ในปัจจุบันมีธุรกิจเกิดขึ้นมากมาย บางธุรกิจก็อยู่ได้นาน บางธุรกิจก็ปิดตัวลงบ้าง บางธุรกิจก็เปิดตัวใหม่เพื่อเข้ามาแทนที่ธุรกิจที่ปิดตัวลงไป มันเหมือนเป็นวัฏจักรของการทำธุรกิจเลยว่าไหม และ 4 ธุรกิจที่เรากำลังจะพูดถึงนี้อยู่มานานมากกว่า 100 ปี แล้วแต่ละธุรกิจใช้กลยุทธ์อะไรในการทำให้ธุรกิจอยู่รอดมาถึงตอนนี้ ตามมาดูกันเลย
1. อายิโนะโมะโต๊ะ
เมื่อเอ่ยถึงบริษัท “อายิโนะโมะโต๊ะ” เชื่อว่าไม่มีใครไม่รู้จักรแบรนด์นี้เป็นแน่ ซึ่งแบรนด์ผงชูรสเป็นผลิตภัณฑ์ดังจากญี่ปุ่น ที่มีอายุเก่าแก่ถึง 113 ปี
จุดเริ่มต้นธุรกิจ “อายิโนะโมะโต๊ะ” โดย ศ.ดร.คิคุนาเอะ อิเคดะ แห่งมหาวิทยาลัยโตเกียว จากข้อสงสัยที่ว่าทำไมน้ำซุปที่ได้จากการต้มสาหร่ายทะเลคมบุจึงมีรสชาติอร่อยกลมกล่อม สู่การไขความลับว่า “กลูตาเมต” ซึ่งเป็นกรดอะมิโนชนิดหนึ่ง คือที่มาของรสชาตินี้ เกิดเป็นอุตสาหกรรมการผลิตเครื่องปรุงรสอูมามิแห่งแรก ณ ประเทศญี่ปุ่นในปี พ.ศ. 2452 ภายใต้ชื่อ “อายิโนะโมะโต๊ะ” โดย บริษัท อายิโนะโมะโต๊ะ โค., อินค์. ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งก่อตั้งโดย มร.ซาบุโรสุเกะ ซูซูกิ ซึ่งบริษัทนี้ผลิตผลิตภัณฑ์ด้านอาหารและบริการต่างๆ มากมาย อาทิ เครื่องปรุงรส บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป อาหารสำเร็จรูป อาหารสำเร็จรูปแช่แข็ง เครื่องดื่ม เป็นต้น
กลยุทธ์ที่ทำให้อยู่รอด
- มีธุรกิจสำรองคือ ผลิตฟิล์ม ABF (Ajinomoto Build-up Film) ที่ติดตั้งในคอมพิวเตอร์ ผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภพ และเวชภัณฑ์
- ความหลากหลายทางธุรกิจถือเป็นจุดแข็งของบริษัท
อ่านเพิ่มเติมได้ที่ https://www.smethailandclub.com/entrepreneur/7399.html
2. ยาสีฟันคอลเกต
คอลเกต ต้นตำรับยาสีฟันหลอดเจ้าแรกของโลก อยู่มานานถึง 126 ปี บริษัท Colgate-Palmolive ก่อตั้งขึ้นครั้งแรกโดย “วิลเลียม คอลเกต” ในปี 2349 โดยเริ่มต้นจากเป็นโรงงานผลิตสบู่และเทียนไข ซึ่งในครั้งแรกนั้นใช้ชื่อว่า "William Colgate & Company ซึ่งภายหลังที่นายคอลเกตได้เสียชีวิตลง ลูกชายของเขาที่เข้ามารับช่วงแทนจึงเปลี่ยนชื่อเป็น "Colgate & Company" ในปี 2400 ในปี 2471 จึงได้รวมตัวกับบริษัท Palmolive-Peet Company ซึ่งเป็นผู้ผลิตสบู่รายใหญ่ของสหรัฐอเมริกา จึงได้เปลี่ยนชื่อเป็น Colgate Palmolive-Peet Company เพื่อทำตลาดนำสินค้าออกไปวางจำหน่ายทั่วโลก แต่เพื่อให้เรียกชื่อได้ง่ายขึ้นจึงปรับมาเป็น “Colgate-Palmolive Company” และได้มีการจำหน่ายยาสีฟันขึ้นแบบบรรจุหลอดเป็นครั้งแรก ในปี พ.ศ. 2451
กลยุทธ์ที่ทำให้อยู่รอด
- นำ Pain Point ของผู้บริโภคที่เกิดจากการใช้งานไม่สะดวก จนนำมาสู่การคิดพัฒนาต่อยอด จนในที่สุดก็ก้าวมาเป็นผู้นำอยู่แถวหน้าของตลาดได้
อ่านเพิ่มเติมได้ที่ https://www.smethailandclub.com/entrepreneur/5415.html
