TEXT : กองบรรณาธิการ
ในสายตาของผู้บริโภค เราอาจคุ้นชินกับแบรนด์ดังที่วางขายอยู่ในห้างสรรพสินค้า ซูเปอร์มาร์เก็ต หรือตามร้านสะดวกซื้อทั่วไป แต่รู้ไหมว่าจริงๆ แล้วยังมีแบรนด์ท้องถิ่นอีกมากที่เราไม่รู้จัก ซึ่งอาจเริ่มต้นธุรกิจขึ้นมาจากจุดเล็กๆ แต่ในวันนี้กลับทำรายได้เป็นหลักสิบหลักร้อยล้านบาทได้ แถมบางแบรนด์ไม่ได้จำหน่ายเฉพาะแค่ในเมืองไทย แต่ยังโกอินเตอร์ไปไกลถึงต่างประเทศ ลองมาเปิดรายได้และเส้นทางธุรกิจจาก 4 เคส Local Brand ตัวอย่างกันดูว่ากว่าจะมาถึงวันนี้ได้ พวกเขาเริ่มต้นขึ้นมาจากอะไร และอะไรทำให้พวกเขาเดินทางมาจนถึงวันนี้ได้กัน
เส่งเฮง ต่อยอดจากจากเต้าหู้ตลาดสด ให้กลายเป็นเต้าตู้ขึ้นห้าง
รายได้ธุรกิจ : 60,965,890 บาท (ปี 2564)
จังหวัด : กรุงเทพฯ ย่านฝั่งธนบุรี
Story of Brand :
- เริ่มต้นจากเต้าหู้สูตรลับของครอบครัวด้วยกรรมวิธีผลิตแบบจีนโบราณ ใส่จักรยานปั่นไปขายในตลาดสดย่านฝั่งธนบุรี โดยแต่ละก้อนจะประทับตราด้วยไม้ปั๊มชื่อแบรนด์ลงไปและใช้ใบตองรองแต่ละแผ่น จนกลายเป็นเอกลักษณ์ให้คนจำได้และเรียกติดปากว่า “เต้าหู้ใบตอง” และกลายเป็นสัญลักษณ์แบรนด์มาจนถึงปัจจุบัน
- ต่อมาจนถึงรุ่นที่ 2 ได้มีการนำเทคโนโลยีบรรจุภัณฑ์เข้ามาใช้ เปลี่ยนจากการห่อด้วยใบตองมาเป็นการห่อด้วยถุงสุญญากาศ ทำให้ช่วยยืดอายุของเต้าหู้ให้เก็บได้นานยิ่งขึ้น เริ่มมีการนำไปเสนอห้างสรรพสินค้าและซูเปอร์มาร์เก็ต จนในที่สุดสามารถเข้าวางจำหน่ายได้ มีการสร้างโรงงานผลิตของตัวเองขึ้นมาในอำเภอบ้านแพ้ว จังหวัดสมุทรสาคร
- ในรุ่นที่ 3 ซึ่งเข้ามาเป็นกำลังสำคัญในการฟื้นฟูช่วงหลังจากที่บริษัทประสบปัญหา ได้มีการปรับปรุงผลิตภัณฑ์ให้เป็นสินค้าเพื่อสุขภาพมากขึ้น และขยายช่องทางไปสู่ตลาดส่งออก เช่น เต้าหู้ขาวแข็งออร์แกนิก ซึ่งเป็นสินค้าเรือธงเพื่อบุกตลาดจีน, เต้าหู้พร้อมรับประทาน, น้ำเต้าหู้ออร์แกนิก รวมถึงการรับจ้างผลิต (OEM) สินค้าจากเต้าหู้
กลยุทธ์แบบ Local Brand : มุ่งมั่นผลิตสินค้าที่ดีให้แก่ผู้บริโภค เริ่มตั้งแต่การคัดสรรวัตถุดิบคุณภาพ ไม่มีการตัดแต่งพันธุกรรม และยังใช้วัตถุดิบธรรมชาติ โดยไม่ใส่วัตถุกันเสียหรือสารปรุงแต่งใดๆ
อ่านเพิ่มเติมได้ที่ https://www.smethailandclub.com/entrepreneur/4607.html?utm_source=dable