
Main Idea
การตั้งโจทย์นวัตกรรมในแบบ “พริกค่ะ สไปซี่ คอฟฟี่”
- ทำสินค้าที่มีตลาดใหญ่ คนต้องกินต้องใช้
- ต้องไม่เคยมีคนทำมาก่อน ไม่เคยมีใครรู้จัก
- ต้องแตกต่างด้านรสชาติ และคนสัมผัสถึงความต่างได้
- ต้องอร่อยและมีประโยชน์ต่อสุขภาพด้วย
- สร้างประสบการณ์ผู้บริโภค คนกินแล้วรู้สึกได้ว่ามีประโยชน์
- มีอัตลักษณ์ความเป็นไทย เพื่อปูทางสู่ตลาดโลก

เชื่อกันว่า “นวัตกรรม” คือแต้มต่อธุรกิจ ที่จะทำให้ SME กลายเป็นแจ็คผู้ฆ่ายักษ์ขึ้นมาได้ เหมือนเช่นแบรนด์เล็กๆ ที่ชื่อ “พริกค่ะ สไปซี่ คอฟฟี่” (PRIKKA Spicy Coffee) ที่แจ้งเกิดในธุรกิจกาแฟสำเร็จรูปด้วยการเป็น กาแฟพริกสูตรแรกของโลก ที่ได้รับการประกาศขึ้นบัญชีนวัตกรรมไทยเป็นที่เรียบร้อย แถมยังคว้ารางวัลระดับโลกมาการันตีความสำเร็จอีกมากมายด้วย
เบื้องหลังคนต้นคิดเป็นเภสัชกร เติบโตมาในครอบครัวที่ทำโรงงานผลิตยา เธอคือ “เภสัชกรหญิง ศศิมา อาจสงคราม” เจ้าของบริษัท Star Herb Oharma จำกัด ที่มาต่อยอดธุรกิจครอบครัวโดยขยายเป็นโรงงานผลิตอาหารเสริมทั้งรับจ้างผลิต (OEM) และขายในแบรนด์ของตัวเอง
วันหนึ่งเธอกลับมานั่งคิดว่า อยากมีสินค้าสักตัวที่เป็นเหมือนธงนำ เป็นดาวเด่น ที่สร้างทั้งยอดขาย และสร้างความรู้จักให้กับโรงงานของเธอ จึงคิดถึงสินค้าที่เป็นนวัตกรรม
ว่าแต่นวัตกรรมแบบไหนล่ะ? ที่จะเป็นที่ต้องการของตลาดและประสบความสำเร็จขึ้นมาได้

วิจัยตลาดก่อนพัฒนานวัตกรรมให้ทำเงิน
หลายคนอาจเริ่มต้นธุรกิจนวัตกรรมด้วย “ตัวสินค้า” แต่สำหรับชาวพริกค่ะ พวกเขาเริ่มจากการวิจัยตลาดเพื่อเสาะหาโอกาสในการขาย โดยโจทย์คือ ต้องการทำสินค้าที่มีคนกินคนใช้จำนวนมาก มีความต้องการในตลาดที่ใหญ่ เพราะการวิจัยและพัฒนาสินค้านวัตกรรมขึ้นมาสักตัวนั้นต้องใช้เวลา ฉะนั้นการไปทำเป็นสินค้าที่ไม่ค่อยมีคนใช้ ก็คงไม่ใช่เรื่องที่คุ้มนัก
ผลจากการวิจัยตลาดทำให้มองเห็นว่า “กาแฟ” เป็นหนึ่งในโอกาสที่น่าสนใจ เพราะผลสำรวจพบว่า กาแฟเป็นเครื่องดื่มยอดนิยมที่คนทั่วโลกดื่มมากที่สุดเป็นอันดับ 2 รองจากน้ำเปล่า และยังเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ (Commodities) ที่คนบริโภคมากที่สุดเป็นอันดับ 2 รองจากน้ำมันอีกด้วย ฉะนั้นปริมาณความต้องการกาแฟในโลกจึงมีมหาศาล
กลับมาดูที่โอกาสของตลาดกาแฟ พบว่า ครึ่งหนึ่งของมูลค่าตลาดกาแฟเมืองไทยมาจากกาแฟสำเร็จรูป แต่กาแฟสำเร็จรูปที่มีขายอยู่ในท้องตลาดส่วนใหญ่ยังมีรสชาติที่แทบจะไม่แตกต่างกันเลยในแต่ละยี่ห้อ นึกภาพตามว่าถ้าฉีกซองกาแฟทรีอินวันลงแก้ว ก็ยากที่จะมีใครตอบได้ว่าเป็นของแบรนด์ไหน และรสชาติของแต่ละแบรนด์แตกต่างกันอย่างไร ผู้บริโภคจึงยังขาดทางเลือกที่ใช่ มองกลับมาที่ส่วนผสมของกาแฟซองส่วนใหญ่ยังมีน้ำตาลกับครีมเทียมในปริมาณที่มาก ซึ่งไม่สอดรับกับพฤติกรรมผู้บริโภคยุคนี้ที่ให้ความสำคัญกับเรื่องสุขภาพกันมากขึ้นด้วย
เธอจึงตั้งใจว่า อยากทำกาแฟสำเร็จรูปที่มีนวัตกรรมและต้องดีกับสุขภาพของคนดื่มด้วย

4 โจทย์ กำหนดทิศพัฒนาสินค้านวัตกรรม
การพัฒนากาแฟนวัตกรรมในแบบพริกค่ะ เริ่มจากกำหนดโจทย์ไว้ 4 ข้อ ดังนี้
- จะต้องทำกาแฟที่โลกนี้ยังไม่เคยมีมาก่อน ไม่เคยมีใครรู้จัก นั่นคือต้องเป็นกาแฟที่มีความแตกต่างด้านรสชาติ กินแล้วจะต้องสัมผัสได้ถึงความแตกต่างนั้น
- นอกจากจะอร่อยแล้วยังต้องมีประโยชน์ด้วย ดังนั้นกาแฟที่ทำออกมาต้องมี Health Benefit คือมีประโยชน์ต่อสุขภาพของคนดื่มด้วย
3. Health Benefit ที่มีนั้นคนกินจะต้องรับรู้ได้ นั่นคือต้องเป็น Customer Experience ที่ดื่มแล้วต้องรู้สึกได้ด้วยว่ามันมีประโยชน์
4. ต้องมีความเป็นไทย มีอัตลักษณ์ของความเป็นไทย เพื่อปูทางสู่การขายในตลาดโลกด้วย
จากโจทย์นี้เองที่นำมาสู่ “พริกค่ะ สไปซี่ คอฟฟี่” (PRIKKA Spicy Coffee) กาแฟสำเร็จรูปจากพริกที่มีสารสำคัญช่วยในการเผาผลาญไขมันและพลังงาน ดื่มแล้วรู้สึกได้เพราะเป็นการเผาผลาญภายในร่างกาย และเลือกใช้พริก เพราะสะท้อนอัตลักษณ์ความเป็นไทย จากการที่อาหารไทยดังไกลทั่วโลกและขึ้นชื่อในรสชาติที่จัดจ้านของพริกเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว

เริ่มจากเล็ก แต่เป้าหมายคือ Global Brand
พริกค่ะ เป็นแบรนด์ที่เริ่มจากเล็ก และใช้เวลาอยู่พอสมควรกับการวิจัยและพัฒนา ต้องล้มลุกคลุกคลาน ทำแล้วทิ้งอยู่หลายครั้งเพราะกินไม่ได้ จนแทบจะล้มเลิกไปก็หลายหน แต่ศศิมาบอกว่ายังอดทนเพราะเชื่อในสิ่งที่คิดและโอกาสที่มองเห็นในอนาคต ที่สำคัญเป้าหมายของเธอคือ Global Brand อยากเป็นแบรนด์ที่ไปโลดแล่นอยู่ในตลาดโลก
จนวันหนึ่งกาแฟพริกก็คลอดสู่ตลาด และประกาศศักดาโดยไปคว้ารางวัลระดับประเทศและระดับโลกมาได้สำเร็จ ที่เธอบอกว่าสุดแสนภูมิใจคือ การคว้าเหรียญทองจากเวทีประกวดนวัตกรรมนานาชาติ (The International Exhibition of Inventions Geneva) ณ กรุงเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งเป็นงานประกวดนวัตกรรมและสิ่งประดิษฐ์ที่ใหญ่และสำคัญที่สุดของโลกที่นวัตกรทั่วโลกใฝ่ฝันถึง และยังไปคว้ารางวัล Most Innovative Food and Beverage Product ในงานนวัตกรรมอาหารฮาลาลโลกที่ประเทศมาเลเซีย ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่ประเทศไทยได้รางวัลนี้อีกด้วย
และแน่นอนว่าวันนี้กาแฟนวัตกรรมกลายเป็นที่รู้จักของตลาดไทยและต่างประเทศเป็นที่เรียบร้อย

สำหรับใครที่อยากเป็นเจ้าของสินค้านวัตกรรม เธอฝากไว้ว่า ให้เริ่มจากเล็กๆ ลองหาข้อมูลการตลาด หาช่องว่างและโอกาส จากนั้นทดลองตลาดดูก่อน เพราะอย่างกาแฟพริกฝันที่จะเป็นแบรนด์ระดับโลกก็จริง แต่ใช่ว่าจะผลิตออกมาแล้วส่งออกได้ทันที เพราะมันเป็นเรื่องที่ยาก และมีรายละเอียดอีกเยอะมาก ดังนั้นต้องค่อยๆ ทำ ค่อยๆ เรียนรู้
“คนที่อยากเริ่มต้นธุรกิจนวัตกรรม วันนี้คุณสามามารถทำได้ แต่สินค้าคุณต้องมีความแตกต่าง แต่การมีความแตกต่างเพียงอย่างเดียวก็อาจทำให้คุณไปได้ไม่ไกล ถ้าขาดการปกป้องทรัพย์สินทางปัญญาที่คุณคิด ฉะนั้นเรื่องพวกนี้ต้องไปด้วยกัน” เธอสรุปในตอนท้าย
ถ้าเชื่อว่า “นวัตกรรม” เป็นอาวุธให้ SME ใช้ต่อกรในสนามการค้า ณ วันนี้ได้ ก็คงถึงเวลาที่จะลุกมาเรียนรู้และศึกษาเรื่องนี้อย่างจริงๆ จังๆ ไม่แน่ว่าสินค้านวัตกรรมตัวต่อไปที่ทั่วโลกพูดถึง อาจมาจากแบรนด์เล็กๆ ของคุณก็ได้นะ
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี