ถึงอุณหภูมิในเดือนเมษายนจะร้อนระอุสักแค่ไหน แต่ก็โชคดีที่เรามีเทศกาลสงกรานต์ให้คลายร้อนกันได้บ้าง แม้ช่วง 2 ปีที่ผ่านมาอาจดูเงียบเหงาไปบ้างจากมาตรการป้องกันโควิด-19 แต่ก็พอมีให้เห็นเป็นสีสัน สาดกันแบบเบาๆ ไม่ประแป้ง ไม่มีปาร์ตี้โฟม
ซึ่งหากพูดถึงสินค้าที่เป็นสัญลักษณ์ของเทศกาลสงกรานต์แล้วล่ะก็ หนึ่งในนั้นต้องมี “ปืนฉีดน้ำ” อยู่ด้วยแน่นอน ซึ่งมีลูกเล่นใหม่ๆ ออกมาให้เราเห็นกันอยู่ทุกปี ไม่ว่าจะเป็นปืนฉีดน้ำลวดลายการ์ตูนน่ารัก ปืนฉีดน้ำแบบสองปั๊มสูบเพื่อการฉีดน้ำได้ไกลขึ้น หรือปืนฉีดน้ำที่มีถังเก็บน้ำใบใหญ่แบกเป็นเป้อยู่ด้านหลัง เพื่อการฉีดน้ำได้สนุกยาวนานขึ้น แต่รู้ไหมว่าถึงจะเป็นไอเทมฮิตในวันสงกรานต์ของไทย แต่จริงๆ แล้วต้นกำเนิดของปืนฉีดน้ำที่แท้จริงนั้นกลับเกิดขึ้นที่สหรัฐอเมริกา
จากห้องทดลอง สู่ของเล่นสุดฮิตของโลก
โดยนักประดิษฐ์ผู้คิดค้นปืนฉีดน้ำขึ้นมาที่มีการจดบันทึกชื่อไว้อย่างเป็นทางการ ก็คือ “ลอนนี จอห์นสัน” วิศวกรชาวอเมริกันที่ทำงานอยู่ในศูนย์ปฏิบัติการทดลองจรวดให้กับองค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ (National Aeronautics and Space Administration) หรือ องค์การนาซา
ซึ่งเกิดขึ้นมาจากเรื่องบังเอิญเมื่อปี 2525 ในขณะที่เขากำลังทำการทดลองเกี่ยวกับการพัฒนาปั๊มความร้อนโดยใช้น้ำเป็นตัวควบคุมอุณหภูมิแทนสารเคมีชนิดหนึ่ง โดยในขณะที่เขาได้นำปั๊มดังกล่าวไปเปิดในอ่างอาบน้ำภายในบ้าน ปรากฎว่ามีน้ำพุ่งออกมาจากบริเวณหัวฉีดของปั๊ม โดยฉีดจากผนังฟากหนึ่งไปยังอีกด้านหนึ่ง จึงทำให้เขาเกิดไอเดียนึกสนุกอยากพัฒนาขึ้นมาเป็นของเล่นปืนฉีดน้ำแรงดันอากาศให้กับเด็กๆ
หลังจากลองออกแบบชิ้นส่วนต่างๆ และประกอบขึ้นมา จึงได้นำไปให้ลูกสาวของเขา และเพื่อนๆ ทหารได้ทดลองนำไปเล่น ปรากฎว่าเป็นที่ถูกอกถูกใจของทุกคน ลอนนีจึงจริงจังที่จะผลิตเป็นสินค้าออกวางจำหน่ายสู่ท้องตลาด แต่ด้วยความที่ต้องใช้เงินทุนสูง เขาจึงนำโปรเจกต์ที่คิดได้ไปนำเสนอบริษัทต่างๆ เพื่อขายลิขสิทธิ์ จนในที่สุดเขาก็ได้บริษัท ลารามิ คอร์ปอเรชั่น (Larami Corporation) ผู้ผลิตของเล่นยักษ์ใหญ่แห่งอเมริกาเป็นผู้ซื้อซื้อลิขสิทธิ์ไปภายในระยะเวลา 8 ปี โดยครั้งแรกออกมาวางขายในชื่อของ “เพาเวอร์เดรนเชอร์” (Power Drencher)
แต่ในช่วงแรกของการจำหน่ายกลับทำตลาดได้ไม่ดีนัก จึงได้มีการปรับปรุงพัฒนาผลิตภัณฑ์เพิ่ม วางกลยุทธ์การตลาดใหม่ และเปลี่ยนชื่อเป็น “ซุปเปอร์โซกเกอร์” (Super Soaker) ทำให้ยอดขายพุ่งสูงขึ้นแบบถล่มทลาย โดยในปี 2534 สามารถทำยอดได้สูงถึง 200 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ติดอันดับ 1 ใน 20 ของเล่นที่ขายดีที่สุดในโลกทันที ปืนฉีดน้ำจึงกลายเป็นของเล่นสุดฮอตของเด็กๆ อเมริกาตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา จากกระแสดังกล่าวจึงโด่งดังมาถึงเมืองไทยและนิยมเล่นกันมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลวันสงกรานต์
วิวัฒนาการปืนฉีดน้ำโลก
ถึงแม้ลอนนีจะเป็นผู้คิดค้นปืนฉีดน้ำแรงดันอากาศขึ้นมาคนแรก แต่จริงๆ แล้วก่อนหน้านั้นได้มีปืนฉีดน้ำลักษณะอื่นๆ เกิดขึ้นมาก่อน โดยมีการจดบันทึกไว้ว่าปืนฉีดน้ำเป็นสิ่งประดิษฐ์ที่มีการจดสิทธิบัตรไว้ที่สหรัฐอเมริกาตั้งแต่ปี 2439 และเริ่มจำหน่ายครั้งแรกราวปี 2453 โดยปืนฉีดน้ำในยุคแรกนั้นจะทำขึ้นมาจากโลหะทั้งหมดมีเพียงส่วนที่บรรจุน้ำเท่านั้นที่เป็นกระเปาะยาง เพื่อเอาไว้ใช้บีบให้น้ำพุ่งออกมาเวลานำไปเล่น
ต่อมาราวปี 2463 ได้มีการพัฒนาให้เป็นแบบไกปืน โดยเวลาเล่นแทนที่จะบีบที่ตัวกระเปาะก็มากดที่ไกปืนแทน เพื่อเป็นการปั๊มน้ำออกมาเป็นปืนฉีดน้ำแบบคลาสสิกที่เราคุ้นเคยกันดีในวัยเด็ก พร้อมๆ กับที่เริ่มหันมาใช้พลาสติกขึ้นรูปตัวกระบอกปืนแทนโลหะมากขึ้น จนมาถึงยุคปืนฉีดน้ำแรงดันอากาศของลอนนีนั้นแหละที่ทำให้ปืนฉีดน้ำเริ่มได้รับความนิยมมากขึ้น เพราะนอกจากจะมีประสิทธิภาพดี ยิงได้ไกลขึ้นเป็นสิบๆ เมตร เมื่อเทียบกับปืนฉีดน้ำแบบเดิมที่ยิงได้เพียง 2 – 3 เมตร ยังมีการผลิตออกสู่ท้องตลาดจำนวนมากด้วย
ซึ่งต่อมาก็ได้มีการพัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่องในหลายเวอร์ชั่น อาทิ แบบถังร่วม ที่ใช้ถังน้ำและถังความดันร่วมกัน หลักการทำงานคล้ายกับถังรดน้ำฉีดปุ๋ย ฉีดยาฆ่าแมลงนั่นแหละ, แบบถังแยก ซึ่งจะประกอบด้วยน้ำ 2 ถังที่เชื่อมต่อกันเพื่อกักเก็บน้ำและเพิ่มความแรงได้มากขึ้น, แบบระบบรักษาความดันคงที่ ซึ่งพัฒนามาจากแบบถังแยก เพื่อไม่ว่าน้ำในถังจะเยอะหรือน้อยก็สามารถฉีดได้ไกล แรงไม่มีตกเหมือนกัน เป็นต้น เรียกว่าไม่ต่างจากชิ้นงานวิทยาศาสตร์ที่ต้องมีการประดิษฐ์คิดค้น เพื่อคอยแก้ปัญหาให้แก่ผู้บริโภคอยู่ตลอดเวลา
