7 ความลับนักธุรกิจระดับโลก โฟกัสงานแต่ละวันยังไงให้สำเร็จ

 

 

     ในแต่ละวันผู้ประกอบการมักต้องจัดการกับปัญหามากมายร้อยแปด ไหนจะธุรกิจที่ต้องคอยโฟกัสอีก บางครั้งจึงทำให้หลุดโฟกัสเอาง่ายๆ ก็มี แต่ทำไมเวลามองไปที่นักธุรกิจระดับโลกหลายคนพวกเขากลับดูสงบนิ่ง แถมยังแก้โจทย์ยากๆ ที่เข้ามาได้ราวกับเป็นแค่เรื่องๆ หนึ่งที่ผ่านเข้ามาแล้วก็ผ่านไป

     ยกตัวอย่างเช่น อีลอน มัสก์ เขาเป็นคนที่มีโฟกัสและสมาธิดีเยี่ยมต่อการทำงานเลย โดยในช่วงเริ่มต้นทำ Tesla ที่เกิดปัญหาขึ้นต้องการแก้ไขอย่างเร่งด่วน เขาใช้เวลากว่า 75 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ในการทำมันให้สำเร็จ โดยมุ่งมั่น ไม่วอกแวกกับใคร หรือสิ่งอื่นๆ เมื่อเสร็จงานหนึ่งแล้ว จึงค่อยไปทำอย่างอื่นต่อ นี่คือ วิธีทำให้งานแต่ละชิ้นออกมามีประสิทธิภาพได้ นอกจากนี้ในแต่ละสิ่งที่เขาทำยังมี Passion เสมอ ในแต่ละสิ่งที่ทำเขารู้เหตุผลเสมอว่าทำมันขึ้นมาเพราะอะไร แน่นอนไม่ใช่ยอดเงินสูงๆ อย่างแน่นอน

     หรืออย่างผู้พันแซนเดอร์สแห่ง KFC เองกว่ากิจการไก่ทอดของเขาจะประสบความสำเร็จ โด่งดังไปทั่วโลกอย่างทุกวันนี้ เขาเคยถูกปฏิเสธถึง 1,009 ครั้งด้วยกันก่อนที่จะสามารถขายสูตรไก่ทอด KFC ได้สำเร็จ นั่นเป็นเพราะเขามองไปที่เส้นชัยข้างหน้า มากกว่าที่จะมองความผิดหวังในอดีต การจะประสบความสำเร็จในธุรกิจได้ เราต้องปล่อยให้อดีตกลายเป็นอดีตไป ไม่ใช่นำมาเป็นสิ่งที่กำหนดความสำเร็จในอนาคต

     โดยอีกหนึ่งผู้ที่ช่วยยืนยันได้ว่าการมีสมาธิจดจ่อที่ดีจะส่งผลต่อการทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จได้ ก็คือ Bill Gates โดยเขามักฝึกทำสมาธิเป็นประจำ เพื่อช่วยให้จิตใจจดจ่ออยู่กับงานหรือเรื่องที่ทำได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งเปรียบเหมือนการออกกำลังกายของใจ โดยเขาใช้เวลาทำสมาธิประมาณ 2 - 3 ครั้งต่อสัปดาห์ ครั้งละสั้นๆ เพียงแค่ 10 นาที แค่นี้ก็ทำให้เขาจัดการเรียงลำดับความสำคัญกับสิ่งที่อยู่ในหัวได้แล้ว และต่อไปนี้ คือ 7 เคล็ดลับที่นักธุรกิจระดับโลกใช้โฟกัสกับงานในแต่ละวันให้ประสบความสำเร็จกัน

จดจ่ออยู่กับสิ่งที่เปลี่ยนแปลงได้ ไม่ใช่สิ่งที่ทำไม่ได้

     หากคุณไม่สามารถกำหนดสภาพอากาศ เศรษฐกิจ ห้ามคนไม่ให้ป่วย ห้ามท้องไม่ให้หิวได้ฉันใด คุณก็ไม่สามารถจะห้ามปัญหาต่างๆ ไม่ให้เข้ามาได้ฉันนั้น ดังนั้นจึงควรโฟกัสกับสิ่งที่คุณสามารถเปลี่ยนแปลงหรือแก้ไขได้ ปัจจัยอะไรที่อยู่นอกเหนือการควบคุม บางครั้งก็ต้องปล่อยมันไป อย่าไปเสียเวลาทำซะให้ยากเลย

มองไปที่เส้นชัย ไม่สนใจความพ่ายแพ้ในอดีต

     ความล้มเหลวในอดีตมักสร้างบาดแผลในใจให้ทุกครั้งที่ย้อนนึกไปถึง แต่ก็เป็นสิ่งที่ผ่านมาแล้ว คุณไม่สามารถกลับไปแก้ไขอะไรได้ ดังนั้นหากจะมองอดีตจึงมองที่ความสำเร็จ หรือเรื่องดีๆ จะดีกว่า สิ่งนั้นจะเป็นกำลังใจ ความมั่นใจให้คุณก้าวไปข้างหน้า เพื่อประสบความสำเร็จอีกครั้ง อย่าลืมว่าคุณกำลังทำเพื่อเส้นชัยที่รออยู่ข้างหน้า ไม่ใช่ความพ่ายแพ้

ค่อยๆ ทำไปทีละอย่าง

     การต้องมีเรื่องให้สะสางมากมาย อาจทำให้คุณทำตัวไม่ถูกว่าควรจะเริ่มต้นจัดการอะไรก่อนดี ลองไล่เรียงลำดับเลือกสิ่งที่สำคัญและมีความจำเป็นที่สุดก่อน จากนั้นค่อยๆ ลงมือแก้ไขและทำไปทีละอย่าง การทำแบบนี้จะทำให้คุณมีสมาธิและไม่หลุดโฟกัส ดีกว่าที่ต้องทำงานหลายๆ อย่างไปพร้อมกัน

มุ่งไปที่การแก้ปัญหา ไม่ใช่ข้อแก้ตัว หรือตำหนิ

     เมื่อมีปัญหาเกิดขึ้นแล้ว สิ่งที่คุณต้องทำ คือ การหาวิธีเพื่อแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็วที่สุด เพื่อลดความสูญเสียให้เกิดขึ้นน้อยที่สุด ไม่ใช่การโฟกัสว่าใครถูกใครผิด ใครต้องรับผิดชอบ เพราะนอกจากจะทำให้เสียเวลาไปโดยใช่เหตุแล้ว อาจทำให้เกิดผลเสียตามมาจากความล่าช้าอีกด้วย

ลงมือทำ อย่าวอกแวก

     ในวันหนึ่งๆ เราอาจมีเรื่องให้ต้องจัดการมากก็จริง บางเรื่องก็ไม่ใช่งานจริงๆ แต่ก็อาจทำให้คุณหลุดโฟกัสหรือเสียเวลาในการทำงานไปได้ เช่น การเช็คอีเมล การแชทตอบคำถาม หรือมีลูกน้องมาขอคำปรึกษาบ้าง บางครั้งคุณอาจต้องตั้งมั่นในสิ่งที่จะทำก่อน โดยอาจจัดเป็นตารางเวลาสำหรับหนึ่งวันเอาไว้ โฟกัสลงมือทำกับสิ่งที่เป็นเนื้องานจริงๆ ก่อน และใช้ช่วงเวลาระหว่างวันที่เหลือทำสิ่งเล็กๆ น้อยๆ เหล่านั้น วิธีนี้นอกจากจะช่วยให้คุณมีสมาธิได้ดีขึ้นแล้ว ยังช่วยจัดสรรการใช้เวลาในแต่ละวันได้อย่างลงตัวด้วย ไปจนถึงลูกน้องหรือผู้ใต้บังคับบัญชาเองก็จะได้ทำตัวได้ถูกว่าควรเข้ามาขอคำปรึกษาคุณได้เมื่อไหร่

จดจ่ออยู่กับสิ่งที่คุณ “ต้องทำ” ไม่ใช่สิ่งที่คนอื่นทำ

     เมื่อมอบหมายงานให้ใครได้รับผิดชอบแล้ว จงมั่นใจและเชื่อใจเขา อย่าพะวง จนต้องลงมือมาดูเองทุกอย่าง เพราะยังมีอีกหลายหน้าที่และการตัดสินใจที่คนอื่นไม่สามารถทำแทนคุณได้ วิธีนี้นอกจากจะทำให้ธุรกิจคุณขับเคลื่อนได้อย่างรวดเร็วแล้ว ยังเป็นการสร้างเหล่าพนักงานให้มีความรับผิดชอบและเติบโต จนในที่สุดก็สามารถเป็นกำลังสำคัญต่อไปให้กับธุรกิจคุณได้นั่นเอง

หาเหตุผลให้ได้ว่า “ทำไม” จึงอยากทำธุรกิจ ไม่ใช่ผลลัพธ์ที่อยากได้

     ข้อสุดท้ายที่จะช่วยให้คุณทำธุรกิจได้อย่างยาวนานและมีความสุข อยากตื่นนอนขึ้นมาทำทุกวัน ก็คือ คุณต้องหาเหตุผลให้กับตัวเองให้ได้ว่าคุณค่าในการตัดสินใจให้คุณทำธุรกิจนี้ขึ้นมา คือ อะไร ช่วยแก้ปัญหาหรือเกิดประโยชน์ได้อย่างไรบ้าง ไม่ใช่มองเพียงผลลัพธ์ที่ยอดขาย หรือจำนวนเงินมหาศาลที่จะได้รับ เพราะการทำงานไม่ว่างานอะไรก็ตามจะมีความหมายได้ งานนั้นย่อมมีคุณค่าในตัวเองด้วย ลองหามันให้เจอ เพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้กับตัวคุณเอง

TEXT : กองบรรณาธิการ

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: ENTREPRENEUR

ทำธุรกิจซัก-รีด ยังไงให้มีรายได้สาขาละแสน ล้วงความลับกับเจ้าของแบรนด์ ตั้งใจซัก

หนึ่งในธุรกิจที่ขึ้นชื่อว่าเป็น “เสือนอนกิน” นั้นต้องมีธุรกิจเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญติดในลิสต์เป็นอันดับต้นๆ ทำให้ธุรกิจนี้เติบโตเป็นพิเศษโดยเฉพาะในช่วงโควิดที่ผ่านมา มีผู้ประกอบการที่สนใจเปิดธุรกิจนี้มากมาย แต่ถึงแม้จะเป็นธุรกิจเสือนอนกิน ใช่ว่าทุกคนจะเป็นเสือที่ได้กินธุรกิจนี้ง่ายๆ

Erabica Coffee ผู้ปักหมุด กาแฟน่าน ให้เป็นที่รู้จักระดับประเทศ

นี่คือสองสามีภรรยา ที่อยากมาใช้ชีวิตบั้นปลายที่น่าน คิดสร้างแบรนด์กาแฟของตัวเองขึ้นมาในชื่อ Erabica (เอราบิก้า) กลายเป็นการยกระดับกาแฟน่านเป็นที่รู้จักเพิ่มมากขึ้น

HEH ร้านอาหารย่านภูเก็ต เชฟใช้เวลาในครัวให้เหมือนอยู่ในสนามแข่ง ไม่อยากเป็นแค่ Just Another Restaurant

“HEH (เห)” ร้านอาหารสไตล์  Australian Contemporary กลางเมืองภูเก็ต สร้างเมนูอาหารให้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เพราะไม่อยากเป็นเพียง แค่ร้านอาหารร้านหนึ่ง