บ้านอยู่ดีมีความสุข เกาะสีชัง กับแนวคิดทำธุรกิจให้มีขยะน้อยที่สุด

TEXT : Namphakgar

PHOTO : สุนันท์ ล้อสมทรัพย์

     Zero Waste แนวคิดการลดขยะให้เป็นศูนย์ เพื่อหยุดปัญหาตั้งแต่ต้นทาง แทนการหาวิธีกำจัดขยะที่ปลายทาง หนึ่งในทางเลือกดีๆ ของการเริ่มต้นรักษ์โลก ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม

     ฟังดูเหมือนเป็นเรื่องยากกับการใช้ชีวิตยุคปัจจุบันที่ไม่ว่าจะทำอะไร ก็แทบจะสร้างขยะด้วยกันทั้งนั้น ตั้งแต่การผลิตสินค้า การซื้อสินค้า ไปจนถึงการบริโภคต่างๆ จริงอยู่ เราไม่สามารถลดขยะให้เป็นศูนย์ได้ แต่สามารถลดให้น้อยลงได้ แค่ลองตั้ง Mindset ค่อยๆ ลงมือทำไปทีละนิด ไม่ว่าใครก็ทำได้ เหมือนกับ “บ้านอยู่ดีมีความสุข” ที่พักเล็กน่ารักบนเกาะสีชัง จ.ชลบุรี ที่เริ่มต้นทำจากจุดเล็กๆ ไปทีละอย่าง จนถึงวันนี้มีขยะที่เหลือจากการบริหารจัดการน้อยที่สุด

1.

     ณ บ้านปูนสองชั้นสีเทาอ่อน โดดเด่นด้วยช่องลมรูปเกล็ดปลา และบานกระจกใสของห้องพัก 7 ห้อง ทำหน้าที่เหมือนเชื่อมต่อบรรยากาศภายนอกและภายในเข้าไว้ด้วยกัน คือ ภาพแรกที่ทำให้เราสะดุดตากับบ้านอยู่ดีมีความสุข ที่พักที่มีแนวคิดทำธุรกิจให้มีขยะเหลือน้อยที่สุด นำพาให้เรามาเยือนในครั้งนี้

     พี่โม่-เกศแก้ว ทองจรูญ เดินมาต้อนรับอย่างเป็นกันเอง พร้อมอธิบายรายละเอียดส่วนต่างๆ ของตัวบ้าน รวมถึงอุปกรณ์ตัวช่วยลดขยะ ตั้งแต่กระบอกน้ำ ปิ่นโต ถุงผ้าสำหรับให้ลูกค้ายืมพกพาไปข้างนอก ไปจนถึงเครื่องผลิตน้ำดื่มจากอากาศ อีกหนึ่งไฮไลต์พิเศษของบ้าน นวัตกรรมสุดล้ำที่ใครเห็นเป็นต้องทึ่ง เพราะนอกจากช่วยผลิตน้ำบริสุทธิ์แล้ว ยังช่วยลดการใช้ขวดน้ำพลาสติกที่ต้องเหลือทิ้งเป็นขยะด้วย เครื่องผลิตน้ำดื่มนี้เองที่ทำให้พี่โม่ลดการใช้น้ำขวดพลาสติกได้ปีละหลายพันขวด

     หลังเก็บสัมภาระเข้าห้องเรียบร้อย เราเดินมานั่งเล่นรับลมเย็นที่โต๊ะริมทะเล และสั่งกาแฟดื่ม โดยมีพี่โม่เป็นบาริสต้าโชว์ฝีมือเอง กลิ่นหอมและรสขมจางๆ ของกาแฟอเมริกาโน่ร้อน นำเราเข้าสู่บทสนทนาการลดขยะจากการทิ้งให้เหลือน้อยที่สุด

     “พี่เป็นคนเกาะสีชัง โดยกำเนิดเลย เกิดและเรียนที่นี่จนถึงอายุ 12 พอขึ้น ม.ต้น ก็ย้ายไปเรียนที่กรุงเทพฯ จนจบมหาวิทยาลัย ก็ทำงานอยู่ที่นั่นเลย ย้อนกลับไป 7 ปีที่แล้ว (ปี 2560) พี่กลับมาบ้านช่วงวันหยุดพร้อมกับเพื่อนที่เป็นสถาปนิก พี่สาวเลยปรึกษาว่าถ้าจะซ่อมแซมบ้านหลังนี้ ต้องใช้งบประมาณเท่าไหร่  สถาปนิกแนะนำว่าถ้าจะซ่อมและไม่มีใครมาอยู่ถาวร ลองทำให้คนมาพักดูสิ  เพราะเกาะสีชังก็เริ่มมีคนรู้จักและมีนักท่องเที่ยวมาเยอะขึ้น

2.

     “ตอนแรกที่พี่สาวตกลงจะซ่อมบ้านและมอบหมายให้พี่ดูแล ยังไม่ได้คิดถึงเรื่องการลดขยะ ตอนนั้นคิดแค่อยากให้บ้านโปร่ง โล่ง สบาย มีลมพัดเย็นๆ มีแสงสว่างจากภายนอกเข้ามาในตัวบ้าน เพราะเราชอบแสงธรรมชาติ บ้านเราเลยมีช่องลมค่อนข้างเยอะ เป็นจุดเด่นของบ้านเลย ผนังเราก็ก่อ 2 ชั้น เพื่อลดเสียง และประหยัดพลังงาน เพราะแอร์จะเย็นเร็วขึ้น กลายเป็นบ้านประหยัดพลังงานไปในตัว

     “ทีนี้ต่อมา พอถึงเวลาต้องทำเป็นที่พักแล้ว เราก็เริ่มรู้สึกว่า จริงๆ ธุรกิจนี้ทำลายสิ่งแวดล้อมมากแบบที่เราไม่รู้ตัว เช่น 1.น้ำเสียที่ลงไปในแหล่งน้ำ 2.สร้างขยะจากขวดน้ำพลาสติกที่เอาให้ลูกค้าในแต่ละห้อง 3.แชมพู สบู่ ที่ทำเป็นซอง หรือขวดเล็กๆ ใช้ไม่กี่ครั้งก็ต้องทิ้งแล้ว กลายเป็นลูกค้ามาพักแค่ 1-2 วัน แต่ทำให้เกิดขยะเยอะมาก เลยรู้สึกว่า เราไม่อยากจะทำแบบนั้น มีวิธีไหนที่จะสร้างขยะน้อยที่สุด เราก็พยายามทำ เพราะเราเองก็พยายามใช้ชีวิตสร้างขยะน้อยที่สุดมาตลอด เวลาไปซื้อของก็จะพกถุงผ้าไปด้วย ซื้อกาแฟก็พกแก้วไปใส่ เราเลยอยากทำที่พักของเราให้เป็นแบบนั้นบ้าง ลดขยะให้ได้มากที่สุด” พี่โม่เล่าที่มาของแนวคิด พร้อมกาแฟในแก้วที่หมดลงพอดี

How To ลดขยะ ฉบับบ้านอยู่ดีมีความสุข

     จากที่ได้พูดคุยถึงที่มาของบ้านกับพี่โม่ เพื่อฉายภาพวิธีการลดขยะให้ลงมือทำได้จริง และเห็นเป็นรูปธรรมชัดเจนขึ้น เราขอนำไอเดียพี่โม่มาเล่าเป็นข้อๆ ไว้ดังนี้ เผื่อใครสนใจจะได้นำไปใช้ประโยชน์บ้าง

  • ลดการใช้พลาสติก ใส่อาหาร ด้วยปิ่นโต ขวดน้ำ ถุงผ้า

 

     ที่นี่เราจะมีปิ่นโต ขวดน้ำ ถุงผ้า ไว้ให้ลูกค้ายืม เวลาออกไปเที่ยวข้างนอก เผื่อเวลาเขาอยากซื้ออะไรกลับมากิน ก็จะได้ไม่ต้องใช้ถุงพลาสติก หรือกล่องโฟม

  • เครื่องผลิตน้ำดื่มจากอากาศ ตัวช่วยลดขยะขวดน้ำพลาสติก

 

     เป็น Pain Point สำคัญของเราเลยตั้งแต่ที่เริ่มทำบ้านพัก เราไม่อยากใช้ขวดน้ำพลาสติก เพราะก่อให้เกิดขยะ แต่ก็จำเป็นต้องใช้ การรีไซเคิลไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ พี่พยายามไม่เลือกทางนี้ จนวันหนึ่งได้เจอกับนวัตกรรมเครื่องผลิตน้ำจากอากาศ จริงๆ นวัตกรรมนี้มีมา 20-30 ปีแล้ว แต่เพิ่งเข้ามาในไทยเมื่อ 10 กว่าปีก่อน เราเลยสั่งซื้อมาใช้ เพื่อลดการใช้ขวดน้ำพลาสติกในห้องลูกค้า น้ำดื่มที่ได้มีรสชาติคล้ายน้ำฝน  เป็นน้ำดื่มที่สะอาดและมีความสะดวกในการใช้งาน แค่เสียบปลั๊กไฟ ไม่ต้องต่อท่อน้ำ หลังจากนำมาใช้ ลูกค้าหลายคนอยากได้ไปใช้ที่บ้านบ้าง เราเลยได้ช่วยบริษัทขายเกินร้อยเครื่องตั้งแต่ปีแรกที่ได้ใช้ เงินที่ได้มาก็นำไปใช้เป็นกองทุน ช่วยทำจุดเติมน้ำดื่มให้โรงเรียนที่ขาดแคลน ตอนนี้ทำไปได้ 3 แห่งแล้ว