3. Lock & Co ร้านขายหมวก
Lock & Co คือนอกจากเป็นร้านจำหน่ายหมวกที่เป็นงานหัตถกรรม ยังเป็นร้านที่มีชื่อเสียงและเก่าแก่สุดในโลก จนถึงปัจจุบัน เปิดบริการมานาน 346 ปีแล้ว ทั้งยังเป็นธุรกิจที่ครอบครองโดยทายาทของเจ้าของเดิมผู้ก่อตั้งอีกด้วย
โรเจอร์ สตีเฟนสัน รองประธาน Lock & Co ซึ่งเป็นทายาทรุ่นที่ 7 เล่าว่าธุรกิจเริ่มต้นเมื่อปี 1676 โดยเจมส์ ล็อคบนถนนเซนต์เจมส์ในลอนดอน ซึ่งปัจจุบันกลายเป็นย่านเมย์แฟร์อันแหล่งรวมร้านหรู หมวกที่รับผลิตให้ลูกค้าซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ชายจะเป็นเปลี่ยนไปตามยุค เช่น ในต้นคริสต์ศตวรรษ 1700 เป็นหมวกทรงสูง (Top hat) ก่อนที่ปลายคริสต์ศตวรรษจะเปลี่ยนไปนิยม หมวกสามมุมหรือหมวก Tricon
กลยุทธ์ที่ทำให้อยู่รอด
- ใส่ใจในการบริการทุกขั้นตอนเริ่มตั้งแต่ลูกค้ามาเลือกดูหมวกที่ร้าน วัดขนาดศีรษะ เลือกแบบ และสั่งทำ เมื่อหมวกสำเร็จแล้วก็ถึงเวลานัดหมายลูกค้ามาลองหมวกที่ร้าน หากไม่พอดีก็จะทำการแก้ไขจนสมบูรณ์แบบที่สุด
- ทิศทางธุรกิจที่กำหนดโดยเจ้าของกิจการซึ่งเชื่อมั่นในสิ่งที่ทำ นั้นเป็นสิ่งที่ทำให้ธุรกิจอยู่ได้ แล้วยังสร้างจุดแข็งให้แบรนด์ๆ ได้อีกด้วย
อ่านเพิ่มเติมได้ที่ https://www.smethailandclub.com/entrepreneur/7291.html
4. ชาแบรนด์ Mariage Frères
ถ้าหากเอ่ยถึงชาดังระดับโลก “Mariage Frères” (มาคิยาจ แฟรส์) จากฝรั่งเศส คือ หนึ่งในสุดยอดของชาที่ดีที่สุดอันดับต้นๆ ของโลก ที่อยู่มานานถึง 362 ปี
จุดเริ่มต้นความเป็นมาของชา Mariage Frères นั้น เริ่มต้นขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2203 หรือราวสามร้อยกว่าปีก่อนโดยพ่อค้าชาวฝรั่งเศส “นิโกลาส์ มาคิยาจ” ที่ออกเดินทางไปยังดินแดนตะวันออกกลางอย่างเปอร์เซีย เพื่อทำสัญญาการค้าเสาะแสวงหาชาชั้นดี เครื่องเทศ และสินค้าต่างๆ ตามคำสั่งจากราชวังในยุคพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 และบริษัท เฟรนช์ อีสต์ อินเดีย ( Compagnie )
กระทั่งยุคต่อมาในปี พ.ศ. 2397 จึงได้จัดตั้งบริษัท Mariage Frères Tea Company ขึ้นมา เพื่อทำธุรกิจเกี่ยวกับชาสืบต่อกันมาเป็นธุรกิจของตระกูล
กระทั่งต่อมาเมื่อ Richard หนึ่งในสามผู้ดูแลหลักได้เสียชีวิตลง ก็ได้ส่งต่อให้กับ กิตติชาติ แสงมณี เป็นผู้ดูแลในปัจจุบัน
กลยุทธ์ที่ทำให้อยู่รอด
- สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับแบรนด์
- สร้างเอกลักษณ์ โดยนำเสน่ห์ความเป็นไทยเข้าไปผสมผสานอยู่ในชามาคิยาจ แฟรส์
- มีสินค้าหลากหลาย มากกว่า 650 สูตร
อ่านเพิ่มเติมได้ที่ https://www.smethailandclub.com/entrepreneur/7376.html
และนี่คือกลยุทธ์หลักๆ ที่ทำให้แต่ละบริษัทสามารถดำเนินธุรกิจมาได้อย่างยืนยาวเป็นร้อยๆ ปี
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี