Main Idea
- “กรุงเทพฯ” อาจเป็นตลาดเป้าหมายในการทำธุรกิจของสินค้าและแบรนด์ต่างๆ เพื่อกระจายสินค้าไปยังผู้บริโภคจำนวนมาก
- แต่อาจไม่ใช่คำตอบสำหรับ “เทพไทย” ยาสีฟันสมุนไพรไทยที่ริเริ่มจากคนกรุงเทพฯ แต่เลือกที่จะไปเติบโตอยู่ในต่างจังหวัดกับสภาพแวดล้อมที่มีความสุข ชีวิตไม่ต้องเร่งรีบอะไรมากมาย และถึงแม้จะมีโอกาสให้ต้องขยายธุรกิจเพิ่มขึ้นอีกครั้งหนึ่ง คำตอบที่ได้ก็ยังคงเดิมไม่เปลี่ยนแปลงไป
โดยส่วนใหญ่แล้วในการคิดจะทำธุรกิจขึ้นมาสักตัวหนึ่ง โดยเฉพาะสินค้าอุปโภคบริโภคที่ต้องการทำตลาดกับผู้ใช้หมู่มาก หมุดหมายแรกๆ ที่หลายธุรกิจเลือกที่จะเปิดตัวหรือตั้งฐานทัพ เพื่อสร้างฐานลูกค้ากระจายความนิยมออกไป จนถึงสร้างเนื้อสร้างตัวขึ้นมาได้ในที่สุด ก็คือกรุงเทพมหานครและปริมณฑล เมืองใหญ่ใจกลางประเทศเรานั่นเอง เหตุผลก็เพราะทั้งในแง่ของปริมาณคน กำลังการซื้อ ไปจนถึงค่าขนส่งที่ประหยัดกว่า
แต่นั่นอาจไม่ใช่กับ “เทพไทย” ยาสีฟันสมุนไพรสูตรเข้มข้นที่เจ้าของผู้ริเริ่มเป็นคนกรุงเทพฯ แต่กลับเลือกที่จะไปเริ่มต้นและเติบโตทำธุรกิจอยู่ที่ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา
โดยมีการเล่าถึงที่มาของยาสีฟันสมุนไพรเทพไทยจากทายาทรุ่นปัจจุบันว่า จุดเริ่มต้นของสูตรยาสมุนไพรนั้นได้มาจากรุ่นคุณปู่ ซึ่งเป็นแพทย์ทหารที่ใช้ภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยจากสมุนไพรในการรักษาชาวบ้าน และผู้ป่วยตามพื้นที่ต่างๆ ในยุคสงคราม รวมถึงสูตรยาสีฟันสมุนไพรไทยที่ถ่ายทอดองค์ความรู้สืบต่อกันมาจากรุ่นสู่รุ่น
ช่วงแรกนั้นก็เพียงแค่ทำใช้กันภายในครัวเรือนก่อน และแจกจ่ายใช้กันในหมู่เครือญาติ เพื่อนบ้าน ด้วยสรรพคุณที่ช่วยป้องกันและรักษาโรคเหงือกและฟันได้ดี จึงเกิดการบอกต่อและขอแบ่งซื้อมาใช้บ้าง จึงเกิดเป็นจุดเริ่มต้นของธุรกิจยาสีฟันขึ้นมา รวมถึงผลิตภัณฑ์ดูแลผิวพรรณต่างๆ จากสมุนไพรไทย ซึ่งเริ่มจากการทำยาสีฟันใส่ตลับขายก่อน โดยใส่ตะกร้าเร่ขายตามที่ต่างๆ
จนมาเริ่มทำเป็นธุรกิจจริงจังขึ้นมาในปี 2540 ในช่วงที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจ ซึ่งแทนที่จะเลือกปักหลักสร้างธุรกิจอยู่ในกรุงเทพฯ ก็กลับเลือกลงไปสร้างโรงงานผลิตอยู่ที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลาแทน เนื่องจากมองว่ามีค่าครองชีพไม่แพง และมีคู่แข่งน้อยกว่ากรุงเทพฯ กระทั่งได้เข้ามีโอกาสเข้าร่วมออกงานแสดงสินค้า OTOP จึงได้ศึกษาหาความรู้และสมัครเข้าร่วมเป็นสินค้าโอทอปหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ของจังหวัดสงขลาขึ้นมาในปี 2545 จนปัจจุบันได้รับคัดเลือกให้เป็น “OTOP Selected” จากกระทรวงพาณิชย์ และเป็นสินค้า OTOP ระดับ 5 ดาวของจังหวัดสงขลานั่นเอง
จากสินค้าโอทอปที่โดดเด่น เพื่อให้ธุรกิจไปต่อได้ จึงมีการร่วมงานกับบริษัทคู่ค้าเพื่อช่วยทำการตลาดให้ จากนั้นผลิตภัณฑ์เทพไทยจึงได้เริ่มออกสู่ตลาดที่กว้างขึ้นประมาณปี 2557 โดยเริ่มมีวางจำหน่ายในโมเดิร์นเทรด ร้านสะดวกซื้อต่างๆ และนำมาสู่การทำตลาดกับผู้บริโภคออกไปวงกว้าง บวกกับการเลือกใช้พรีเซ็นเตอร์เป็นดาราดัง เพื่อทำตลาดและสร้างภาพลักษณ์ยาสีฟันสมุนไพรไทยให้ดูทันสมัย และเข้าถึงได้ง่ายขึ้น
ส่วนที่มาของชื่อ เทพไทย นั้นมาจากการเปรียบเปรยว่า ธรรมชาติ ก็เหมือนกับสวรรค์ โดยมีสมุนไพรเป็นสิ่งที่ฟ้าประทานหรือเหล่าเทพส่งมาให้แก่มนุษย์ เพื่อใช้ดูแลรักษาตนเองนั่นเอง
โดยปัจจุบันนอกจากขายในประเทศเป็นหลักแล้ว ยังมีการส่งออกไปยังตลาดประเทศเพื่อนบ้าน ได้แก่ สิงคโปร์ ลาว กัมพูชา จีน เพิ่มเติมขึ้นมาด้วย รวมถึงการเพิ่มช่องทางผ่านตลาดออนไลน์ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า โดยมียอดการผลิตมากกว่าหลายล้านหลอดต่อเดือน โดยนอกจากยาสีฟันสมุนไพรแล้ว ยังมีผลิตภัณฑ์สมุนไพรอื่นๆ อาทิ แป้ง สบู่ ครีมอาบน้ำ โลชั่นบำรุงผิวเพิ่มเติมเข้ามาด้วย
ด้วยกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นทำให้ต้องขยายโรงงานเพิ่มขึ้นอีกแห่งหนึ่ง ซึ่งนับเป็นอีกจุดของเทพไทยที่จะก้าวเติบโตขึ้นไปอีกขั้นหนึ่ง แต่ถึงแม้โอกาสจะเข้ามาให้เลือกอีกครั้งหนึ่ง เทพไทยก็ยังเลือกที่จะขยายโรงงานการผลิตออกไปในพื้นที่อำเภอนาหม่อม จังหวัดสงขลา ซึ่งเป็นพื้นที่เริ่มต้นของธุรกิจแทนที่จะเลือกกลับเข้ามาในกรุงเทพฯ เหตุผลก็เป็นเพราะว่าต้องการใช้ชีวิตทำธุรกิจอย่างมีความสุขในพื้นที่ที่มีคุณภาพชีวิตที่ดี ไม่เร่งรีบมากจนเกินไป ที่สำคัญได้ช่วยเหลือชุมชนให้มีงานทำ และมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นด้วย
และนี่คือที่มาของยาสีฟันโอทอปที่มีแนวคิดแบบพอเพียง คำนึงถึงความก้าวหน้าและความสุขในการทำธุรกิจไปพร้อมๆ กัน รวมถึงประโยชน์แก่ชุมชนรอบข้างที่จะได้รับด้วย
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี
