ธุรกิจผู้สูงอายุยังขาดตลาด! SME อย่าพลาดโอกาสโตรับกระแสโลก




Main Idea 
 
  • ในขณะที่หลายธุรกิจกลายเป็นตลาด Red Ocean เต็มไปด้วยคู่แข่งขันเต็มสนาม แต่บางธุรกิจกลับยังขาดแคลน ทั้งยังมีโอกาสเติบโตได้อีกเยอะมาก
 
  • เรากำลังพูดถึง ธุรกิจดูแลผู้สูงอายุ ที่มีความต้องการใช้บริการสูงขึ้นแบบก้าวกระโดด จากการเพิ่มขึ้นของพลเมืองผู้สูงอายุ กลายเป็นบริการที่ยังคงขาดแคลนและโตไม่ทันตามความต้องการของตลาด และนั่นคือโอกาสของ SME




     วันนี้การทำธุรกิจมีแต่ความยากลำบาก โดยเฉพาะหากอยู่ในตลาดที่เต็มไปด้วยคู่แข่งขัน การมองหา Blue Ocean ใหม่ๆ คือหนึ่งในทางออกและคำตอบของผู้ประกอบการ SME ในวันนี้
หนึ่งในธุรกิจที่ทั่วโลกกำลังพูดถึง คือ ธุรกิจดูแลผู้สูงอายุ ที่ยังมีความต้องการสูง เพื่อรองรับจำนวนผู้สูงอายุที่เพิ่มขึ้น สำหรับประเทศไทยธุรกิจนี้ยังอยู่ในสภาวะที่ขาดตลาด ตามการเปิดเผยของ วีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ หลังพบปัญหาว่าจำนวนธุรกิจดูแลผู้สูงอายุเติบโตไม่ทันความต้องการของตลาด จนต้องมาสร้างแรงจูงใจเพื่อให้มีการลงทุนในธุรกิจนี้เพิ่มมากขึ้น รองรับความต้องการใช้บริการที่สูงขึ้นแบบก้าวกระโดด
 

ธุรกิจดูแลผู้สูงอายุยังคงขาด โอกาสของผู้ประกอบการไทย


     โดยจากการสำรวจพบว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีผู้ประกอบธุรกิจดูแลผู้สูงอายุ จำนวนทั้งสิ้น 800 ราย แบ่งเป็น นิติบุคคล จำนวน 341 ราย คิดเป็นร้อยละ 42.63 ทุนจดทะเบียนรวม 2,136.39 ล้านบาท และบุคคลธรรมดา จำนวน 459 ราย คิดเป็นร้อยละ 57.37 ในขณะที่ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ (Aging Society) อย่างเต็มรูปแบบในอีก 1-2 ปีข้างหน้า โดยคาดว่าในปี 2563 ประเทศไทยจะมีผู้สูงอายุที่มีอายุเกิน 60 ปี ราว 13 ล้านคน และในปี 2573 จะมีผู้สูงอายุเกินกว่า 18 ล้านคน หรือร้อยละ 27 ของจำนวนประชากรทั้งประเทศ (ที่มา : สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ)




     ไม่เพียงเฉพาะประเทศไทยเท่านั้น แต่ทั่วโลกโดยเฉพาะกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว ก็จะมีจำนวนผู้สูงอายุเพิ่มมากขึ้น เช่น ญี่ปุ่น ยุโรป อเมริกา และประเทศในกลุ่มนอร์ดิก เช่น ไอซ์แลนด์ และฟินแลนด์ เป็นต้น
ดังนั้นเมื่อเปรียบเทียบสัดส่วนของจำนวนผู้สูงอายุในประเทศกับจำนวนธุรกิจดูแลผู้สูงอายุจะเห็นได้ว่าธุรกิจดูแลผู้สูงอายุยังคงขาดแคลนและโตไม่ทันตามความต้องการของตลาด จึงจำเป็นต้องเร่งพัฒนาธุรกิจดูแลผู้สูงอายุในประเทศให้มีระบบการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพและมีมาตรฐานเทียบเท่าระดับสากล พร้อมหาวิธีสร้างแรงจูงใจให้ภาคธุรกิจเข้ามาลงทุนในธุรกิจดูแลผู้สูงอายุเพิ่มมากขึ้น


     “ซึ่งนี่ไม่เพียงแต่จะช่วยรองรับจำนวนผู้สูงอายุที่เพิ่มขึ้นเท่านั้น แต่ยังเป็นการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงวัยให้ได้รับการดูแลที่ดีขึ้น นอกเหนือจากรัฐสวัสดิการที่รัฐบาลได้จัดสรรให้ และถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้สูงอายุในการใช้ชีวิตหลังวัยเกษียณ ซึ่งปัจจุบันบุตรหลานมักจะเลือกใช้บริการธุรกิจดูแลผู้สูงอายุในประเทศในการดูแลบุพการีหรือผู้สูงวัย ฉะนั้น ธุรกิจดูแลผู้สูงอายุของประเทศไทยจึงมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก นอกจากนี้ ยังนับเป็นโอกาสที่ดีของไทยในการสร้างรายได้เข้าประเทศจากธุรกิจดูแลผู้สูงอายุ ที่ชาวต่างชาติมักจะเดินทางเข้ามาใช้ชีวิตช่วงบั้นปลายในประเทศไทย


     เนื่องจากไทยมีความพร้อมและมีความได้เปรียบหลายด้าน เช่น คนไทยมีหัวใจรักบริการ ค่าใช้จ่ายมีความสมเหตุผล มีสถานที่ท่องเที่ยวและสถานที่พักผ่อนที่หลากหลาย นอกจากนี้ ประเทศไทยยังมีสถานบริการทางการแพทย์และสถานบริการสุขภาพที่ครบครัน ซึ่งจากองค์ประกอบที่ครบถ้วนนี้ ทำให้ธุรกิจดูแลผู้สูงอายุของไทยสามารถตอบโจทย์ผู้สูงอายุจากทั่วทุกมุมโลกได้ครบทุกมิติ และก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางธุรกิจดูแลผู้สูงอายุในระดับภูมิภาคได้” วีรศักดิ์ ชี้โอกาส




เสริมอาวุธ 4 ด้าน สร้างมาตรฐานธุรกิจดูแลผู้สูงอายุ 

 

     อย่างไรก็ตามการที่ประเทศไทยจะก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางธุรกิจดูแลผู้สูงอายุในระดับภูมิภาคได้ จำเป็นต้องมีบุคลากรที่มีความรู้และทักษะเฉพาะ ได้แก่ แพทย์ พยาบาล ผู้ช่วยการพยาบาล นักกายภาพบำบัด นักโภชนาการ และนักกิจกรรมบำบัด รวมทั้ง ต้องมีสถานบริการและการบริหารจัดการที่ได้มาตรฐานสากล ซึ่งกรมพัฒนาธุรกิจการค้า รับหน้าที่เข้ามาดูแลเรื่องมาตรฐานการบริหารจัดการฯ โดยเน้นการส่งเสริมพัฒนาให้มีมาตรฐานคุณภาพการบริหารจัดการธุรกิจ


     ซึ่งประกอบด้วย 1) การสร้างองค์ความรู้ และเสริมสร้างศักยภาพด้านการบริหารจัดการ 2) พัฒนาธุรกิจบริการสู่เกณฑ์มาตรฐานคุณภาพตามแนวทางของรางวัลคุณภาพแห่งชาติ (Thailand Quality Award : TQA) 3) สร้างโอกาสทางการตลาดและเชื่อมโยงเครือข่ายธุรกิจดูแลผู้สูงอายุที่มีศักยภาพกับตลาดผ่านแพลทฟอร์ม หรือ ช่องทางการตลาดของกลุ่ม Startup ที่เกี่ยวข้อง
               

     ทั้งนี้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์  ให้ข้อมูลต่อว่า ธุรกิจดูแลผู้สูงอายุ เกี่ยวเนื่องและก่อเกิดรายได้ต่อเนื่องกับธุรกิจหลากหลายประเภท เช่น บริการออกแบบที่พักอาศัย การท่องเที่ยว บริการความงาม โรงพยาบาล ประกันสุขภาพ ประกันชีวิต โรงเรียนสอนบุคลากรดูแลผู้สูงวัย การค้าออนไลน์ การทำธุรกรรมออนไลน์ และการบริการหลังความตาย ฯลฯ เป็นต้น ดั้งนั้น การเติบโตของธุรกิจดูแลผู้สูงอายุจึงเป็นการขยายโอกาสทางธุรกิจให้แก่ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องด้วยเช่นกัน
               



     อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยยังมีประเทศเพื่อนบ้านที่เป็นคู่แข่งทางธุรกิจด้านดูแลผู้สูงอายุ ดังนั้นหากผู้ประกอบการไทยต้องการสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันที่เหนือกว่า โดยควรมีการติดตาม ศึกษา วิเคราะห์เปรียบเทียบกับคู่แข่งอยู่เสมอ มีการพัฒนารูปแบบการให้บริการเพื่อสร้างความแตกต่าง นำนวัตกรรมมาช่วยบริหารจัดการ ซึ่งจะช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ธุรกิจ ตลอดจนเป็นการยกระดับให้ธุรกิจดูแลผู้สูงอายุสามารถแข่งขันได้ในระดับสากล พร้อมผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของธุรกิจดูแลผู้สูงอายุในระดับภูมิภาคด้วย


     ปัจจุบันธุรกิจดูแลผู้สูงอายุในประเทศไทย แบ่งออกเป็น 5 รูปแบบ คือ 1) บ้านพักคนชรา (residential Home)  2) สถานบริการช่วยเหลือในการดำรงชีวิต (Assisted Living) 3) สถานบริบาล (Nursing Home) 4) สถานดูแลระยะยาวในโรงพยาบาล (Long-term Care Hospital) และ 5) สถานดูแลระยะสุดท้าย (Hospice Care)


      SME ที่สนใจก็สามารถมาศึกษา และนำไปต่อยอดสร้างโอกาสธุรกิจให้ตัวท่านเองได้
 
 
       ที่มา : กรมพัฒนาธุรกิจการค้า                                                                              
 




www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี
 

RECCOMMEND: ENTREPRENEUR

อย่างอาร์ต! MAMAD แบรนด์แฟชั่น X ศิลปะ วาดลวดลายสไตล์ Semi Abstract สร้างความแปลก ออกแบบ “ศิลปะที่สวมใส่ได้”

“Me As My Art Daily” ศิลปะคือส่วนหนึ่งของตัวตนเราในทุกวัน คือนิยามของแบรนด์แฟชั่นสุดอาร์ตอย่าง MAMAD ที่นำเอาศิลปะและแฟชั่นมาผสานกัน กลายเป็นกระเป๋า เสื้อผ้า และหมวกที่เต็มไปด้วยเอกลักษณ์ ความแปลกตา และสไตล์ที่ไม่ซ้ำใคร

Nyana Nyana Eco Fashion อดีตสถาปนิกนักสู้มะเร็ง สู่เจ้าของแบรนด์แฟชั่นออร์แกนิก เป็นมิตรต่อผู้สวมใส่ และสิ่งแวดล้อม

Nyana Nyana Eco Fashion แบรนด์แฟชั่นของอดีตสถาปนิกหญิงสิงคโปร์ที่ไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตา แม้พบว่าป่วยเป็นมะเร็ง แต่ “Clara Simanjuntak” กลับใช้เป็นแรงบันดาลใจ เพื่อเปลี่ยนแปลงชีวิต ทำสิ่งดีๆ รวมถึงการสร้างแบรนด์เสื้อผ้าจากผ้าออร์แกนิก

บ้านโอบอุ่น ธุรกิจเล็กๆ ของนักศึกษาพยาบาล ที่ทำให้คนแปลกหน้ากลายเป็นเพื่อนกัน

พาไปรู้จักบ้านโอบอุ่น ธุรกิจโฮมสเตย์เล็กๆ ที่ปลูกขึ้นกลางทุ่ง ของ อั้ม-พัชราภา อ่ำปั้นนักศึกษาพยาบาล ที่นั่งรถไฟจากพิษณุโลกไปเชียงดาวทุกสัปดาห์เพื่อมาทำโฮมสเตย์เล็กๆ ที่เปลี่ยนคนแปลกหน้าให้กลายเป็นเพื่อนกัน