อร่อยเอาเรื่อง ขายคอนเฟลกคาราเมลยังไง แค่ปีเดียว สร้างรายได้ 100 ล้านบาท

Text : Ratchanee P.


     ใครจะคิดว่าขนมที่เริ่มจากการทำเล่นๆ ตอนลูกหลับ จะกลายเป็นธุรกิจที่คนทั้งประเทศติดใจ “อร่อยเอาเรื่อง” แบรนด์คอนเฟลกคาราเมลของ แตม-ชัญญานุช สมเจษ เริ่มต้นจากศูนย์จริงๆ ไม่มีแผนการตลาด ไม่มีทีมงาน ไม่มีทุนก้อนโต มีแค่สูตรโบราณจากคุณแม่สามี เตาอบราคา 3,000 กว่าบาท และแรงฮึดของคนที่อยากหารายได้เสริม แต่ไม่คิดว่าจะ “เอาเรื่อง” ขนาดนี้

จากออเดอร์หลักสิบ สู่ออเดอร์หลักพันต่อวัน

     จุดเริ่มต้นของอร่อยเอาเรื่อง เกิดขึ้นจากคอนเฟลกสูตรคุณแม่สามีที่ทำกินกันในบ้านมานานกว่า 10 ปี ทุกคนที่ได้ลองต่างติดใจ ช่วงรอรับปริญญาชัญญานุชเคยหยิบสูตรนี้มาทำขายเล็กๆ น้อยๆ แล้วก็หยุดไป ก่อนจะกลับมาเริ่มต้นจริงจังเมื่อปลายปี 2566 เพราะอยากหารายได้เสริมจากธุรกิจหลักที่บ้านและงานราชการของสามี

     หลังจากลูกเข้านอน ทั้งคู่จะลงมานั่งอบขนมด้วยกัน ใช้ครัวที่บ้าน อบคอนเฟลกด้วยเตาอบราคา 3,000 กว่าบาท สดใหม่แบบโฮมเมด แล้วก็ไลฟ์ขายเอง เริ่มจากขายได้วันละ 40 กระปุก พอคนได้ลองก็เริ่มปากต่อปาก ส่งรีวิวให้กัน กลายเป็นว่าของหมดแทบทุกวัน และออเดอร์ก็เพิ่มขึ้นแบบไม่มีเวลาตั้งตัว

     “ตอนนั้นเรายังไม่มีแบรนด์ ไม่มีโลโก้ ไม่มีแผนการตลาดอะไรเลย พอเจอรูปถ่ายลูกสาวที่เอาเรื่อง ก็หยิบเอามาเป็นโลโก้ แล้วนึกคำว่าอร่อย เพราะเป็นของกิน ก็เลยเอามารวมกันเป็นชื่อแบรนด์อร่อยเอาเรื่องใช้เวลาไม่ถึงนาที”

     จากการผลิตหลักสิบ กลายเป็นในวันนี้อร่อยเอาเรื่องขายได้วันละ 2,000 กระปุก มีทีมงาน 20 คน และทุกกระปุกยังผ่านมือคนคัดแบบเดิม 3 ขั้นตอน ก่อนถึงมือลูกค้า เพราะเธอยังยืนยันว่าจะไม่ทิ้งความเป็นโฮมเมดที่เป็นจุดเริ่มต้นของทุกอย่าง

ทำของให้อร่อยจริง แล้วลูกค้าจะขายให้เราเอง

    ชัญญานุช เชื่อในพลังของสินค้าที่ดีมากกว่าการตลาดแพงๆ เพราะทุกอย่างที่ทำมา ไม่ได้เริ่มจากแผนการขายเลยสักนิด ทุกขั้นตอนคือความตั้งใจให้ลูกค้าได้รับประทานของดี โดยไม่ลดคุณภาพเพื่อมีกำไรมากขึ้น

     แผ่นคอนเฟลกที่เลือกใช้คือชนิดบางที่ทำจากข้าวโพด 100% ซึ่งราคาสูงและแตกง่ายกว่าชนิดหนาๆ ที่ร้านอื่นนิยมใช้ซึ่งต้นทุนต่ำและผลิตง่ายกว่า แต่ชัญญานุชบอกว่า “เรายังใช้แบบที่แม่สามีทำให้ทานเมื่อสิบปีก่อน เพราะรู้ว่ามันอร่อยกว่า และเราก็ไม่อยากเปลี่ยน”

     ทุกวัตถุดิบถูกคัดพิเศษ เม็ดมะม่วงใช้เกรดจัมโบ้เต็มเม็ด ไม่มีการใช้ของแตกหัก ผ่านการล้างโอโซนก่อนอบ ใช้เนยสด 100% ไม่ผสมมาการีน ไม่ใช้น้ำผึ้งหรือนมข้นหวาน เพราะอยากให้รสออกมาชัด หอม และไม่หวานเกิน ที่สำคัญทุกอย่างทำวันต่อวัน จึงสดใหม่เสมอ

     แม้ต้นทุนจะสูงขึ้นเรื่อยๆ จากวัตถุดิบและค่าแรง ชัญญานุช เลือกที่จะไม่ขึ้นราคาสินค้า แต่ไปลดต้นทุนในส่วนอื่นแทน เช่น ถุงบรรจุภัณฑ์ที่สั่งแบบวอลุ่มเพื่อได้ราคาถูกลง หรือออกแบบถุงใหม่ให้พอดีกับขนม เพื่อไม่ต้องใช้วัสดุเกินจำเป็น

     “เราไม่ได้ตั้งราคาแล้วไปลดของข้างใน แต่ทำของให้ดีที่สุดก่อน แล้วค่อยบวกเผื่อไม่ให้ขาดทุน เพราะของที่ดีจริง ราคาที่เหมาะสม มันจะขายตัวมันเองได้”

TikTok เปลี่ยนชีวิต แต่ลูกค้าซ้ำคือหัวใจของธุรกิจนี้

     ช่องทางหลักของอร่อยเอาเรื่องคือ TikTok แต่ชัญญานุชเองไม่ได้เป็นแม่ค้าที่ต้องขึ้นไลฟ์เองทุกวัน กลับเป็นลูกค้าและนายหน้าที่กลายมาเป็นพาร์ตเนอร์ช่วยขายให้ เพราะคนที่ซื้อแล้วชอบ มักจะรีวิว แล้วปักตะกร้า จนสร้างยอดขายแบบทวีคูณ

     “บางคนทำรีวิวจนได้ค่าคอมเป็นแสนต่อเดือน เราก็ดีใจที่เขาได้รายได้ไปด้วย” ชัญญานุชเล่า โดยบอกว่าไม่ได้มีการตลาดอะไรจริงจัง ไม่มีดาราจ้าง ไม่ได้ยิง Ad แต่เป็นการเติบโตแบบ Organic ล้วนๆ

    สิ่งที่เธอให้ความสำคัญที่สุดคือ “ลูกค้าซื้อซ้ำ” เพราะจากข้อมูลหลังบ้านพบว่า ยอดขายหลักๆ มาจากลูกค้าเดิมแค่ไม่กี่หมื่นคนที่วนกลับมาซื้อซ้ำกันต่อเนื่อง “ของมันต้องอร่อยจริง คนถึงจะซื้อซ้ำได้เรื่อยๆ”

     ตอนนี้อร่อยเอาเรื่องกำลังขยายแบรนด์ ปรับแพ็กเกจใหม่ วางแผนส่งออก และเริ่มมีร้านสะดวกซื้อติดต่อเข้ามา แม้จะยังไม่ได้เริ่มแผนใหญ่ แต่ชัญญานุช ก็เตรียมทุกอย่างไว้แล้ว รวมถึงการขอ อย. ให้พร้อมสำหรับทุกโอกาสที่อาจเข้ามา

เริ่มก่อน แล้วทางมันจะพาเราเดินเอง

     “สิ่งที่ยากที่สุดในการทำธุรกิจคือการ ‘เริ่ม’ ไม่ใช่การทำ” ชัญญานุช บอกแบบตรงไปตรงมา เพราะเธอเองก็เริ่มโดยไม่รู้แม้กระทั่งระบบ TikTok ต้องเสียอะไร หรือจะไลฟ์ยังไงให้ขายได้

     แต่เมื่อเริ่มลงมือ ทุกอย่างก็ค่อยๆ เรียนรู้ได้เองระหว่างทาง “ทางมันจะบังคับให้เราเดิน” เธอบอกแบบเรียบง่าย  ทุกปัญหาที่เคยเจอ กลายเป็นต้นทุนของการเติบโตในวันนี้  

     และแม้วันนี้จะขายดี รายได้ระดับ 8 หลักต่อเดือน แต่ชัญญานุชก็ยังไม่รู้สึกว่าประสบความสำเร็จ เพราะเป้าหมายไม่ใช่ยอดขาย แต่คือการ “ทำให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ในทุกวัน เธอเองก็ไม่กลัวเลยถ้าวันหนึ่งคอนเฟลกคาราเมลจะเลิกฮิต เพราะรู้ว่าสิ่งที่ได้มาคือประสบการณ์ ที่จะต่อยอดไปทำอะไรใหม่ๆ ได้อีกเสมอ และถ้าสักวันหนึ่งต้องเริ่มใหม่ เธอก็มั่นใจว่าจะเริ่มใหม่ได้ด้วยบทเรียนที่สะสมไว้

 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: ENTREPRENEUR

SomTum แจ้งเกิดสินค้าแปรรูปไทยสไตล์ โตในต่างแดน สร้างรายได้กว่า 200 ล้านบาทต่อปี 

รู้จัก SomTum แบรนด์อาหารแปรรูป ลูกชิ้น ไส้กรอก หมูปิ้ง ที่เติบโตในต่างประเทศ จนถึงสร้างโรงงานผลิตที่ประเทศออสเตรเลีย และมีรายได้ 200 ล้านบาทต่อปี 

Business DNA: แกะรหัส 9 วิธีคิดธุรกิจ จาก 9 ชาติที่สร้างอิทธิพลให้โลก

ญี่ปุ่นไม่ได้ชนะเพราะขยัน อเมริกาไม่ได้เก่งแค่เพราะทุน จีนไม่ได้โตแค่เพราะคนเยอะ เพราะแต่ละประเทศมี DNA ทางธุรกิจเฉพาะตัว ที่ทำให้เขาไม่แค่ “โต” แต่ “โตจนทั้งโลกต้องหันมามอง” ไปดู 9 DNA ธุรกิจระดับโลกกัน

สูตรลับทายาทรุ่น 4 พลิกร้านยาไพรสินโอสถ 130 ปี ขายดีพุ่งเท่าตัวใน 1 ปี

แม้จะมีของดีที่สืบทอดมานาน แต่ถ้าไม่ปรับตัวสุดท้ายก็อาจกลายเป็นแค่ตำนาน แต่ไพรสินโอสถ ร้านยาสมุนไพรเก่าแก่กว่า 130 ปี จากตรัง ไม่ได้เป็นเช่นนั้น เมื่อ โอ๊บ-ธนโชติ ทายาทรุ่น 4 ต่อยอดอย่างเข้าใจคนรุ่นใหม่ จนยอดขายพุ่งเท่าตัวในปีเดียว