  • แชมพู สบู่ Refill ลดการใช้ครั้งเดียวทิ้ง

 

     เราทำงานด้านออกแบบ  มีความชอบ และอยากออกแบบแพ็กเกจจิ้งพวกแชมพู สบู่ ฯลฯ ของใช้ในห้องพักให้น่ารัก ให้ลูกค้าประทับใจ แต่พอคิดไปคิดมาว่าการทำเป็นซองหรือขวดเล็กๆ หลายขวด และใช้แค่ไม่กี่ครั้งก็ต้องทิ้ง ทำให้เกิดขยะเยอะมาก ก็เลยต้องตัดความชอบนั้นเปลี่ยนวิธีคิด หันมาใช้แบบใส่ขวด Refill ดีกว่า

  • ถุงขยะจากถุงผ้าร่ม ใช้ทนนานหลายปี

 

     ถุงสำหรับใส่ขยะในห้อง ปกติทั่วไปจะใช้เป็นถุงขยะสีดำ หรือถุงพลาสติก แล้วก็ทิ้ง แต่ของเราเปลี่ยนมาเป็นใช้ถุงผ้าร่มแทน คุณสมบัติคล้ายกัน แต่สามารถนำไปซักทำความสะอาด นำกลับมาใช้ซ้ำใหม่ได้นาน อีกอย่างพอเปลี่ยนเป็นถุงผ้าร่ม ลูกค้าก็จะเข้าใจได้เองว่า ไม่ควรทิ้งขยะที่มีน้ำใส่ลงไป ก่อนทิ้งต้องเทน้ำออกก่อน เพราะจะทำให้ถุงเลอะได้ ทำให้เขาได้ฝึกตัวเองไปโดยอัตโนมัติด้วย

  • โปรโมชั่นจูงใจ ลดค่าห้อง 50% ถ้าเริ่มต้นช่วยกันลดขยะ

 

     แต่ก่อนถึงเราจะพยายามลดขยะให้เป็นศูนย์ แต่เราไม่เคยมีการสื่อสารกับลูกค้าออกไปให้ชัดเจน อย่างปิ่นโต ขวดน้ำ ถุงผ้า เราก็จะวางไว้เฉยๆ ให้เขาหยิบใช้เอง ไม่ได้บอกอะไร จนตอนหลังเริ่มรู้สึกว่าไม่ได้แล้ว เราคงต้องสื่อสารออกไปบ้าง แต่จะทำยังไงให้เขารู้สึกไม่อึดอัด ก็เลยลองทำโปรโมชั่นลด 50% ขึ้นมา สำหรับลูกค้าที่ทำได้ 4 ข้อ ได้แก่ 1.พกขวดน้ำส่วนตัวมาด้วย 2.ใช้ปิ่นโต และถุงผ้าที่เตรียมไว้ให้ 3.อุดหนุนร้านค้าชุมชนแทนร้านสะดวกซื้อแบรนด์ใหญ่ และ4.ไม่นำแก้วกาแฟ ขวดน้ำพลาสติกและถุงพลาสติกข้ามมาบนเกาะ ถ้าทำได้ครบ รับส่วนลดค่าห้อง 50% ในการมาพักครั้งต่อไปได้เลย จะมอบสิทธิ์ให้เพื่อนต่อก็ได้ ไม่มีวันหมดอายุ

  • เปลี่ยนเศษอาหาร ให้กลายเป็นปุ๋ย

 

     ทุกเย็นวันเสาร์ พี่จะจัดอาหารซีฟู้ดให้ลูกค้าที่จองบ้านและจองทานอาหารเย็นมา ทำให้มีเศษอาหาร พวกเศษกุ้ง เศษปู พี่มีถังย่อยขยะเศษอาหารเป็นระบบไฟฟ้า พอเอาใส่ลงไป เครื่องจะบดและทำเป็นผงแห้งๆ ออกมา เอาไปใช้แทนปุ๋ยได้เลย    และมีแบ่งให้ลูกค้าเอากลับไปบ้านได้ด้วย

ฝากถึง SME ที่อยากทำธุรกิจให้มีขยะน้อยที่สุด

     “ทุกวันนี้เราแทบจะไม่มีขยะให้ทิ้งเลย จากความตั้งใจบริหารจัดการให้เหลือน้อยที่สุด นอกจากพยายามลดขยะจากที่พักแล้ว พี่ร่วมก่อตั้ง Trash Hero เกาะสีชังด้วย โดยทุกเย็นวันอาทิตย์จะชวนอาสาสมัครไปเก็บขยะที่ชายหาดกัน จริงๆ แล้วในการทำท่องเที่ยวทุกวันนี้พี่มองว่าเราใช้ทรัพยากรธรรมชาติกันฟรีๆ นะ ภูเขา ทะเล น้ำตก ทุกอย่างเราไม่ได้เสียอะไรเลย แต่วันหนึ่งถ้าไม่ดูแล อนาคตข้างหน้าก็อาจจะไม่มีธรรมชาติสวยๆ ให้เราได้ชื่นชมอีก

     “ผู้ประกอบการที่อยากลองเริ่มลดขยะในธุรกิจ ลองเริ่มดูจากง่ายๆ ก่อน คิดว่า 1.มีอะไรบ้างที่เราต้องใช้แล้วทิ้ง เราจะลดลงได้ยังไงบ้าง 2.มีอะไรบ้างที่เราต้องซื้อเข้ามา แล้วทำให้เกิดขยะ เช่น แทนที่จะใส่ถุงหิ้ว เปลี่ยนไปใช้ถุงผ้าแทนได้ไหม หรือของบางอย่าง แทนที่จะใส่ถุงพลาสติก เช่น ขนมปัง เราสามารถหากล่องไปใส่แทนได้ไหม เริ่มทำจากแบบนี้ก่อน ซึ่งจริงๆ ไม่ใช่แค่ช่วยโลก ช่วยสิ่งแวดล้อม การที่ลงมือทำ ก็เป็นผลดีกับเราเองในการช่วยลดต้นทุนด้วย ยกตัวอย่างขวดน้ำพลาสติก สมมติขวดละ 10 บาท 5 ห้อง 10 ขวด ก็ตก 100 บาทต่อวัน เดือนหนึ่งสมมติมีลูกค้า 20 วัน ก็ตกเดือนละ 2,000 บาท ปีหนึ่งก็สองหมื่นกว่าบาท ลองคิดดูถ้าเปลี่ยนมาใช้ขวดแก้ว จะลดรายจ่ายไปได้เยอะเลย พี่เองก็นำเงินส่วนที่เราลดต้นทุนได้ ให้เป็นค่าแรงแม่บ้านเพิ่ม ที่เขาต้องช่วยล้างขวดน้ำ” พี่โม่ฝากทิ้งท้ายเอาไว้

บ้านอยู่ดีมีความสุข

https://www.facebook.com/happyhomekohsichang

Tel /line id 089.168 .9077

 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: ENTREPRENEUR

จับตาผลกระทบการค้าชายแดนไทย เส้นทางธุรกิจแม่สอดเปลี่ยนเป็นสนามรบ

กับสถานการณ์การสู้รบในเมียนมาใกล้ชายแดนไทยยังคงร้อนระอุนับตั้งแต่กองกำลังกะเหรี่ยง KNU และกองกำลังปกป้องประชาชน PDF “เข้ายึดฐานปฏิบัติการ 275 ในเมียวดี” ส่งผลต่อกระทบเส้นทาง “แนวระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก-ตะวันตก (East-West Economic Corridor-EWEC)” ของไทย

ทำธุรกิจซัก-รีด ยังไงให้มีรายได้สาขาละแสน ล้วงความลับกับเจ้าของแบรนด์ ตั้งใจซัก

หนึ่งในธุรกิจที่ขึ้นชื่อว่าเป็น “เสือนอนกิน” นั้นต้องมีธุรกิจเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญติดในลิสต์เป็นอันดับต้นๆ ทำให้ธุรกิจนี้เติบโตเป็นพิเศษโดยเฉพาะในช่วงโควิดที่ผ่านมา มีผู้ประกอบการที่สนใจเปิดธุรกิจนี้มากมาย แต่ถึงแม้จะเป็นธุรกิจเสือนอนกิน ใช่ว่าทุกคนจะเป็นเสือที่ได้กินธุรกิจนี้ง่ายๆ

Erabica Coffee ผู้ปักหมุด กาแฟน่าน ให้เป็นที่รู้จักระดับประเทศ

นี่คือสองสามีภรรยา ที่อยากมาใช้ชีวิตบั้นปลายที่น่าน คิดสร้างแบรนด์กาแฟของตัวเองขึ้นมาในชื่อ Erabica (เอราบิก้า) กลายเป็นการยกระดับกาแฟน่านเป็นที่รู้จักเพิ่มมากขึ้น