Text : นเรศ เหล่าพรรณราย

     กระแสของการนำสกุลเงินดิจิทัลมาใช้ชำระค่าสินค้าและบริการกำลังเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นฝั่งผู้ประกอบการหรือผู้ใช้งาน แต่ยังมีความเข้าใจผิดๆ เกิดขึ้นด้วยเช่นกัน เรามาดูกันว่าความเข้าใจที่ถูกต้องของการนำสกุลเงินดิจิทัลมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวันมีอะไรบ้าง ซึ่งไม่ว่าจะเป็นผู้ประกอบธุรกิจหรือผู้ใช้งานจะต้องเรียนรู้ไว้เพื่อที่จะก้าวตามทันเทคโนโลยี รวมถึงไม่ทำให้เกิดผลขาดทุนในการไปเก็งกำไร

 

 

- บิตคอยน์ไม่ใช่ Medium of Exchange แต่เป็น Store of Value แม้ว่าจะมีการนำสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างบิตคอยน์มาใช้ในการชำระค่าสินค้าและบริการ แต่ในความเป็นจริงบิตคอยน์ไม่น่าจะถูกจัดให้เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน หรือ Medium of Exchange เช่นเดียวกับสกุลเงินทั่วไป เนื่องจากมีความผันผวนของราคาในระดับสูง แต่มีสถานะเป็นสิ่งกักเก็บมูลค่า หรือ Store of Value เช่นเดียวกับทองคำ นั่นคือเวลาที่เราสะสมทองคำเราไม่ได้มีแนวคิดที่จะนำทองคำที่มีมาใช้แทนเงิน แต่เป็นการสะสมความมั่งคั่งให้เพิ่มขึ้นตามกาลเวลานั่นเอง 

 

 

- มองเป็นการนำความมั่งคั่งบางส่วนมาใช้จ่าย เมื่อเรามีการสะสมบิตคอยน์เพื่อสะสมมูลค่าความมั่งคั่ง เราก็สามารถแบ่งความมั่งคั่งที่มีนั้นมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวันได้ เช่น หากเรามีบิตคอยน์อยู่ในตัว 1 BTC ซึ่งอาจจะมีมูลค่าประมาณ 2 ล้านบาท เราสามารถนำมูลค่าของบิตคอยน์ที่มีอยู่บางส่วนมาใช้จ่ายได้

ทั้งนี้บิตคอยน์มีคุณสมบัติในการนำมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวันที่ดีกว่าทองคำ เนื่องจากร้านค้าทั่วไปไม่น่าจะรับชำระค่าสินค้าและบริการด้วยทองคำ และทองคำที่ถือครองแม้จะมีหน่วยเล็กที่สุด 25 สตางค์ก็ยังไม่สะดวกที่จะนำมาใช้แทนเงินอยู่ดี โดยเฉพาะในยุคที่กำลังเข้าสู่สังคมไร้เงินสด จึงเป็นโอกาสดีที่จะใช้บิตคอยน์ที่สะสมไว้มาใช้จ่ายซึ่งต่างจากทองคำที่เหมาะกับการเก็บสะสมเพียงอย่างเดียว