นขยะ ซึ่งความตั้งใจของการลงมือวาดเอง เขียนเอง น่าจะพอทำให้พวกเขาฉุกคิดได้บ้าง อีกทั้งตัวการ์ดของเรามีความแตกต่าง เพราะว่ายังไม่เคยเห็นว่ามีการทำการ์ดที่วาดด้วยมือ ส่วนใหญ่จะใช้การพิมพ์มากกว่า ซึ่งพอเป็นการวาดด้วยมือนั้นก็ทำให้ไม่เหมือนใคร ภาพเด็กที่วาดก็เป็นเด็กในจินตนาการของเรา ถือเป็นลายเซ็นต์ของเราเอง ตัวฟอนต์ที่เขียนก็เป็นลายมือเราเอง ถ้าเราทำต่อไปเรื่อยๆ พอใครมองก็จะรู้ว่าเป็นของเรา
 
 
 

     เพราะศิลปะไม่มีขีดจำกัด...การ์ดแบบอาร์ตๆ เลยไม่หยุดแค่ที่ลายเส้น


     นอกจากการวาดภาพเด็กและดอกไม้บนกระดาษแบบเรียบง่ายแล้ว เรายังมองไปถึงการเพิ่มลูกเล่นอย่างอื่นให้กับชิ้นงานอีกด้วย เช่น การทำ Paper Engineering ที่เป็น Pop-up กระดาษแบบหลายชั้น เพิ่มมิติให้กับตัวการ์ด ซึ่งตัวกระดาษก็จะมาจากเศษของแพ็กเกจจิ้งที่เหลือเหมือนกัน รวมไปถึงเศษกระดาษเหลือใช้อื่นๆ
 




     เพราะแค่มอง...ไม่มีใครรู้หรอกว่าสินค้าเราดียังไง...ต้องอาศัยความ Creative มาเป็นตัวดึงดูด


     การใช้ความ Creative มาจับใส่ในสินค้านั้นเป็นสิ่งที่สำคัญมาก อย่างแรกลูกค้าไม่รู้หรอกว่าสินค้าเราดียังไง แต่อย่างน้อยก็ต้องดึงดูดสายตาก่อน ซึ่งเข้ากับคอนเซปต์ของแบรนด์เราที่ว่า สวยรูป จูบหอม คือต้องเห็นแล้วสวยก่อน พอเกิดการดึงดูด ลูกค้าก็จะมาถามเองว่าสินค้านี้คืออะไร เพราะเรื่องของรูปลักษณ์ที่ดีและสะดุดตานั้นเป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้ ตราบใดที่ทุกวันนี้คนยังมีตาเพื่อที่จะมอง ดังนั้นก็เลี่ยงไม่ได้ที่สินค้าจะต้องสวยงาม แต่จะสวยงามแค่ไหน ยังไงก็ต้องเป็นความสวยงามที่ไม่เหมือนใครด้วยถึงจะดึงดูดใจลูกค้าได้ เพราะถ้าสวยงามอย่างเดียวก็จะไม่สามารถสร้างความแตกต่างได้นั่นเอง  
 


www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี
 

RECCOMMEND: ENTREPRENEUR

อย่างอาร์ต! MAMAD แบรนด์แฟชั่น X ศิลปะ วาดลวดลายสไตล์ Semi Abstract สร้างความแปลก ออกแบบ “ศิลปะที่สวมใส่ได้”

“Me As My Art Daily” ศิลปะคือส่วนหนึ่งของตัวตนเราในทุกวัน คือนิยามของแบรนด์แฟชั่นสุดอาร์ตอย่าง MAMAD ที่นำเอาศิลปะและแฟชั่นมาผสานกัน กลายเป็นกระเป๋า เสื้อผ้า และหมวกที่เต็มไปด้วยเอกลักษณ์ ความแปลกตา และสไตล์ที่ไม่ซ้ำใคร

Nyana Nyana Eco Fashion อดีตสถาปนิกนักสู้มะเร็ง สู่เจ้าของแบรนด์แฟชั่นออร์แกนิก เป็นมิตรต่อผู้สวมใส่ และสิ่งแวดล้อม

Nyana Nyana Eco Fashion แบรนด์แฟชั่นของอดีตสถาปนิกหญิงสิงคโปร์ที่ไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตา แม้พบว่าป่วยเป็นมะเร็ง แต่ “Clara Simanjuntak” กลับใช้เป็นแรงบันดาลใจ เพื่อเปลี่ยนแปลงชีวิต ทำสิ่งดีๆ รวมถึงการสร้างแบรนด์เสื้อผ้าจากผ้าออร์แกนิก

บ้านโอบอุ่น ธุรกิจเล็กๆ ของนักศึกษาพยาบาล ที่ทำให้คนแปลกหน้ากลายเป็นเพื่อนกัน

พาไปรู้จักบ้านโอบอุ่น ธุรกิจโฮมสเตย์เล็กๆ ที่ปลูกขึ้นกลางทุ่ง ของ อั้ม-พัชราภา อ่ำปั้นนักศึกษาพยาบาล ที่นั่งรถไฟจากพิษณุโลกไปเชียงดาวทุกสัปดาห์เพื่อมาทำโฮมสเตย์เล็กๆ ที่เปลี่ยนคนแปลกหน้าให้กลายเป็นเพื่อนกัน