ทำธุรกิจซัก-รีด ยังไงให้มีรายได้สาขาละแสน ล้วงความลับกับเจ้าของแบรนด์ ตั้งใจซัก

TEXT : Neung Cch.

PHOTO : ตั้งใจซัก

 

     หนึ่งในธุรกิจที่ขึ้นชื่อว่าเป็น “เสือนอนกิน” นั้นต้องมีธุรกิจเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญติดในลิสต์เป็นอันดับต้นๆ ทำให้ธุรกิจนี้เติบโตเป็นพิเศษโดยเฉพาะในช่วงโควิดที่ผ่านมา มีผู้ประกอบการที่สนใจเปิดธุรกิจนี้มากมาย แต่ถึงแม้จะเป็นธุรกิจเสือนอนกิน ใช่ว่าทุกคนจะเป็นเสือที่ได้กินธุรกิจนี้ง่ายๆ

     ภายใต้ธุรกิจที่ดูเหมือนจะจัดการง่าย นั้นมีรายละเอียดมากมายบางคนคืนทุนไว บางคนยังหากำไรไม่เจอ สาเหตุเป็นเพราะอะไร ลองไปฟังจูน-ปิยเวศม์ เพ็งผอม เจ้าของแบรนด์ "ตั้งใจซัก" ค้นพบวิธีทำให้เขาสามารถสร้างรายได้หลักแสนต่อเดือนให้กับธุรกิจซักรีดของเขาที่ปัจจุบันมีทั้งหมด 8 สาขาอยู่สุราษฎร์ธานี 6 สาขาและสงขลา 2 สาขา

 

กลยุทธ์ป่าล้อมเมือง ทฤษฎีที่ไร้คนเห็นด้วย

     ปิยเวศม์ เท้าความให้ฟังว่าเขารู้จักธุรกิจนี้เมื่อประมาณ 6-7 ปีที่แล้ว มีความสนใจก่อนที่จะลงทุนจึงไปศึกษา พบว่าจุดแข็งของธุรกิจนี้คือ fix cost หรือต้นทุนในการดำเนินธุรกิจค่อนข้างต่ำกว่าธุรกิจอื่นมากถ้าเทียบกับธุรกิจอื่นๆ ของตัวเอง ทั้งธุรกิจหอพัก ธุรกิจคาเฟ่ ธุรกิจอาหาร

     “พอผมวิเคราะห์ว่าธุรกิจนี้ fix cost ต่ำ ก็มองว่าตัวเราเองมีที่ดินตรงไหนบ้าง อยากไปเปิดร้านโดยไม่จ่ายค่าเช่า ซึ่งผมมีที่ดินอยู่อำเภอ คีรีรัฐนิคม จังหวัดสุราษฎร์ธานี ก็เลยเลือกไปเปิดต่างอำเภอเพราะไม่ต้องจ่ายค่าเช่าเพื่อต้องการประหยัดต้นทุน”

     ด้วยเจตนาแน่วแน่ที่จะไปเปิดร้านสะดวกซักนอกอำเภอเมือง ปิยเวศม์ จึงชวนตัวแทนขายเครื่องซักผ้าไปดูสถานที่ พอตัวแทนเห็นสถานที่ก็ให้คำแนะนำกลับมาว่า “อย่าลงทุนเลยไม่เวิร์ค” โดยเหตุผลคือ การจะเปิดร้านสะดวกซัก จะต้องเลือกทำเลที่มีความหนาแน่นของประชากร มีมนุษย์เงินเดือนหรือประชากรแฝงต่างถิ่นมาทำงานหรืออาศัยในย่านนั้นๆ และเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยมีบริเวณที่ตากผ้าน้อย จึงเหมาะที่จะลงทุน

     ไม่ใช่แต่แค่ตัวแทนที่ไม่สนับสนุนแม้แต่คุณแม่หรือภรรยาของเขาต่างก็ไม่เห็นด้วยกับการเปิดร้านซักอบรีดนอกเขตอำเภอเมือง แต่ ปิยเวศม์ หาได้ลดละความพยายาม ตรงกันข้ามเขาเพิ่มความพยายามลงทุนไปสำรวจความคิดเห็นคนในละแวกนั้นด้วยตัวเอง ซึ่งคำตอบก็ไม่ได้ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้เขา เพราะ 9 ใน 10 คนที่เขาไปสอบถามไม่สนใจที่จะซักผ้าด้วยเครื่อง มีเพียงหนึ่งคนที่สนใจซึ่งเป็นคนที่เช่าบ้านเขาอยู่

     “สิ่งที่ผมทำไม่สอดคล้องกับสิ่งที่คนอื่นเขาทำ เบื้องต้นผมมองว่าผมไม่อยากเสียค่าเช่า ซึ่งก็จะมีค่า fix cost คือค่าไฟกับค่าอินเทอร์เน็ตประมาณเดือนละหนึ่งพันเท่านั้น จึงตัดสินใจเปิด พอผมเปิดสาขาที่หนึ่ง เชื่อไหมเดือนแรกผมมีรายได้ 30,000-40,000 บาท เดือนที่สอง ขึ้นมา เป็น 70,000 บาท เดือนที่ 3 ขึ้นมา 100,000 บาท”

บังเอิญหรือของแทร่

     แม้จะมีรายได้การันตีแต่ปิยเวศม์เองก็ยังไม่แน่ใจว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมันเรียกว่าอะไร เขาจึงยังไม่กล้าขยับขยายกิจการ แต่ใช้ระยะเวลาเป็นเครื่องพิสูจน์

     “ผมเปิดธุรกิจนี้ครั้งแรกกลางปี 2565 ผมรอถึงกลางปี 2566 เพื่อดูว่าธุรกิจจะเป็นอย่างไร พอครบหนึ่งปีเต็ม รายได้ผมไม่เคยต่ำกว่า 100,000 บาท สูงสุดคือ 150,000 ต่อเดือนสาขาเดียว ผมก็เลยรู้สึกว่า มันไม่ใช่เรื่องฟลุ๊คแล้ว แปลว่าเรามาถูกทาง ประมาณเดือนมิถุนายน 2566 ผมก็เริ่มขยายสาขาเพิ่มเดือนละหนึ่งสาขา จนถึงปัจจุบันเดือนเมษายน 2567 ผมก็มี 8 สาขาอยู่ต่างอำเภอหมดเลย”

เทคนิคสร้างรายได้ซักอบรีดหนึ่งแสนบาท

     แม้การเปิดร้านสะดวกซักของแบรนด์ ตั้งใจซัก อาจดูขัดกับการตลาดทั่วไปแต่กลับประสบความสำเร็จได้นั้น ปิยเวศม์ ให้เหตุผลว่ามาจากปัจจัยเหล่านี้

     หนึ่ง : เรื่องการตกแต่งร้าน นอกจากความสวยงามแล้ว ยังต้องคำนึงถึงความสะดวกสบายลูกค้า จัดผังร้านให้ flow ให้ลูกค้าก้ม เงยเก็บผ้าได้สะดวก

     สอง : การบริการที่เป็นมาตรฐานแบบมืออาชีพ อาทิ การฝึกพนักงานต้อนรับลูกค้า ตั้งแต่การกล่าวคำทักทาย การอัปเดตข้อมูลใหม่ให้พนักงานทราบทุกสองอาทิตย์ เพื่อให้เค้าได้มีข้อมูลไปคุยกับลูกค้าต่อไป

     “วันนี้ร้านสะดวกซักเกิน 70% มีพนักงานคอยช่วยบริการแล้วครับ ช่วยดูแลเอาผ้ามาปุ๊บไม่ต้องลงจากรถ รถกระจกบอกว่าช่วยซักอบให้หน่อย คุณสามารถไปดูหนังหรือไปเดินห้างสรรพสินค้าได้

    สาม : ราคาเข้าถึงคนทุกกลุ่ม

     ปัจจุบันค่าซักผ้าของแบรนด์ตั้งใจซักเริ่มต้นที่ 20 บาท ส่วนราคาการอบผ้า 40 บาท

     “ถามว่าทำไมถึงทำกลยุทธ์ราคาต่ำ เพราะผมเปิดต่างอำเภอ ไม่มีคู่แข่ง แล้วที่ผมทำราคาต่ำเพราะว่า ได้แรงบันดาลใจจากป้าแม่บ้านดูแลหอให้ผมเขามีรายได้วันละ 350 บาท เขาเองต้องการซื้อความสะดวกสบาย หากต้องซักผ้าของตัวเองรวมกับสามีและลูกด้วยมือเปล่า ป้าคงไม่มีแรง หรือไม่มีเวลาไปทำมาหากิน ถ้าต้องไปซักเครื่องที่มีราคาแพงก็คงไม่พอกับรายได้ นี่คือแรงบันดาลใจของผมว่าผมจะเปิดร้านสะดวกซักที่เข้าถึงคนกลุ่มแรงงาน หรือกลุ่มคนมีรายได้น้อย”

     สี่ : เลือกแบรนด์เครื่องซักผ้าที่ได้ระดับมาตรฐานโลก ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการซักผ้า

     “ตอนนี้ผู้บริโภคยังไม่ค่อยคำนึงถึงเรื่องแบรนด์เครื่องซักผ้ามากนัก การมีแบรนด์ที่ดีจะช่วยทำให้ผ้าสะอาด เพราะเขาจะใส่ใจทุกขั้นตอน เช่น มีการกรองน้ำถึง 3 ชั้น รวมถึงมีการปรับค่า PH เพื่อทำให้น้ำยาซักเกิดประสิทธิภาพสูงสุด ภายในเครื่องหลังจากซักผ้าแล้วไม่มีคราบสกปรกตกค้าง ผมถึงว่าแบรนด์เครื่องซักผ้าก็สำคัญ ผมเลือกใช้แบรนด์ speed queen เป็นแบรนด์อันดับ 1 จากประเทศอเมริกา ที่ธุรกิจซักผ้าอบผ้าอุตสาหกรรมมา 138 ปีแล้ว”

     ห้า : ทำเลดีอาจไม่ใช่คำตอบ

     ปิยเวศม์ บอกว่าตราบใดที่ยังไม่มีนวัตกรรมที่ใส่เสื้อผ้าแล้วไม่ต้องซัก ธุรกิจซักอบรีดก็ยังไปต่อได้ เพียงแต่ว่าถ้าธุรกิจมันจะตันถึงคืนทุนช้า เพราะการเอาเงินไปจมกับการเช่าร้านในสถานที่ที่ค่าเช่าแพง มีการแข่งขันสูง แต่จำนวนคนซักผ้ามีปริมาณเท่าเดิม โอกาสที่โดนแบ่งเค้ก รายได้น้อยลงเรื่อยๆ

     “ถ้าไปเปิดแข่งกับเจ้าอื่นต้องถามตัวเองว่าคุณมีดีกว่าเขาอย่างไร เช่น มีที่จอดรถ มีพนักงานช่วยพักช่วยชักช่วยอบให้ คือต้องไปเพิ่มส่วนของงานบริการหรือฟังก์ชั่น แต่ถ้าคุณไม่มีสิ่งเหล่านี้ ผมแนะนำว่าควรไปเปิดในพื้นที่ทำเลที่ยังไม่มีการแข่งขันสูงดีกว่า”

     หก : จำนวนเครื่องซักที่เหมาะสม

     จากประสบการณ์ของเจ้าแบรนด์ ตั้งใจซักนั้น เรื่องจำนวนเครื่องซักถือประเด็นสำคัญ หลายคนอาจอยากลงเครื่องน้อยๆ เพื่อประหยัดต้นทุน แต่จริงๆ แล้ว ถ้าเครื่องซักผ้าน้อยเกินไปก็จะทำให้ลูกค้าต้องเสียเวลารอและอาจไม่มาใช้บริการ ดังนั้นเขาแนะนำว่าอย่างน้อยร้านควรมีเครื่องซักผ้า 5 เครื่องเครื่องอบ 4 เครื่อง 

     เจ็ด : การตลาดต้องถึง

     โดยเฉพาะช่วงเปิดร้านใหม่ๆ ต้องทำการตลาดไม่ว่าจะเป็นการยิงแอดเฟซบุ๊ก การติดป้ายกองโจรเหมือนป้ายหาเสียงตามจุดต่างๆ หรือการยิงสปอตวิทยุเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ แต่สุดท้ายแล้วการตลาดที่สำคัญที่สุดคือการบอกต่อ คือการที่ลูกค้าประทับใจในบริการ ตรงนี้คือการบอกต่อที่ดีที่สุดแล้วจะเกิดการใช้ซ้ำดีที่สุด 

     แปด : ใช้ดาต้าได้วิ่งขับเคลื่อนธุรกิจ 

     ถึงแม้จะเป็นแค่ร้านสะดวกซัก แต่ปิยเวศม์ ไม่ได้ปล่อยธุรกิจเป็นไปตามมีตามเกิด ตรงกันข้ามเขาใส่ใจทุกอย่างแม้กระทั่ง การนำข้อมูลมาวิเคราะห์ อย่างเช่น ร้านที่สาขาแรก ตั้งอยู่หน้าโรงเรียน มีรถมาจอดเยอะมากแต่ไม่ร้านกลับไม่มียอดเลย เขาจึงไปดูกล้องวงจรปปิดทำให้ทราบว่าลูกค้ามาจอดรถรอรับลูก จากข้อมูลตรงนั้นแทนที่จะห้ามลูกค้ามาจอดรถเขาก็กลับทำตรงกันข้ามไปซื้อกาแฟ โอวัลติน ไว้บริการคนที่มาจอดรถ

     “ผมก็หมดเงินเยอะตรงนี้เหมือนกัน แต่สิ่งที่ผมได้คือแบรนด์รอยัลตีที่คุ้มมาก ซึ่งคนไทยเป็นคนที่เกรงใจ มากินกาแฟหรือร้านก็เลยเอาผ้ามาซัก มันกลายเป็นไวรัลด้วย มาซักผ้าร้านนี้ 20 บาทกินขนมกาแฟไปแล้ว 50 บาท” ปิยเวศม์เล่าไปหัวเราะไป

     เก้า : ต้องมีความเห็นอกเห็นใจ

     “เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญในการทำธุรกิจ ต้องมีความเห็นอกเห็นใจไม่ว่จะเป็นเห็นอกเห็นใจ ผู้บริโภค พนักงาน ซัพพลายเออร์ ฯลฯ พอเรามีความเห็นอกเห็นใจผมว่าตรงนี้เป็นคีย์ซัสเซย์จริงๆ แม้การทำธุรกิจต้องมีกำไรเพื่อให้ดำรงธุรกิจไปได้ แต่ผมไม่หวังผลสูงสุด คำว่าไม่กำไรสูงสุดก็คือแบ่งให้ลูกค้าเป็นหลัก อย่างเช่นตั้งราคาซัก ต้องทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าเค้าได้ประโยชน์มาก แล้วเขาก็ชนะในเกมนี้”

     สิบ : การจัดการอย่างมืออาชีพ จะช่วยให้ลูกค้าไม่หนีไปไหน

     “ปัจจุบันมีร้านซักรีดเกิดขึ้นมา 3-4 ราย ซึ่งผลกระทบต่อร้านตั้งใจซักคือ ทำมีรายได้ยอดสูงขึ้น งงใช่ไหม แต่ผมไม่งง 

     ร้านอื่นที่เปิดมา บางทีตอนเย็น เจ้าของร้านเปิดวงเหล้าข้างร้าน อย่างงี้เรียกว่าการเปิดร้านแบบมืออาชีพไหม ถ้าคุณเป็นลูกค้าจะเลือกเข้าร้านไหน ยิ่งพอเขาได้ไปบริการร้านเหล่านั้น ทำให้เขาเกิดการเปรียบเทียบอยากกลับมาใช้บริการร้านตั้งใจ”

     ใครที่ทำธุรกิจซักรีดแล้วยังไม่คืนทุนลองนำ 10 นี่ไปปรับใช้ได้

ตั้งใจซัก

บริษัท Nothing Impossible

Facebook: https://www.facebook.com/tjs.nasan

โทรศัพท์: 095 549 6452

 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: ENTREPRENEUR

Egg E Egg Egg ร้านอาหารจีน สูตรแต้จิ๋ว ขายวันละ 3 ชั่วโมง เตรียมส่งไม้ต่อรุ่นที่ 3

Egg E Egg Egg คือชื่อของร้านอาหารบรรยากาศที่บ้าน ตั้งชื่อตามเสียงไก่ขัน ขายเมนูง่ายๆ ผ่านกระบวนการปรุงแบบภัตตาคาร ขายแค่บรานซ์ (Branch) วันละ 3 ชั่วโมง

จับตาผลกระทบการค้าชายแดนไทย เส้นทางธุรกิจแม่สอดเปลี่ยนเป็นสนามรบ

กับสถานการณ์การสู้รบในเมียนมาใกล้ชายแดนไทยยังคงร้อนระอุนับตั้งแต่กองกำลังกะเหรี่ยง KNU และกองกำลังปกป้องประชาชน PDF “เข้ายึดฐานปฏิบัติการ 275 ในเมียวดี” ส่งผลต่อกระทบเส้นทาง “แนวระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก-ตะวันตก (East-West Economic Corridor-EWEC)” ของไทย

Erabica Coffee ผู้ปักหมุด กาแฟน่าน ให้เป็นที่รู้จักระดับประเทศ

นี่คือสองสามีภรรยา ที่อยากมาใช้ชีวิตบั้นปลายที่น่าน คิดสร้างแบรนด์กาแฟของตัวเองขึ้นมาในชื่อ Erabica (เอราบิก้า) กลายเป็นการยกระดับกาแฟน่านเป็นที่รู้จักเพิ่มมากขึ้น