5 แบรนด์ชานมไข่มุกไทย ขายหลักสิบแต่หยิบเงินล้าน

 

 

ถึงแม้ว่ากระแสชานมไข่มุกในปัจจุบันจะเบาลงและได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ไปบ้าง แต่ธุรกิจชานมไข่มุกรายใหญ่ๆ ก็ยังคงเติบโตกันอย่างต่อเนื่อง วันนี้ทาง SME THAILAND ONLINE ก็เลยจะพาทุกคนไปดู 5 แบรนด์ชานมไข่มุกไทยราคาหลักสิบยอดขายหลักล้าน มาดูว่ามีแบรนด์ไหนบ้าง

KAMU

ดำเนินกิจการมา 8 ปี ก่อตั้งเมื่อวันที่ 17 ธ.ค. 2556 ภายใต้บริษัท คามุ คามุ จำกัด

รายได้รวมปี 2563 : 362 ล้านบาท

กำไร : 96 ล้านบาท

สินทรัพย์รวม : 229 ล้านบาท

เสือพ่นไฟ ( Fire Tiger )

ดำเนินกิจการมา 3 ปี ก่อตั้งเมื่อวันที่ 27 ก.พ. 2562 ภายใต้บริษัท รวยสบายสบาย จำกัด

รายได้รวมปี 2563 : 91 ล้านบาท

กำไร : 3 ล้านบาท

สินทรัพย์รวม : 41 ล้านบาท

BEARHOUSE

ดำเนินกิจการมา 3 ปี ก่อตั้งเมื่อวันที่ 29 ส.ค. 2561 ภายใต้บริษัท 21 ซันแพสชั่น จำกัด

รายได้รวมปี 2563 : 84 ล้านบาท

กำไร : 12 ล้านบาท

สินทรัพย์รวม : 55 ล้านบาท

Ochaya

ดำเนินกิจการมา 9 ปี ก่อตั้งเมื่อวันที่ 17 ธ.ค. 2555 ภายใต้บริษัท โอชายะ กรุ๊ป จำกัด

รายได้รวมปี 2563 : 109  ล้านบาท

กำไร :  7 แสนบาท

สินทรัพย์รวม : 63 ล้านบาท

MIKUCHA

ดำเนินกิจการมา 10 ปี ก่อตั้งเมื่อวันที่ 24 ก.พ. 2555 ภายใต้บริษัท มิกุชา (เคพี) จำกัด

รายได้รวมปี 2563 : 86  ล้านบาท

กำไร :  1.8  ล้านบาท

สินทรัพย์รวม : 63 ล้านบาท

     และนี้ก็คือ 5 แบรนด์ชานมไข่มุกไทยราคาหลักสิบยอดขายหลักล้าน

ข้อมูล :  CredenData

 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: ENTREPRENEUR

เมื่อคำว่า “Luxury” สิ้นมนต์ขลัง สูตรลับใหม่แบรนด์ระดับโลก ทำให้สินค้าดูแพงโดยไม่ต้องพูดว่าหรู

ทำไมแบรนด์หรูระดับโลก ตั้งแต่ Hermès,Porsche และ LVMH ถึงเลิกพูดคำว่า Luxury และเริ่มใช้กลยุทธ์ใหม่ในการสร้าง “ความพิเศษ” ..นี่คือสูตรลับที่แบรนด์ระดับโลกกำลังใช้  กลยุทธ์ที่ทำให้สินค้าดูแพงขึ้น แม้ไม่ต้องพูดคำว่า Luxury

Top Table บาร์ปิงปอง มิติใหม่การแฮงค์เอาท์ เมื่อโค้ชกีฬาผันตัวมาทำธุรกิจ ฮอต! จนคืนทุนได้ใน 2 เดือน

จะดีกว่าไหมถ้าคุณสามารถดื่มแฮงค์เอาท์กับเพื่อน ขณะเดียวกันก็ได้ออกกำลังกาย มีเกมสนุกๆ ให้เล่นได้ด้วย “Top Table” บาร์ปิงปองแห่งแรกของสิงคโปร์ ที่ผสมผสานระหว่างกีฬา การดื่ม และพบปะสังสรรค์ได้อย่างลงตัว

BaanRung จากโรงเก็บของสู่คาเฟ่ตัวท็อป สูตรลับธุรกิจที่เริ่มได้แม้ไม่มีทุนมหาศาล

หลายธุรกิจไม่ได้เริ่มต้นจากทุนมหาศาลหรือทำเลทอง แต่เริ่มจาก พื้นที่เล็กๆ หน้าบ้าน ดังเช่น “บ้านรุ่ง” ที่เปลี่ยนพื้นที่เล็กๆหน้าบ้านที่ถูกมองข้ามให้กลายเป็นคาเฟ่ที่มีกลิ่นอายของความโฮมมี่