ธุรกิจปืนฉีดน้ำในไทย
แม้จะได้รับอิทธิพลความนิยมจากอเมริกา แต่ธุรกิจขายปืนฉีดน้ำในไทยแหล่งผลิตและรับซื้อส่วนใหญ่มักมาจากจีน ทั้งด้วยราคาที่ถูกและมีแบบให้เลือกเยอะกว่าในไทย แต่อาจต้องซื้อในปริมาณมากจึงจะคุ้มค่าได้ในราคาส่ง
ซึ่งในยุคแรกๆ ที่ออนไลน์ยังไม่บูมเท่ากับทุกวันนี้ การหาซื้อสินค้าส่วนใหญ่ไม่ใช่เฉพาะแค่ปืนฉีดน้ำเท่านั้น ย่านค้าส่งสำคัญ เช่น สำเพ็ง, โบ๊เบ๊, พาหุรัด จนเมื่อการค้าออนไลน์เริ่มเข้ามาทุกอย่างจึงถูกวางขายอยู่บนอินเตอร์เน็ต ซึ่งบางครั้งอาจได้ในราคาใกล้เคียงกันกว่าที่เดินทางมาซื้อเอง แต่ผู้ประกอบการบางรายก็ชอบที่จะมาเดินเลือกซื้อเองมากกว่า เพราะนอกจากจะได้เห็นสินค้าจริงแล้ว ได้เห็นตัวเลือกที่หลากหลาย ไปจนถึงได้เลือกคัดสินค้าด้วยตัวเอง ก็ยังอาจต่อรองกันได้ด้วยเมื่อซื้อปริมาณเยอะๆ โดยว่ากันว่าในช่วงที่เศรษฐกิจกำลังดี บางคนแค่ขายเป็นอาชีพเสริมช่วงสงกรานต์ไม่กี่วันก็ได้เงินหลายหมื่นบาท บางคนทำเป็นธุรกิจจริงจังขายส่ง ขายปลีก ขายได้ยอดแตะถึงล้านเลยก็มี
แม้ในช่วง 3 – 4 ปีมานี้ เศรษฐกิจซบเซาและต้องมาเจอกับโรคระบาดอีก ทำให้รายได้จากเทศกาลสงกรานต์ลดน้อยลงไปมาก บางคนปรับตัวหยุดพักไปทำอย่างอื่น หรือหาสินค้าอื่นมาขายเพิ่ม บางคนปรับตัวจากขายปลีกมาขายส่งแบบยกลัง เป็นตัวกลางระหว่างโรงงานและพ่อค้าแม่ค้ารายย่อยที่อยู่ตามจังหวัดต่างๆ ไม่สะดวกเข้ามารับซื้อในกรุงเทพฯ ก็มี แต่จากที่ลองเข้าไปส่องดูในเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซอย่าง Shopee, Lazada หรือในโซเชียลต่างๆ ก็ยังมีขายให้เห็นกันประปราย จึงอาจพูดได้ว่าไม่ว่าสงกรานต์จะเงียบเหงายังไง แต่อย่างน้อยๆ หากบ้านไหนมีเด็กอยู่ ปืนฉีดน้ำก็น่าจะเป็นหนึ่งในสินค้าที่หลายคนนึกถึงและอยากหาซื้อมาเล่นในช่วงเทศกาลสงกรานต์อยู่ดี
TEXT : กองบรรณาธิการ
ที่มา :
https://siamrath.co.th/n/74302?fbclid=IwAR2Li-7Tt5dfl3x5ksRze9HsuDIChW0HsdwtvdvLY5AE9i5HLEZ7sszRPJk
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี
